วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สเตฟาน ยันไม่ได้เป็นต้นเหตุเกาเหลา


พระเอกหนุ่มลูกครึ่ง ''สเตฟาน'' ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ ยันไม่ได้เป็นต้นเหตุเกาเหลา ส้ม-ธัญสินี กับ ทับทิม-อัญรินทร์ ส่วนกระแสข่าวพาสาวเข้าโรงแรมไม่มีแน่นอนช่วงนี้คุยแค่คนเดียว ทำงานเยอะ อยากพิสูจน์ตัวเอง


หลังจากกระแสข่าวเกาเหลาของ อดีตกิ๊ก ส้ม-ธัญสินี พรมสุทธิ์ กับ นักแสดงนางเอกร่วมช่อง ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ หวานใจคนใหม่ของพระเอกหนุ่มลูกครึ่งวิกหมอชิต ''สเตฟาน'' ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ และเร็วๆ นี้ยังมีข่าวว่า หนุ่มสเตฟาน พาสาวที่ชื่อ ''แพทตี้'' เข้าโรงแรม เมื่อได้มีโอกาสเจอหนุ่มฟานในงานพิธีเปิด ''โครงการจักรยานปั่น โดย กรุงทพมหานคร'' เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2555 ณ ลานจามจุรีสแควร์ จึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปซักถามเจ้าตัวทันทีถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร
 ''ไม่รู้เลยครับ ผมอ่านไม่ออกเลย ไม่ได้อ่านข่าว ไม่รู้ข่าวเกาเหลา ไม่ยอมสัมภาษณ์คู่เลยครับ ไม่มีความคิดเห็นครับที่คนจับตาว่าผมต้นเหตุก็ไม่หรอกครับ ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ คิดว่านะครับ เพราะว่าอยู่ดีๆ ไปเจอกัน ก็เฉย ไม่มีอะไรหรอก เรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดา''

ทับทิมมีบอกไหมว่าจะมีงานกับส้ม
''ก็มีคุยกันครับ ว่าจะไปงานไหน แต่ก็ไม่รู้เรื่องครับ ผมคิดว่าถ้าเอาตามความเป็นจริงก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ไม่ได้คุยกับเค้าสองคนเลยสำหรับเรื่องนี้'' 

ตอนนี้ความสัมพันธ์กับทับทิมเป็นอย่างไรบ้าง
''ก็คุยกันเหมือนเดิมครับ แต่ว่าช่วงนี้ผมก็ทำงานเยอะด้วย น้องเขาก็เปิดละคร และเขาก็เรียนด้วย ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกัน ทำเท่าที่ทำได้ครับ คิดว่าต้องคบใคร ผมก็ไม่ได้มีใคร คุยกับเขาคนเดียว วันๆ ผมก็ทำแต่งาน ถ้ามีโอกาสก็คุย แต่ช่วงนี้แม่ก็ไม่สบายด้วย แม่ผมเป็นโรคไต ตอนเย็นจะไปดูแลแม่ จะไม่ค่อยได้ไปไหน แต่ถามว่าคุยกับเขาเหมือนเดิมไหม ก็คุยครับ แต่ก็ไม่ได้รีบร้อน ผมเข้าใจว่าที่ผ่านมา ผมเป็นคนที่ไม่แคร์ที่จะตอบ ผมตอบคำถามเหมือนคนทั่วไป ข่าวเสียหายมีไหมก็มี ผมยอมรับ ผมก็ไม่อยากให้น้องเขามาเสียหายอะไร อีกอย่างผมก็อยากพิสูจน์ตัวเองให้เขาและครอบครัวเห็น ผมบอกแล้ว ผมไม่ได้รีบร้อน''

กลัวไหมการพิสูจน์จะล้มเหลว
''ก็คิดนะครับ แต่ไม่ได้กลัวขนาดนั้น ก็คุยกันไปเรื่อย ตามที่ตัวเองเป็น''

มีกระแสข่าว ฟานพาผู้หญิงชื่อ ''แพทตี้'' เข้าโรงแรม
''ไม่มีหรอกครับ ไม่รู้จักครับ ไม่ได้พาใครไปโรงแรมช่วงนี้ครับ'' 

ที่มาข้อมูล : siamdara

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น