โดยมีจรวด Atlas เป็นตัวผลักดันออกจากโลกด้วยความเร็ว 51,810 กม./ชม.
ซึ่งเป็นการทำสถิติความเร็วใหม่ของยานหรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
ยานไพโอเนียร์ 10 ใช้เวลาเดินทางเพียง 11 ชม.ก็บินผ่านพระจันทร์มุ่งหน้าสู่ดาวอังคาร ซึ่งก็ใช้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน ก็ผ่านวงโคจรดาวอังคารออกไป
15 กรกฎาคม 2515 ยานไพโอเนียร์ 10 ก็บินผ่านกลุ่มดาวพระเคราะห์น้อยไปได้อย่างปลอดภัย และนับเป็นยานอวกาศลำแรกที่ต้องบินผ่าน
กลุ่มดาวพระเคราะห์น้อยที่อันตรายนี้ จากนั้นจึงเร่งความเร็วขึ้นถึง 132,000 กม./ชม.มุ่งหน้าสู่ดาวพฤหัส
3 ธันวาคม 2516 ยานไพโอเนียร์ 10 บินเฉียดดาวพฤหัส ในระดับยอดเมฆ หรือที่ความสูงจากพื้นผิวดาวประมาณ 130,354 กม.
ถ่ายภาพผิวดาวส่งกลับบ้าน ทำให้เราได้ดูภาพระยะใกล้ของดาวพฤหัสเป็นครั้งแรก และรู้ว่าดาวพฤหัสนั้นเป็นดาวที่มีมวลเป็นของเหลว
ยานไพโอเนียร์ 10 เป็นยานลำแรกที่อาศัยแรงดึงดูดของดาวหนึ่งเหวี่ยงยานให้บินต่อไปยังดาวต่อไปเรื่อยๆ (คิดได้ไง)
ยานไพโอเนียร์ 10 ยังมีภารกิจศึกษาอะไรอีกหลายๆอย่างที่เป็นความรู้ให้เรา เช่น เรื่องพายุสุริยะ รังสีคอสมิก ฯลฯบริเวณส่วนนอกของจักรวาลเรา
ซึ่งภารกิจเหล่านี้ได้เสร็จสิ้นลงในวันที่ 31 มีนาคม 2540
ภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่งของยานไพโอเนียร์ 10 ก็คือเป็นสารจากมนุษย์โลกส่งไปยังอีที หรือสิ่งมีชีวิตต่างดาว เพราะ
ยานไพโอเนียร์ 10 จะเดินทางต่อไปสู่นอกสุริยะจักรวาล สู่จักรวาลอันไกลโพ้น มีแผ่นภาพแกะสลักติดข้างยานสื่อให้ใครก็ตามที่มาพบได้รู้ว่า
รูปร่างหน้าตาของมนุษย์เป็นอย่างไร ตัวใหญ่ขนาดไหนเมื่อเทียบกับยาน และอาศัยอยู่ที่ดาวดวงไหนในสุริยะจักรวาล
และสุริยะจักรวาลอยู่ตรงไหนในกาแลกซี่ทางช้างเผือก ใครได้อ่านแล้วเกิดอยากมาหาเรา รับรองว่ามาถูกแน่ๆ
ยานไพโอเนียร์ 10 ติดต่อกลับมาครั้งสุดท้ายเมื่อ 27 เมษายน 2545 หลังจากนั้นนาซ่าก็พยายามติดต่อกับยานไพโอเนียร์ 10
ก็ได้เพียงสัญญานอ่อนๆ และได้สัญญานสุดท้ายเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2546 นับเป็นเวลาเกือบ 31 ปีที่มันบินขึ้นไปจากโลก
ส่วนยานไพโอเนียร์ 11 ซึ่งรูปร่างหน้าตาเหมือนกันเด๊ะ ถูกส่งขึ้นไปเมื่อ 5 เมษายน 2516 (ปีถัดมา)
โดยจรวด Atlas เป็นตัวผลักดันเหมือนกัน
บินผ่านกลุ่มดาวพระเคราะห์น้อยอย่างปลอดภัยเมื่อ 19 เมษายน 2517
ยานไพโอเนียร์ 11 บินเฉียดดาวพฤหัสเมื่อ 2 ธันวาคม 2517 ในระดับต่ำกว่าพี่สาวของมัน
คือมีระดับความสูงจากพื้นผิวดาวเพียง 43,000 กม.
ทำความเร็วถึง 173,000 กม./ชม. เร็วกว่าลูกปืนไรเฟิลถึง 55 เท่า
เร็วกว่าเครื่องบินคองคอร์ด 50 เท่า เร็วกว่ารถฟอร์มูล่าวันถึง 540 เท่า และเร็วกว่ารถผมถึง 1,450 เท่า
ยานไพโอเนียร์ 11 ถ่ายรูปจุดแดงใหญ่ของดาวพฤหัสส่งมาให้เราดูชัดๆเป็นครั้งแรก รวมทั้งคำนวณขนาดของดวงจันทร์บริวารให้เราด้วย
หลังจากนั้น ยานไพโอเนียร์ 11 ก็มุ่งหน้าไปสำรวจดาวเสาร์ซึ่งพี่สาวของมันไม่ได้แวะ มันบินผ่านดาวเสาร์ในระยะห่างประมาณ 20,800 กม.
ถ่ายภาพระยะใกล้ของดาวเสาร์และวงแหวนส่งมาให้เราดู ทำให้เราได้ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับมันมากมาย
และยังค้นพบดางจันทร์บริวารของดาวเสาร์เพิ่มอีก 2 ดวง พบวงแหวนเพิ่มอีก 1 ชั้น
และยังให้ข้อมูลของดวงจันทร์ไตตันของดาวเสาร์ที่มีขนาดใหญ่พอๆกับดาวเคราะห์ที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีสิ่งมีชิวิตอยู่
ทำให้เรารู้ว่าดวงจันทร์ไตตันมีอุณหภูมิต่ำมากเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะอยู่ได้
เสร็จจากภารกิจที่ดาวเสาร์ ยานไพโอเนียร์ 11 ก็มุ่งหน้าสำรวจส่วนนอกของสุริยจักรวาล เหมือนพี่สาว
เมื่อเดือนกันยายน 2538 ยานไพโอเนียร์ 11 บินไปไกลจากโลกถึง 6,500 ล้านกม.แล้ว
สัญญานวิทยุที่ติดต่อกันต้องใช้เวลาเดินทางเที่ยวละ 6 ชั่วโมง
ยานไพโอเนียร์ 11 ยุติภารกิจในการสำรวจเมื่อ 30 กันยายน 2538 ก่อนพี่สาว
และขาดการติดต่อกับโลกก่อนพี่สาวด้วย
มันมุ่งหน้าสู่จักรวาลอันไกลโพ้นเช่นเดียวกัน
ขณะนี้ สองสาวพี่น้อง ยานไพโอเนียร์ 10 และไพโอเนียร์ 11 กำลังเดินทางอย่างเดียวดาย(ไปคนละทางกัน) ฝ่าความมืดมิดของจักรวาล
อยู่ห่างจากโลกมากกว่ายานอวกาศใดๆ สู่ภารกิจสุดท้ายคือส่งสารจากมนุษย์สู่อีทีในดินแดนอันไกลโพ้น
ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าอีกกี่วัน กี่ปี หรือกี่หมื่นปีที่จะมีใครผ่านมาพบ และอ่านสารที่เราส่งไป
เพราะหากไม่มีใครมาพบมันระหว่างทาง
มันก็จะใช้เวลาอีกประมาณสองล้านปีในการเดินทางไปยังจักรวาลที่อยู่ใกล้สุริยจักรวาลที่เราอยู่ที่สุด
หลังจากพี่น้องสองสาวตระกูลไพโอเนียร์ ยานวอเยเจอร์ 1 และ 2 ก็ถูกส่งเป็นสารไปยังอีทีเหมือนกัน แต่ส่งไปในทิศตรงกันข้ามกับยานไพโอเนียร์
ที่มา :
____________________
เครดิต :
________________________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น