ครั้งหนึ่งผมได้เผชิญหน้ากับชายนิรนามผู้หนึ่ง ภาพการพบปะในครั้งนั้นยังคงติดตาผมอยู่ แม้กระทั่งทุกวันนี้ ผมยังคงจดจำรายละเอียดของเขาผู้นั้นได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ผมยังเป็นเด็กนักเรียนประถม ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ผมกับเพื่อนพากันไปจับตัวแมงกว่างที่ชายป่าหลังบ้าน ซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้เถาวัลย์ ป่าหวาย สะแก ข่อย แผ่กิ่งใบปกคลุมดูครึ้มสลัว เงียบวังเวงจนดูน่ากลัวในบางครั้ง แม้บรรยากาศจะดูสงัดเงียบวิเวกวังเวง แต่ผมกับเพื่อนก็ไม่ได้วิตก แดดยังจ้าอยู่ คงยังไม่ถึงสี่โมงเย็น และผมก็ตั้งใจว่าจะไปแค่ชายป่าหลังบ้าน เป้าหมายก็คือต้นสะแกข้างๆทางเกวียน ผมปีนขึ้นไปบนยอดเห็นแมงกว่างเกาะอยู่แถวๆปลายกิ่ง ส่วนเจ้าเพื่อนซี้ผมเดินงุ่มง่ามอยู่แถวโคนต้น
เมื่อจับแมงกว่างได้หลายตัว คิดว่าพอแล้ว กะจะโหนกิ่งสะแกแล้วทิ้งตัวลงพื้นดิน ผมมองหากิ่งสะแกที่เหมาะๆ แต่พลันนั้นเองผมก็ยืนตัวเย็นเฉียบ เมื่อสายตาของผมปะเข้ากับสิ่งหนึ่งซึ่งผมไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เห็น สาบานได้ว่าตอนนั้นสติสัมปชัญญะของผมยังครบถ้วนบริบูรณ์
สิ่งที่ผมเห็นนั้นยืนอยู่บนพื้นดิน ห่งจากต้นสะแกที่ผมเกาะอยู่ราว 8-10 เมตร รูปร่างเหมือนมนุษย์ สูงขนาดชายไทยทั่วๆไป ร่างนั้นยืนสงบนิ่งขาแยกจากกันเล็กน้อย แต่…ไอ้ที่ผมต้องตะลึงงันก็คือ ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้าของเขาโปร่งใสมองทะลุไปเห็นต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังได้ แถมที่หัวนั้นไม่มีหู ไม่มีจมูก ไม่มีปาก มันราบเรียบไปหมด สิ่งที่ปรากฏบนใบหน้ามีเพียงวงกลมๆขนาดเท่าไข่ไก่สองวงสีส้ม ผมคาดว่าน่าจะเป็นดวงตา แต่มันเบิกโพลงแน่นิ่งไม่กระพริบ
ผมคิดว่าเพื่อนผมที่อยู่ข้างล่างตรงโคนต้นสะแกคงมองตามสายตาผมแล้วก็คงยืนตัวแข็งจ้องเขม็งเช่นเดียวกับผมเหมือนกัน เราทั้งหมดต่างเงียบกันอยู่อึดใจหนึ่ง แล้วผมก็รู้สึกว่าใบหน้านั้นทำทีเหมือนจะยิ้ม พอถึงจุดนี้ผมก็ไม่อาจทนต่อไปได้ ผมร้องไม่เป็นภาษาออกมาสุดเสียง โจนลงจากต้นสะแกได้อย่างไรก็ไม่รู้ แล้ววิ่งแน่บตรงกลับบ้านโดยมีเจ้าเพื่อนของผมวิ่งตามมาติดๆ
ผมขึ้นไปนั่งตัวสั่นอยู่บนบ้านท่ามกลางความตกอกตกใจของพ่อแม่พี่น้อง กว่าผมจะเปิดปากเล่าให้ฟังได้ก็อีกตั้งร่วมชั่วโมง ทุกคนฟังแล้วก็ได้แต่งงงัน เขาผู้นั้นเป็นใครมาจากไหน จะว่าเป็นภูตผีปีศาจก็ไม่เชิง สัตว์ประหลาดก็ไม่น่าจะใช่ แล้วคุณผู้อ่านล่ะ คิดว่าเขาเป็นใคร!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น