วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทีมสำรวจนานาชาติ เตรียมออกค้นหา เยติ สัตว์ประหลาดเเดนหิมะในตำนาน





สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากนานาประเทศ เตรียมร่วมมือออกสำรวจพื้นที่เคเมโรโว ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของแคว้นไซบีเรีย เพื่อตามหา เยติ มนุษย์หิมะ หรือ สัตว์ประหลาดเเดนหิมะในตำนาน หลังมีการเล่าขานกันว่า พบในบริเวณนี้บ่อยครั้ง







โดยการออกสำรวจดังกล่าว เป็นการร่วมมือกันของ นักวิทยาศาสตร์จากประเทศรัสเซีย, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สวีเดน, เอสโตเนีย, มองโกเลีย และจีน ซึ่งจากบันทึกพบว่าในช่วงหลังนี้ มีการบอกเล่าว่าพบเจอเยติเพิ่มขึ้นจากเมื่อ 20 ปีที่แล้วถึง 3 เท่า และยังมีการพบหลักฐานหลายๆ อย่าง เช่น รอยเท้าที่เชื่อว่าเป็นของเยติขนาด 35 เซนติเมตร กระท่อมที่สร้างจากกิ่งไม้ซึงคาดว่าเป็นที่พักอาศัย





ภาพ : รอยที่เชื่อกันว่าเป็นรอยเท้าของ เยติ




ทั้งนี้ หัวหน้าศูนย์วิจัยมนุษยวิทยานานาชาติ ประจำกรุงมอสโก เปิดเผยว่า เขาเชื่อว่า เยติ อาจจะเป็นมนุษย์ยุคหินหรือโฮโมเนแอนเดอร์ธัล ซึ่งเหลือรอดจากการทำลายล้างเผ่าพันธุ์โดยมนุษย์ยุคแรกสุดหรือพวกโฮโมซาเปียน และใช้ชีวิตอยู่ตามป่าเขา จนกลายมาเป็นเยติก็เป็นได้



ภาพถ่ายในระยะไกลของสิ่งที่เชื่อว่าเป็นเยติในปี ค.ศ. 1986


เยติ หรือ มนุษย์หิมะ (อังกฤษ: Yeti, Abominable Snowman) เยติ เป็นชื่อที่ใช้เรียกสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง ในความเชื่อของชาวเชอร์ปา ชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาลและธิเบต โดยเชื่อว่าเยติ เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่คล้ายมนุษย์ผสมกับลิงไม่มีหางคล้าย กอริลลา มีขนยาวสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลดำปกคลุมทั้งลำตัว โดยปรกติแล้ว เยติเป็นสัตว์ที่มีนิสัยสงบเสงี่ยม แต่อาจดุร้ายโจมตีใส่มนุษย์และสัตว์เลี้ยงได้ในบางครั้ง







เยติ ปรากฏอยู่ในวัฒนธรรมของชาวเชอร์ปามาอย่างช้านาน โดยถูกกล่าวถึงในนิทานและเพลงพื้นบ้าน และเรื่องเล่าขานต่อกันมาถึงผู้ที่เคยพบมัน นอกจากนี้แล้วยังปรากฏในศิลปะของพุทธศาสนานิกายมหายานแบบธิเบต โดยปรากฏเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดลามะอายุกว่า 300 ปี และปัจจุบันนี้ ก็มีสิ่งที่เชื่อว่าเป็นหนังศีรษะของเยติถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในวัดลามะแห่งหนึ่งในคุมจุง ซึ่งนับว่าเยติเป็นสัตว์ที่ถูกกล่าวอ้างถึงยาวนานกว่าสัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายกันชนิดอื่นที่พบในอีกซีกโลก เช่น บิ๊กฟุต หรือ ซาสควอทช์



เรื่องราวของเยติที่โจมตีใส่มนุษย์นั้น ได้ถูกทำเป็นรายงานส่งไปยังเมืองกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล ซึ่งปากคำของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อถูกบันทึกโดยอาสาสมัครชาวอเมริกันที่ทำงานในเนปาล โดยผู้ถูกทำร้ายเป็น เด็กหญิงชาวเชอร์ปาคนหนึ่ง โดยเธอบอกว่าขณะกำลังนำจามรีไปดื่มน้ำที่ลำธาร เยติตัวหนึ่งก็โผล่มาทำร้ายเธอ แต่เธอกรีดร้องลั่น จนมันปล่อยเธอ และหันไปทำร้ายจามรีของเธอจนมันถึงแก่ความตายด้วยการบิดเขาและหักคอ









ที่มา : Mthai

____________________

เครดิต :

________________________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น