วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เสี้ยนยกกำลัง 3/ซ้อ 7

ผ่านเดือนวิปโยคไปแล้ว ต่อไปนี้ซ้อจะได้โยกกะผัวฝรั่งซักที หลังจากเครียดจัดจนติ่งหดตดหายตายด้านมาหลายเดือน หวังว่า บรรดาควายทั้งหลายคงจะไปแล้วไปลับไม่กลับมาสร้างความชิหายอีก ประเทศชาติจะได้เจริญรุ่งเรือง ส่วนซ้อก็จะได้เจริญพันธุ์ให้หายอยาก 5555

ความตึงเครียดด้านการเมืองมีผลต่อด้านเซ็กซ์เป็นอย่างมาก ผลของการสำรวจจากเอ็กซ์ซี้ดโพล กับ เอาแต๊ดโพล ที่ถามคนอยู่กลุ่มเดียว แล้วก็เอามามั่วอยู่เป็นประจำว่าเป็นความเห็นของคนกรุงเทพ พบว่า....

ประชาชนร้อยละ 90 ไม่ได้ทำกิจกรรมเข้าจังหวะ เนื่องจากซีเรียส จนสีกันไม่ได้มาหลายเดือนแล้ว ร้อยละ 70 ไม่มีอารมณ์กอดจูบสัมผัสกันเลย และประชาชนอีกร้อยละ 50 ต้องอาศัยเครื่องช่วยทำความสุข อาทิ ดิลโด้ ไวเบรเตอร์ พระเจ้าทั้ง 5 (นิ้ว) เพื่อปลดปล่อยตัวเอง

มีเพียงประชาชนหน้ามึน 300 คนเท่านั้น ที่ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบางคนก็ไปส่งส่วยที่แพรีส (กรุณาทำเสียงดัดจริต) พึ่งจะกลับมา บางคนก็แอบหนุนเงิน บางคนก็แอบเชียร์ แต่ก็ยังสะเออะมาแหกปากขอความสุขคืนกลับมาหลังจากเหตุการณ์สงบ แต่ตอนเขาเผาบ้านเผาเมือง ไม่เห็นหมาตัวไหนออกมาห้ามปรามซักตัว มีเพียง 1 ในร้อยเท่านั้นที่เคยออกมาเรียกร้องเพื่อบ้านเพื่อเมือง

นอกจากนั้นแล้ว ผลการสำรวจโพล ก็ยังพบว่า ประชาชนร้อยละ 99.99 อยากจะให้สถานีช่องต่างๆ ร่วมกันเปิดรับบริจาคช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ใช่กระแดะเรี่ยไรให้แต่ต่างชาติ พอถึงคราวคนไทยเจือกออกมาร้องเพลงเพียงอย่างเดียว...ทู่เรศว่ะ

นอกจากจะไม่สนใจไยดี เพราะตัวเองได้เงินประกันแล้ว “ลูกสาวของผู้บริหารบริษัทน้อยสี” ก็ยังทำตัวเริงร่าประหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในบ้านเมือง ขณะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนไปทั่ว เพราะผลจากการนำเสนอด้านเดียวของบริษัทตนเอง มอมเมาจนควายบ้าคลั่งเผาบ้านเผาเมือง แต่นังลูกสาวบอสใหญ่กลับไประริกระรี้อยู่กับนักแสดงในสังกัด ชนิดไม่สนว่า ใครจะหนีตาย ใครจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ขอตูได้เข้า “วิน” พอ

ผู้ชายที่ “มาวิน” แซงทางโค้งแทรกเข้าหลืบของลูกสาว บ.น้อยสี ก็คือ “ตี๋ทะลวงดาก” อดีตนายแบบที่ “พระเอกตี๋ (รุ่น) ใหญ่” เคยดันๆๆๆ จนได้เล่นละครแล้วหลายเรื่อง และก็เป็นคนเดียวกันกับที่ “เจ๊ชอบจิก” มาเฟียแห่ง บ.น้อยสีเคยเอามาปั้นและก็ปล้ำป้าบๆ อยู่พักใหญ่

นอกจากตี๋ทะลวงดากจะเคยแหกตูดสองรุ่นใหญ่มาแล้ว ก็เคยทะลวงฮิ “น้องเส้นใส” จน “พระเอกไฮโซ” แฟนของน้องเส้นใสจับได้คาคอนโด ก็เลยเปิดศึกมวยไทยถล่มกำปั้นกันจนประตูพัง เล่นเอามหาชนชาวคอนโดเมาท์กันหึ่ง ไม่ใช่หึ่งเพราะเห็นคนตีกัน แต่หึ่งเพราะคุณน้องเส้นใสเค้าใส่ชุดคลุมวิ่งออกมาหย่าศึกจนนมแทบหลุด ส่วนชู้หน้าตี๋ก็นุ่งบอกเซอร์ตัวเดียวสู้ตายอยู่กับพระเอกไฮโซ

อีแบบนี้ไม่บอกก็รู้ว่า แมวกำลังขโมยกินปลาย่าง น้องเส้นใสกำลังจะถ่างรับความเสียว พระเอกไฮโซก็เลยเดือดด้วยประการฉะนี้แล

ฝีมือระดับกล้าเป็นชู้ถือว่าไม่ธรรมดา ถ้าไม่เด็ดจริงเขย่ามันน้องเส้นใสคงไม่เสี่ยงซ่งตีงพระเอกไฮโซเป็นแน่ ว่ากันว่า ลูกสาวของบอสใหญ่กำลังหลงตี๋ทะลวงดากอย่างหนัก อาทิตย์นึงต้องนัดกันไปตรวจภายในไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง

คู่นี้เค้าจะชอบนัดเจอกันที่ร้านอาหารไฮโซแห่งหนึ่ง โดยทุกครั้งจะมีการสับขาหลอกขับรถมาคนละคัน ก่อนจะนั่งดินเนอร์ด้วยกัน ชนแก้วกัน ป้อนข้าวป้อนน้ำให้กัน ก่อนจะเช็กบิลหายขึ้นรถลูกสาวบอสใหญ่ไปด้วยกัน เรื่องนี้คนที่ร้านเค้ารู้กันดี ไฮโซทั้งหลายที่เป็นขาประจำของที่ร้าน และเคยเป็นลูกค้าประจำของตี๋ทะลวงดากต่างก็เมาท์เรื่องนี้กันให้แซดด้วยความหมั่นไส้ เพราะหลังจากที่ตี๋ทะลวงดากใช้ Kadoor ไต่ลูกสาวบอสใหญ่จนสำเร็จ ก็ทำเป็นเชิดใส่ป้าๆ ไฮโซผู้เคยมีอุปการคุณทันที

โอ้ว...เนรคุณได้ใจอย่างนี้ มิน่าล่ะถึงสมสู่กะเครือข่ายควายแดงได้สบายไข่

พูดถึงบรรดาควายแล้วก็ต้องขอแวะไปแคะเรื่องของ “เจ๊ไฮโซถังแตก” ที่ตอนนี้กำลังเล่นบทอีอ้วนดำดินซะหน่อย เพราะมีเรื่องเล่าหลังการต่อสู้ที่กระหึ่มไปทั้งเต็นท์ของแกนนำ ว่า เจ๊ไฮโซถังแตกค่อนข้างมีความสนิทสนมกับ “ไอ้ดำชอบอม” ฉายาเอี้ยตะกายตึกเป็นพิเศษ พอขึ้นเวทีสาระแนปลุกปลั่นเสร็จ ก็มักจะหายเข้าไปในเต็นท์กันอยู่บ่อยๆ เรื่องนี้กำลังเป็นที่มันปากในวงการไฮโซว่าคู่นี้มันยังไงกันอยู่

แหม....ก็เมาท์กันไปได้ คนเค้าชอบร้องเพลงเหมือนกัน ก็คงแค่ไปคุยหลังไมค์ ถือไมค์ ดวลไมค์ กันบ้าง แหละ ส่วนจะ “อมไมค์” เหมือนที่อมเงินไปเปิดร้านอาหารหรือเปล่า อันนี้มันยากเกินจินตนาการจริงๆ ว่ะ เพราะคิดถึงเรื่องนี้ทีไรมันเสียวท้องน้อย พาลจะอ้วกแตกทู๊กที

แต่ที่แน่ๆ จะอมอะไรก็อมไป แต่อย่าลืมเหลือเงินขี้โกงไว้ “อมในปาก” บ้างก็แล้วกัน ชาติชั่วทำกรรมกับประเทศขนาดนี้ อีกไม่นานคงได้ไปรวมพลกับ “เศษเดน” ในนรก

อีกรายที่เอาดะไม่จำกัดวัย ก็คือ “นักจ้อหน้าหมวย” ที่ชอบพูดจาจ๊ะจ๋าหวานจ๋อย ใช้ปากเก่งจน “คุณอาค่ายยักษ์” หลงหัวปลักหัวปลำ พอว่างเว้นจากการกรำศึกกับคนแก่นักจ้อหน้าหมวยก็จะหาหนุ่มๆ มาผลัดเปลี่ยนอยู่เป็นประจำ

หนุ่มล่าสุดที่มาซ้ำรอยคุณอาค่ายยักษ์ ก็คือ “นักจ้อแบดบอย” ที่มีพฤติกรรมชอบเลียนแบบตำรวจ จนกลายเป็นเรื่องเป็นราว แต่ บ.น้อยสี ก็ยังจ้างไว้ทำพ่ออยู่นั่นแหละ คู่นี้แอบไปสะด๊วบกันเรียบร้อยแล้ว นักจ้อแบดบอยลากนักจ้อหน้าหมวยไปฟาดมาแล้วหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด โรงแรมในกรุง หรือว่าวิลล่าติดชายหาด เรียกว่าซัดกันมาแล้วหลายยก

แต่ที่เด็ดสุดเห็นจะเป็นเมื่อครั้งที่นักจ้อแบดบอยพานักจ้อหน้าหมวยพาไปสวัสดีผู้ใหญ่ถึงที่บ้าน เพื่อร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน ก่อนจะจบลงที่ปาร์ตี้เล็กๆ เพื่อแนะนำให้ผู้หลักผู้ใหญ่รู้จัก แต่พอสังสรรค์กันแทนที่จะกลับบ้านกลับช่องไปหาพ่อแม่ของตัวเองมั่ง แต่นั่งจ้อหน้าหมวยกลับทำมึนอยู่ดริ้งก์กับนักจ้อแบดบอยต่อ

พอเหล้าเข้าปากก็เป็นเรื่องสิ นอกจากจะสติไม่มีแล้ว หนังหน้าก็ยังไม่มี เปิดศึกล้วงควักกันคาห้องรับแขก ส่งผลให้นักจ้อหน้าหมวยทนความเสี้ยนไหว ต้องสะกิดให้นักจ้อแบดบอยพาไปชำเราบนห้องนอน ส่วนจะทำแต้มกันไปกี่ดอกอันนี้ก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ กว่าคู่นี้จะตื่นก็ฟาดไปเกือบเที่ยง ลงมาข้างล่างก็เลยป๊ะกับครอบครัวของนักจ้อแบดบอยกำลังกินข้าวมื้อกลางวันกันพอดี เล่นเอานักจ้อหน้าหมวยถึงกับทำหน้าไม่ถูก รีบยกมือสวัสดีและก็ขอตัวไปทำงานในทันที

แหม...ทีนี้ล่ะอาย ทีตอนนั้นล่ะอ้า!

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ ก่อนทำต้องรู้จักคิด เพราะถ้าไม่คิดก่อนทำ ก็จะโดนตำแล้วอายแบบนี้แหละ...กิ๊วๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น