วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สุดสยองตอนเที่ยวป่า

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นหลายปีแล้วเหมือนกัน แต่เราก็ไม่มีวันลืมหรอก เพราะเราก็ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย(แต่ไม่ได้เจอด้วยนะ)

เริ่มต้นเลยก็คือ บ้านเราจะชอบเที่ยวป่ามาก แล้วไปกันที ก็จะไปกันหลายคนหลายครอบครัวมาก แต่ละคนก็เป็นเพิ่อนพ่อเรา ตอนนั้นเราไปเที่ยวเขาและได้ค้างคืนกันที่จ.เพชรบูรณ์ มีการวางแผนกันแล้วว่าตกค่ำจะนอนไหน แต่เกิดเหตุไปนอนที่นั่นไม่ได้ รู้สึกว่าจะมีเจ้าเสด็จ เราเลยต้องหาที่นอนกันใหม่ หาอยู่จนเย็นมากๆ ก็ไปเจอหน้าผาที่ลานกว้างมากๆ เหมาะกับจำนวนคนที่ไปกันเลย แล้วมันจะค่ำแล้วก็เลยเลือกตรงนั้น ขอบรรยายที่ตรงนั้นหน่อย เป็นลานกว้างมาก ติดถนนที่มันเป็นทางโค้งด้วย แต่ไม่ค่อยมีรถ แทบจะไม่มีเลยล่ะ เพราะมันเป็นเส้นทางบนเขา แล้วจะมีที่กั้นถนนด้วย มันอยู่ตรงขอบถนน เพื่อป้องกันรถไถลออกไป

พอได้ที่พักกันแล้ว พวกผู้ใหญ่ก็เริ่มกางเต้นท์ ก่อไฟกัน ส่วนเราตอนนั้นค่อนข้างเด็ก แล้วก็มีพวกเด็กๆด้วยกัน ก็เลยชวนกันไปเล่นกลางถนนเลย เพราะเย็นมากแล้ว รถแทบไม่มี จะมีก็แต่พวกชาวบ้าน ที่นานๆจะขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมา เราจำได้ว่ามีลุงผู้ชายขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมาแล้วมองพวกเราด้วยสายตาแปลกๆ แล้วก็ยิ้มแหยๆ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็วิ่งเล่นที่ถนนต่อ เราก็บังเอิญไปเห็นรอยขูดที่พื้นถนน เป็นรอยขูดที่ลึกและยาว แล้วแบบเส้นรอยขูดมุ่งตรงมาที่หน้าผาที่เรากางเต๊นท์นอนด้วย แถมเราก็สังเกตเห็นที่กั้นถนน มันสภาพแบบถลอก แล้วก็บิ่นด้วย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรอีก เล่นอย่างเดียว พอหลังจากนั้นผู้ใหญ่ก็เรียกกินข้าว ทำไรต่ออะไร แล้วก็แยกย้ายเต้นท์ใครเต้นท์มัน เพื่อเข้านอน ตอนกลางคืนนี่แหละที่เกิดเรื่อง


ตอนกลางคืนพวกเราจะไม่ปล่อยให้มันมืดนะ เราจะแขวนตะเกียงเจ้าพายุไว้ตรงกลาง ใกล้ๆกองไฟ คือพวกเราเวลากางเต้นท์ จะกางแบบเป็นวงกลม เพราะงั้นก็จะมีแสงส้มๆผ่านเข้ามาในเต้นท์ แล้วถ้ามีคนเดินผ่านเต้นท์ใกล้ๆเราจะเห็นเงา นอกจากนั้นในป่า...มันเงียบมากใช่มะ...แล้วพื้นก็เป็นหญ้าแห้ง เดินไปมาก็ได้ยินเสียง ยิ่งเงียบมากก็จะได้ยินเสียงชัดมาก

พอเข้านอนกันเสร็จคนที่หลับได้ก็ดีไป(เราด้วยที่โชคดี) แต่มีผู้ใหญ่บางคนในกลุ่มเขาไม่ได้หลับด้วย พวกที่ไม่หลับกันก็ได้ยินเสียงคน(หลายคนด้วย) เดินไปมาเสียงหญ้านี่ยุ่บยั่บเลย แถมมีเงาคนผ่านไปมาอีก แต่คนที่ดูท่าจะเจอหนักสุดก็คงเป็นเพื่อนพ่อเราที่มากะแฟน สมมติว่าชื่อบี เค้านอนอยู่ แล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก มองไปเป็นเงาผู้หญิงอุ้มเด็กมาด้วย แต่จะบอกว่าในกลุ่มที่ไปกันตอนนั้นไม่มีเด็กอ่อนเลย ผู้หญิงคนนั้นเรียกไม่พอ ทำท่าจะเข้ามาในเต้นท์แต่ก็เข้าไม่ได้(มารู้ตอนหลัง บีใส่พระไว้)

พอตอนเช้านั่งกินข้าวต้มกัน เราก็ได้ยินพวกผู้ใหญ่พูดกันว่าเจอนู่นนี่ เจอเหมือนกันหลายคนเลยนะ ที่ว่าได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมา พร้อมกับเงาน่ะ แต่ทีเห็นจะสุดๆก็บีนี่แหล่ะ เราได้ยินเราก็กลัวนะ แต่นอนแค่คืนเดียว

ต่อมาเที่ยวรอบใหม่ เราเที่ยวกันในจ.ที่เราอยู่กัน เป็นสวนผลไม้ของคนรู้จัก ก็มากับกลุ่มเก่า

ตอนกลางคืนเรานั่งอยู่กะแม่ แล้วเพื่อนพ่อคนนึงเข้ามาคุยด้วย ถามว่า "เออนี่ จำได้ไหม ที่เราไปนอนกันที่เขาจ.เพชรบูรณ์น่ะ ที่เจอเรื่องประหลาด"

แม่เราก็จำได้ถามว่า "ทำไม"

เพื่อนพ่อก็บอกว่า "พอลงจากเขาก็ได้ลองขี่รถไปถามคนแถวๆนั้นดูว่ามีอะไร ได้ความว่าเพิ่งจะมีรถโดยสารตกหน้าผาตรงที่เราไปนอนกัน คนในรถตายกันหมด โดยคล้ายๆแกจะเน้นว่า มีแม่ลูกอ่อนด้วยนะ" เรารู้นี่อึ้งเลย

แล้วเพื่อนพ่อบอกว่า แฟนเค้าพอกลับมาก็ไปทำงาน มาเจอหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุตรงนั้่น ตรงที่พวกเรานอน แต่พวกเราไม่รู้ เพราะหนังสือพิมพ์วันที่ลงข่าวนะ เรายังเที่ยวอยู่ในป่ากันอยู่เลย จะไปรู้ว่าโลกภายนอกเป็นไงได้ไง

เราก็ถามว่า "ได้จุดธุปไหว้ก่อนจะนอนรึเปล่า"

เพื่อนพ่อบอกว่า "จุดสิ ไปนอนครั้งไหนๆ ก็จะมีคนไปจุดบอกก่อนทุกทีที่ไปค้างทั้งนั้นแหละ"

เราก็ โห...นี่ขนาดจุดบอกก่อนแล้วนะ ยังเล่นพวกเราซะขนาดนี้ แถมเพื่อนพ่อเราบอกอีกว่า พอตอนเช้าก่อนจะกลับเข้าเมือง มีพวกผู้ใหญ่ผู้ชายบางคน ลองไปมองดูหน้าผาข้างล่าง บอกว่ายังมีเศษกระจก เศษไฟรถ ติดตามพวกกิ่งไม้ต้นไม้อยู่เลย

สรุปก็คือ พวกเราไปนอนที่ๆเกิดเหตุมีคนตายโหงหมู่มา แถมเหตุการณ์นั้นเพิ่งผ่านไปไม่ถึง 3 วันเลยด้วยซ้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น