วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เปิดตำนาน "เสือสมิง" มีจริงหรือไม่

เรื่องราวลี้ลับหลายเรื่องถูกเล่าขานผ่านการเวลา จนเรียกกันว่าเป็นตำนาน ซึ่งไม่อาจฟันธงได้ว่า เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงมากน้อยแค่ไหน หรือถูกแต่งเติมอะไรมาบ้างแล้วจากเวลาที่ล่วงเลยมา หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของ “เสือสมิง” ซึ่งเป็นตำนานของเสือที่ดุร้าย ชอบจับคนกินเป็นอาหาร และเมื่อเสือกินคนเข้าไปมาก ๆ วิญญาณของคนเหล่านั้นก็สิงอยู่ในกายเสือ ทำให้เสือตัวนั้นมีความอาถรรพ์กว่าเสือธรรมดา สามารถแปลงกายเป็นคนได้ เพื่อหลอกล่อคนให้มาเป็นเหยื่อ และยิ่งเสือสมิงกินคนเข้าไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีฤทธิ์มากขึ้นทวีคูณ

นั่นเป็นเพียงเรื่องราวคร่าว ๆ ที่มักได้ยินได้ฟังกัน แต่ยังมีอีกเรื่องราวหนึ่ง เกี่ยวกับการเกิดเสือสมิง ที่ไม่ใช่แค่เสือดุร้ายมากินคนแล้วกลายเป็นเสือสมิง แต่เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ นั่นก็คือ ผู้ที่มีวิชาอาคมที่เรียกว่า “วิชาเสือ” เรียกเอาวิญญาณของเสือมาสิงในตัวเอง ผนวกเข้ากับการที่บุคคลผู้นั้นเรียนอาคมทางเดรัชฉานวิชาด้วย เมื่อนานเข้า ทั้งวิชาเรียกเสือและอาคม ทำให้ผู้นั้นกลายเป็นเสือสมิง และยิ่งถ้าหากเสือตนนี้ได้ไปกินคนเข้า ก็จะกลายเป็นเสือสมิงโดยสมบูรณ์

มีเรื่องเล่าขานและค่อนข้างดังมาก เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว และดูเหมือนว่า กลายเป็นข่าวลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ของประเทศว่า มีชาวบ้านทางภาคเหนือได้รับความเดือดร้อนที่ว่า มีเสือตัวใหญ่เข้าไปทำร้ายคนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งนั้น เป็นที่หวาดกลัวแก่ชาวบ้านมาก จึงได้ไปขอความคุ้มครองจากทหารหน่วย ตชด. เพื่อเข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน ฝ่ายทหารหน่วย ตชด. จึงส่งกำลังเข้าไปคุ้มครองและได้ล่าเสือตัวนั่นไปในตัว

กลางดึกคืนหนึ่งนั้นฝ่าย ตชด. ได้จัดกำลังตรวจตราหน่วยหนึ่ง และส่วนที่เหลือก็เข้าที่พัก บนศาลาที่จัดกันไว้ เป็นที่พักผ่อนนอนหลับ และในตอนดึกคืนนั้น ศาลาที่หน่วย ตชด. พัก เกิดสั่นไหวโยกเอน เมื่อทหารที่นอนตื่นกันลุกขึ้นมาดู กลับเห็นเสือโคร่งขนาดใหญ่ พิงสีตัวอยู่ที่โคนเสาศาลา ทหารกำลังหน่วยนั้นได้ยิงใส่เสือโคร่งใหญ่นั้น ทำให้เสือตัวนั้นบาดเจ็บและหายไปในความมืดนั้น ครั้นรุ่งเช้า หน่วยทหารจึงทำการติดตามแกะรอยเลือดเสือตนนั้นไป

จากการติดตามรอยเลือดนั้นผลปรากฏว่า รอยเลือดนั้นไปสิ้นสุดที่หลุมเนินดินแห่งหนึ่ง แล้วไม่ปรากฏรอยเลือดนั้นไปทางไหนอีก ทหารที่ติดตามนั้นเห็นเนินดินแล้วจึงตัดสินใจในความสงสัยกันบางอย่าง จึงขุดหลุมเปิดเนินดินนั้น เมื่อขุดไปลึกพอประมาณ ก็ต้องอึ้งกันไปทั้งหมด เพราะสิ่งที่เห็นในหลุมนั้นปรากฏว่า เป็นศพผู้ชายคนหนึ่งแต่ตัวท่อนล่างนั้นเป็นสภาพของเสือลายพาดกลอน ดูเหมือนว่าเป็นการกลายร่างจากเสือเป็นคนที่ยังไม่สมบูรณ์นั้นเอง จากการถามที่มาของศพชายผู้นี้ ได้ความว่า เป็นคนในหมู่บ้านย่านนั้น และสาเหตุที่ตายเพราะผิดผีจึงตาย ประเด็นน่าสนใจอยู่ที่ว่า ชายผู้นี้ผิดผีอะไร อย่างไร ซึ่งหนังสือนั้นมิได้กล่าวถึง จึงยากต่อการวิเคราะห์ได้
อีกหนึ่งเรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือสมิง จากอดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ชื่อว่าลุงทองปัจจุบันเกษียณแล้ว 

เรื่องราวมีอยู่ว่า มีอยู่ปีหนึ่ง เขาได้ลาพักร้อน 3 วัน เพื่อพักผ่อน แต่การพักผ่อนครั้งนั้น เขาตั้งใจว่าจะไปนั่งห้างที่ทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อดูสัตว์ป่ามากินดินโป่งตอนกลางคืน บรรยากาศดี เย็นสบาย ก่อนจะเข้าป่าครั้งนั้น ได้สั่งภรรยาไว้ว่า “ไม่ต้องเข้าไปตามนะ พี่จะเข้าป่า อีก 3 วันพี่จะกลับออกมา” หลังจากนั้นเขาก็ได้เตรียมสัมภาระที่จำเป็นในการเข้าป่า เขาเล่าว่าเดินเข้าไปลึกมาก พอถึงห้างที่จะพำนัก เพื่อดูสัตว์ในเวลากลางคืน คืนแรกผ่านไปบรรยากาศดีมาก ลมเย็นสบาย เห็น หมูป่า ตัวหัวหน้าพร้อมหมูตัวเมียแวดล้อมออกมาหาดินโป่งกินตอนกลางคืน ทุ่งใหญ่นเรศวรสมัยนั้น สัตว์ป่าชุกชมมาก ถือเป็นป่าใหญ่ก็ว่าได้

พอถึงวันที่ 2 ตกกลางคืนเขาก็ขึ้นไปนั่งบนห้างเช่นเคย คืนนี้แปลก ฟ้ามืดสนิท ไม่มีดาว ไม่มีแสงจันทร์ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบผิดปกติ และแล้วเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดิน เขาตั้งใจฟัง ใจนึกว่าใครหนอกล้าหาญมาก มาเดินป่าตอนกลางคืน จากนั้นเขาก็ได้ยินเหมือนเสียงเมียตัวเองเรียก “พี่ทอง พี่ทอง นี่ฉันเอง” เขามองลงไป เห็นเมีย ถือตะเกียงเจ้าพายุ มายืนอยู่บอกว่า ลูกไม่สบาย ตัวร้อนจัด ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยมาตามพี่ พอเห็นเมียเขาก็ทำท่าจะลงจากนั่งห้างไปหาเมีย แต่ก็เอะใจขึ้นมาว่า
ทำไมภรรยาถึงรู้ว่าเราอยู่ตรงนี้, ทำไมถึงกล้าหาญมาในป่าลึกกลางคืน โดยไม่กลัวสิงสาราสัตว์เลย, เวลาคุย จะพยายามหลบสายตา ไม่ยอมสบตาเราตรง ๆ, ตะเกียงเจ้าพายุ หากมาจากบ้านน้ำมันตะเกียงน่าจะหมด แต่ทำไมถึงสว่างอยู่ได้ และในมือก็ไม่มีสัมภาระมาเลย มาในชุดคอกระเช้าและผ้าถุง ซึ่งเป็นชุดอยู่บ้าน

ที่เขาตัดสินใจ หันปากกระบอกปืนส่งให้เมีย และพูดว่า “รับปืนพี่ที พี่จะลงไปแล้ว” พอเมียตัดสินใจยื่นมือจะรับกระบอกปืน เขาก็ลั่นไกปืนยิงทันที่ เสียงปืนดังสนั่น ท่ามกลางความเงียบในคืนราตรีคืนนั้น มีเสียงเสือคำราม และพุ่งพรวดด้วยความเร็วออกไปทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นแนวป่าลึกเข้าไปอีก เขาตกใจมาก ๆ เสือสมิง เหลือเชื่อมาก เสือสมิงมีจริงด้วยหรือ เห็นเป็นตำนาน แต่นี่อะไรกัน และศพเมียไปไหน หรือโดนเสียกินไปแล้ว พอรุ่งเช้ารอให้ตะวันโด่ง เขาตัดสินใจกลับบ้าน 

แต่ยังคาใจเรื่องแปลกเมื่อคืน จึงตัดสินใจเดินลงไปในแนวป่าลึกที่มีเงาทะมึน พุ่งพรวดไปทางนั้น ไม่ไกลนัก เขาก็เห็นเสือลายพาดกลอน ขนาดใหญ่นอนตายอยู่ เห็นอย่างนั้นก็ตัดสินใจกลับบ้านทันทีตัดสินใจกลับบ้านทันที

พอถึงบ้านเห็นเมียกำลังเล่นกับลูก ก็โล่งอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ถามเพียงว่า 3 วันนี่ไปไหนมาบ้าง เมียแกตอบว่าไม่ได้ไปไหนพี่ อยู่บ้านกับลูกตลอด ลุงทองบอกว่าเหลือเชื่อมาก ๆ ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่เชื่อ
เลย คิดว่าเป็นตำนาน ที่ไหนได้มีจริงในโลก

เขาบอกว่าการลั่นไกครั้งนั้น ตัดสินใจยิงที่ตะเกียงเจ้าพายุ เพราะพรานเฒ่าเคยสอนว่า เสือสมิงแปลงร่างเป็นคนได้ หากจะฆ่าให้ตายให้ยิงที่แสงไฟที่มันถือ ขณะแปลงร่างเป็นคน เพราะนั่นคือหัวใจของมัน

เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเสือสมิง เป็นเรื่องที่เล่าขานกันมาปากต่อปาก ใครที่เคยพบเห็นกับตัวก็คงยืนยันได้ว่าอาจจะมีอยู่จริง แต่คนที่ฟังเพียงเขาเล่ามา ก็มิควรปักใจ เพราะเรื่องเล่าหลายเรื่องยิ่งผ่านกาลเวลามายาวนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสีสันเติมแต่งมากกว่าข้อมูลที่มีอยู่เดิมมากขึ้นเท่านั้น ฟังไว้เพื่อประดับความรู้ดูจะเข้าท่ากว่า และหากวันใดต้องเผชิญหน้ากับเสือสมิงเข้าจริง เรื่องราวที่ฟังเขาเล่ามาก็อาจจะจำเป็นขึ้นมาในทันทีทันใดก็เป็นได้...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น