แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แตงโม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แตงโม แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

“อ้วน” รับห่าง “แตงโม” ตอบไม่ได้สัมพันธ์จะเป็นยังไงต่อไป

“อ้วน” รับห่าง “แตงโม” อ้างงานยุ่งก็เลยไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน ตอบไม่ได้จะพัฒนาความสัมพันธ์ต่ออีกหรือไม่ ส่วนที่แตงโมกลัวความเจ้าชู้ของตนนั้น เจ้าตัวบอกผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูไม่มีพิษ แจงตนรักใครก็จะรักแค่คนเดียว



ออกมายอมรับว่าเป็นสาวคนพิเศษ มีสิทธิ์ลุ้นยกระดับเป็นแฟน แต่แล้วก็มีเหตุให้ต้องชะงักเมื่อหนุ่ม “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” ออกมาเปิดเผยว่าช่วงนี้เริ่มห่างกับสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” แล้ว เพราะต่างคนต่างยุ่งงาน ส่วนเรื่องที่ฝ่ายหญิงกลัวความเจ้าชู้นั้นเจ้าตัวบอกผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูไม่มีพิษ

“กับเขาตอนนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน ผมถ่ายละครหนัก เขาก็ถ่ายละครหนัก ก่อนหน้านี่ร่วมงานกันก็เลยได้เจองานกันบ่อย แล้วช่วงใกล้ปีใหม่งานมันก็เยอะด้วยครับ สถานะตอนแรกก็เป็นเพื่อนกัน ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ตอนนี้ไม่ได้ร่วมงานกัน ต่างคนก็เลยต่างห่าง ก็เป็นเพื่อนรักกันครับ ผมมีปัญหาอะไรก็ช่วยเหลือกัน ตอนนี้ก็โทร.คุยกันบ้าง แต่ไม่ได้นัดไปกินข้าวกันเลย”

“จริงๆ แล้วผมไม่ได้เจ้าชู้ ผมทำงานมาตลอด ก็ไม่คิดอะไรครับเพราะว่าผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูไม่มีพิษ ใครจะว่าผมเจ้าชู้หรือไม่เจ้าชู้ แต่เวลาที่ผมมีแฟนก็จะรักใครคนเดียว ผมยังซีเรียสข่าวที่มีพระเอกตัว อ. เป็นโรคร้ายมากกว่าเลย ผมงงมาก ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนถาม ผมก็บอกว่าผมดูป่วยเหรอ ผมก็ยังแข็งแรงดีเหมือนเดิม เรื่องพัฒนาความสัมพันธ์อันนี้ผมโนคอมเม้นต์ครับ ไม่ขอออกความคิดเห็นแล้วกัน”

“ปีใหม่นี้ถ้าว่าง ผมจะไปสวดมนต์ข้ามปีครับ จะชวนโมไปด้วยถ้าเขาอยากไป ก็ชวนทุกคนแหละครับเพราะว่ามีพี่คนนึงเขาจะไปสวดมนต์ข้ามปีพี่เขาเลยอยากที่จะไปด้วย”

ขอบคุณข่าวแ่ซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สาวใบเตยปัดร่วมมือกับสาวแตงโมรุมสาวปุ๊กลุก

"ใบเตย อาร์สยาม" วางไมค์เพื่อมาเล่นละครชั่วคราวเลยทีเดียว ล่าสุดก็มารับเล่นบทร้ายในละครเรื่อง "น้องเมีย" ของทางช่อง 8 ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า


"ก็ดีใจมากที่ได้รับโอกาสตรงนี้ เราเป็นสาวลูกทุ่งที่ได้มาเล่นละคร ตื่นเต้นมาก ไม่เคยได้เล่นเป็นละครจริงๆ แบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าต้องมีเทคนิคทักษะยังไง ตอนแรกที่รู้ว่าได้เล่น ก่อนจะถ่ายกดดันมาก กับพี่วีได้ปรึกษาก่อนหน้านี้มาสักพัก พี่เขาก็ให้คำปรึกษามาดีพอสมควร" 

ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า สาวใบเตยร่วมมือกับสาวแตงโมเพื่อสกัดสาวปุ๊กลุก ซึ่งสาวใบเตยก็ชี้แจงว่า
"จริงเหรอ ไม่ถึงขนาดนั้น คือกับพี่โมมีโอกาสได้ร่วมงานกันหลายครั้ง ตั้งแต่เริ่มเป็นศิลปิน ไม่ได้แท็คทีมอะไร คงสนิทมากกว่าฝั่งนู้น" 

เรื่อง ราวเกาเหลากับสาสวปุ๊กลุกก็ยังดูเหมือนจะไม่จบเพียงแค่นั้น ยังมีข่าวมาอีกว่า ตอนที่สาวใบเตยขึ้นคอนเสิร์ตที่ตรัง สาวใบเตยก็พูดบนเวทีว่าเป็นตัวจริงของหนุ่มวี แต่สาวใบเตยก็ปฏิเสธว่า
"ไม่จริงแน่ๆ ไม่เคยพูดเลย เหมือนน้องเขียนมาเยอะทางเฟซ เหมือนว่าเราจะสร้างกระแสด้วย บอกว่าเราคบกับพี่วี เราเหมือนไปพูดพาดพิงถึงน้องปุ๊กลุก ไม่จริงเลย ยอมรับว่าตกใจมาก เรารู้จักเด็กคนนี้ รู้จักดีมากด้วย เขาเคยเป็นแดนซ์เซอร์หนู  มารู้ว่าคุณไม่พอใจเราที่เราไม่ให้คุณถ่ายรูปเวลาที่ไปเต้นให้เรา จริงๆ ต้องขอโทษน้อง เพราะจริงเหรอ เขามีอคติกับเราแค่นี้" 
ถามว่าต้องเคลียร์กับน้องเขามั้ย 
"คงไม่ค่ะ กับปุ๊กลุกก็คงไม่ต้องเคลียร์ เพราะเป็นคนละประเด็น คนละเรื่องค่ะ"

ที่มา: Thaiza.com


วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“แตงโม” โต้คั่ว “กึ้ง” เลยไม่รับรัก “อ้วน รังสิต”

“แตงโม” เผยขอเริ่มต้นความสัมพันธ์กับ “อ้วน รังสิต” ในฐานะเพื่อนที่ดีไปก่อนเพราะได้บทเรียนจากความรักในอดีตมาเยอะ ยันไม่เกี่ยวเพราะแอบกิ๊ก “กึ้ง เนสกาแฟ” เลยยังไม่ใช่คำว่าแฟนกับอ้วน แฮปปี้ผู้ใหญ่ตัดฉากสาว “ปุ๊กลุก” หั่นแตงโมในเอ็มวีออกแล้ว





มีข่าวว่า “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” ไปกินข้าวไปรับไปส่ง “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” มานานแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ปฏิเสธหัวชนฝาบอกว่าไม่จริ๊งไม่จริง ล่าสุด เกิดอะไรขึ้นกับอ้วนก็ไม่ทราบ จู่ๆ ก็ออกอาการเขินอายมาบอกนักข่าวว่า แตงโมเป็นสาวคนพิเศษ พอเจอหน้าแตงโมนัข่าวก็เลยสอบถามมาตกลงเรื่องราวมันยังไงกันแน่ ไหนบอกไม่มีอะไร แต่ตอนนี้ชักยังไง

“โมก็ยอมรับว่าสนิทค่ะ อย่างที่โมเคยบอกไปว่ามีการไปรับไปส่งสนิทกัน ทำกิจกรรมนั่นนี่ด้วยกันบ่อย ล่าสุดก็ไปญี่ปุ่นด้วยกันแต่เป็นแก๊งใหญ่มากเป็น 10 คนเลย ก็สนุกสนานดีค่ะ แต่ถามว่าถึงกับศึกษาดูใจมั้ย จริงๆ โมก็ไม่ถึงขั้นพิจารณาในขั้นพิเศษสุดๆ ขนาดนั้น แต่ด้วยความที่โมอายุค่อนข้างเยอะแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลาในการเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนที่ดีค่ะ อย่างบางคนทำหน้าที่เพื่อนได้ดี แต่บางทีถ้าเขาเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเป็นแฟน บางทีเขาอาจจะทำไม่ได้ดีเท่ากับการเป็นเพื่อน รวมถึงตัวโมเอง ตัวโมเองก็มีข้อจำกัดกฎเกณฑ์ในชีวิตค่อนข้างเยอะ”

“โมเหมือนเป็นเด็กผู้ชายจะไม่มีความอ่อนหวาน กว่าโมจะตกลงปลงใจคบใครคนหนึ่งเป็นแฟนได้ โมบอกได้เลยว่าคบกับโมไม่ค่อยสนุกค่อนข้างยากที่จะอยู่ด้วยกันได้ ถ้าคนนั้นไม่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ ฉะนั้นก็ขออนุญาตศึกษาในแบบเริ่มต้นจากความเป็นเพื่อนแบบนี้ไปก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าพี่เขาให้ความพิเศษกว่าคนอื่นก็ขอบคุณค่ะที่เขาให้ความพิเศษ ดูแลอย่างดีมาตลอดค่ะ”

“มันก็ไม่เชิงกั๊กโมก็ต้องดูตัวเองว่าพร้อมที่จะดูแลเขาหรือเปล่า ถ้าสุ่มสี่สุ่มห้าเป็นแฟนแล้วคบกันไปเลย ก็ไปลองผิดลองถูก โมว่ามันจะเสียความรู้สึกง่าย ฉะนั้นใจเย็นๆ เราอายุเยอะแล้ว ก็ไม่รีบและไม่มีใครเร่งรัดให้มีแฟน ต่างฝ่ายต่างเป็นห่วงด้วยซ้ำว่าอยากให้ดูกันดีๆ ค่ะ พอโตขึ้นบทเรียนเยอะขึ้น เราก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนหลายรอบ”

ปฏิเสธไม่เกี่ยวกับ “กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ทายาทเนสกาแฟ เลยทำให้ยังไม่ยอมรับ “อ้วน รังสิต” เป็นแฟน
“โห (หัวเราะ) บ้า ไม่เกี่ยว พี่กึ้งเป็นพี่น้องกันธรรมดา วันที่เขาเจ็บป่วยก็ไปเยี่ยมกัน ไม่ว่าใครจะเจ็บป่วย ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพี่กึ้ง ถึงจะเป็นพี่อ้วนเจ็บป่วย โมก็ไปเยี่ยมอยู่ดี โมก็คงไปบ่อยด้วยซ้ำเพราะสนิท เวลาใครเจ็บป่วย เราก็ทำหน้าที่เพื่อนพี่น้องที่ดีค่ะพี่อ้วนเขาก็ทราบค่ะ ก็ไม่ได้บอกก่อนเพื่อรายงานหรืออะไร แต่เวลาโมไปไหนก็ไม่ได้หลบๆ ซ่อนๆ อยู่แล้ว ทุกอย่างเป็นความบริสุทธิ์ใจค่ะ”

ส่วนกรณีที่ข่าว “แตงโม” จับมือกับ “ใบเตย อาร์สยาม” เล่นงานสาว “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” เพราะต่างฝ่ายต่างมีเรื่องกับปุ๊กลุก
“บ้า ไม่มีการรุม รุมไม่ได้เพราะยังไม่เกิดข้างใดข้างหนึ่งขึ้นเลย โมอยู่ตรงกลาง ใครที่เข้ามาดีเราก็คบเป็นมิตรค่ะ ใครไม่เป็นมิตรกับเรา เราก็ป้องกันตัวเอง แต่โมไม่เคยทำร้ายใคร กับน้องใบเตยก็ไม่รู้จักกันเลยค่ะ เคยเจอกันเมื่องานเดลินิวส์ที่ผ่านมา น้องน่ารักมาก โมเคยได้ดูสัมภาษณ์น้องบ้างตามรายการ ก็เป็นคนที่ตรง จริงใจคนหนึ่งนะ มีเสน่ห์น่ารักอยู่ในตัว พูดจาหวาน เขาก็น่ารักของเขานะ ก็ทักทายกันในอินสตาแกรมบ้าง ก็มีแซวกันบ้างชื่นชมกันไป”

“ไม่มีใครรุมค่ะ ไม่มีแบ่งพรรคพวก น้องก็อยู่ในช่อง 7 เหมือนกับเรา พี่ก็ยอมมาปีหนึ่งแล้ว พี่ก็คงอยู่อย่างนี้ต่อไป (หัวเราะ) ก็ไม่ได้เคือง คือตอนแรกอาจมีบ้างที่ไม่สวัสดีคุณพ่อ(พ่อของแตงโม) แต่เราก็เข้าใจอารมณ์น้องเขา เดี๋ยวโตขึ้นเขาก็เข้าใจเองแหละ”

แฮปปี้ผู้ใหญ่ตัดฉากสาว “ปุ๊กลุก” หั่นแตงโม ในเอ็มวีเพลง “ทนไม่พอ รอไม่ไหว” ออกแล้ว

“ก็ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกฝ่ายด้วยนะคะที่ให้ความยุติธรรม เพราะตอนแรกที่ยิงทีเซอร์ออกมาเป็นต้นฉบับ ซึ่งค่อนข้างพุ่งตรงมาที่โมและมีผลกระทบกับโมโดยตรง แต่ที่โมได้ขอร้องให้พิจารณาดูอีกทีดีมั้ย ก็เพิ่งได้ดูเอ็มวีเต็มๆ วันก่อนก็โอเค ค่อนข้างยุติธรรมสำหรับโมเหมือนกัน เอ็มวีที่ออกมาอาจจะเป็นเรื่องราวของน้องโดยตรง โมแค่ตกใจนิดหน่อยที่น้องคิดจะทำอย่างนี้กับเราตอนถ่ายละครจริงๆ เหรอ พอได้ดูแล้วยังไม่มีติดใจอะไรแล้ว นอกนั้นก็เป็นปกติ รู้สึกว่าเราไม่ได้ถูกพาดพิงมีผลกระทบเสียหายถึงเราโดยตรงค่ะ”


ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“แตงโม” ฉุน ยามปล่อยข่าว “อ้วน รังสิต” คอยรับ-ส่ง ขู่ย้ายยาม!

“แตงโม” เซ็ง ยามหน้าหมู่บ้านให้ข่าว “อ้วน รังสิต” คอยรับ-ส่ง ยันไม่ได้ค้างคืนด้วยกัน บอกเจอแบบนี้อาจมีการย้ายยามกันบ้าง แต่รับฝ่ายชายมาส่งจริงและเป็นคนที่สนิทที่สุด โอกาสพัฒนาเป็นเรื่องอนาคต

อยู่ดีๆ นางเอกสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์” ก็งานเข้า เพราะเจอหนอนบ่อนไส้เป็นยามหน้าหมู่บ้าน ที่เอาข่าวการไปรับไปส่งของพระเอกหนุ่ม “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” เที่ยวไปประกาศให้ทั่วจนรู้ถึงหูนักข่าว งานนี้ร้อนถึงสาวแต่งโมออกอาการปรี๊ดยามไม่น้อย บอกงานนี้อาจมีการย้ายยามกันบ้าง

“ก็มีบ้าง บางทีเราก็ไปแฮงค์เอาท์กันกับเพื่อน แล้วถ้าวันนั้นเราไม่ได้ไม่เอารถไป ก็บอกเพื่อนๆ ว่าให้ใครก็ได้มาส่งโมที โดยส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่พี่อ้วนหรอกค่ะ พี่เขาจะมาส่งนานๆ ที เพราะบ้านค่อนข้างไกล แต่ว่าอาจจะเป็นความตื่นเต้นของคุณยามหน้าหมู่บ้านก็เลยเป็นข่าว”

“ก็ยอมรับว่ามีการไปส่งกันจริงๆ ค่ะ (กลัวคนจะมองว่าไปหาที่บ้านไหม?) ก็เข้าใจว่ามันคิดไปทางนั้นได้ ก็อธิบายให้เข้าใจว่าไปส่งธรรมดา ไม่มีอะไร บางคนก็บอกว่าไปค้างคืนแล้วก็ไปกันใหญ่ แค่ไปส่ง แล้วพี่อ้วนก็กลับบ้านเท่านั้นเอง”

“ข่าวซิ่งรถในหมู่บ้าน อันนี้คุณยามได้ตักเตือนมาว่า พี่แตงโมครับ เวลาเจอลูกระนาดให้เบรกนิดนึง พี่เป็นคันเดียวเลยนะครับที่ไม่เบรก เดี๋ยวรถมันจะพังครับ พี่อ้วนไม่ได้ขับรถสไตล์เดียวกันกับโมเลย พี่อ้วนขับรถช้ามาก แต่เป็นตัวโมเองที่ขับเร็ว แต่เราก็ไม่ได้ไปไหนด้วยกันบ่อย อาจจะเป็นประเด็นหนุ่มสาวเลยมีข่าว อย่างโมไปกับพิ้งกี้บ่อยกว่าอีก ก็ไม่เป็นข่าวเพราะผู้หญิงกับผู้หญิงไง แต่โมคงไม่ย้ายบ้านค่ะ ย้ายไม่ไหวค่ะ แต่อาจจะมีการย้ายพี่ยามกันบ้าง”

ไม่ซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้นเฉยๆ มากกว่า และมีการพูดคุยกับอีกฝ่ายแล้ว ส่วนเรื่องโอกาสพัฒนาเป็นเรื่องของอนาคต

“โมเฉยๆ ในอนาคตก็ต้องมีเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็อาจจะต้องมีอีก ที่พี่อ้วนไปส่งโมที่บ้านค่ะ บางทีเรารู้ตัวว่าออกไปแล้วอาจจะมีดื่มบ้าง โมจะไม่ค่อยขับรถค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหน้าที่ของเพื่อนผู้หญิง นานๆ ทีจะเป็นเพื่อนผู้ชายที่มาส่ง เราก็ไม่ได้คอนเฟิร์มว่า ต่อไปนี้มันจะไม่มีอีก ในชีวิตจริงเราก็ต้องยอมรับว่ามันอาจจะมีอีก”

“ก็เพิ่งคุยเมื่อวานนี้ค่ะ ว่าเห็นข่าวหรือยัง โมจะซีเรียสกับความไม่เป็นส่วนตัวของหมู่บ้านซะมากกว่า ที่จะซีเรียสเรื่องใครไปรับส่ง การที่เราซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านที่เราคิดว่าน่าจะมีความเป็นส่วนตัว แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มันบ่อยแล้ว อย่างคอลัมน์ที่ลง มันก็ไม่ได้ลงเป็นครั้งแรก บางทีก็มีความรู้สึกว่า คนในหมู่บ้านก็น่าจะเป็นคนที่ไว้ใจได้ ไม่ใช่เอาข่าวไปปล่อย”

“เรื่องของโอกาสในการพัฒนา ตรงนี้คือถ้าในอนาคตนั้น พี่อ้วนเขาตั้งใจและดีจริงๆ เราก็ปฏิเสธความดีเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้เราไม่ได้ตั้งใจที่จะคบหากันในลักษณะชู้สาว เรายังพอใจที่จะอยู่เป็นเพื่อนกัน จากที่ดู โมรู้ว่าถ้าพัฒนาแล้วมันไม่เวิร์คค่ะ เพราะโมเองก็ยังต้องมีหลายอย่างต้องดูแลค่ะ (เขาคิดกับเราเกินเพื่อนหรือเปล่า บ้านไกลยังไปส่ง?) ใครที่รู้จักพี่อ้วนก็จะรู้ว่าเขาปฏิเสธคนไม่เป็น ทำร้ายน้ำใจคนไม่เป็น ฉะนั้นเขาก็จะถูกบังคับให้ทำอะไรแบบนี้ค่อนข้างบ่อย ตอนนี้สนิทกับพี่อ้วนค่ะ”

ส่วนกรณีที่ออกชี้แจงเรื่อง “กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ในอินสตาแกรม เพราะก่อนหน้านี้มีการลงข่าวคลาดเคลื่อนนั้น โมอธิบายว่า…

“สำหรับเรื่องพี่กึ้งที่หนังสือพิมพ์บางฉบับลงไปนั้น หรือโมอาจจะตอบคำถามเร็ว และสลับประโยคคำถาม เรียบเรียงแล้วสับสนนิดนึง คือโมให้สัมภาษณ์ถึงคนอื่นที่ไม่ใช่พี่กึ้งว่าโมสนิท ทานข้าว เล่นกีฬาตีแบดฯ แต่ข่าวดันไปลงว่าโมให้สัมภาษณ์ถึงพี่กึ้ง จริงๆ โมไม่เคยทำกิจกรรมเหล่านี้กับพี่กึ้งเลยนะคะ ในข่าวคือโมเจตนาจะพูดให้เคลียร์ แต่กลายเป็นว่าเจตนาประกาศความสนิท ซึ่งจริงๆ แล้วโมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้น ก็อยากให้หาคลิปมาฟังเพื่อเปรียบเทียบกันด้วยค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“แตงโม” ดอดเฝ้าไข้ “กึ้ง” ถึงขอบเตียง ฝากบอก “จ๋า” อย่าคิดมากเพราะไม่คิดแย่งของใคร

“แตงโม” ปัดเป็นกิ๊กรายล่าสุดของ “กึ้ง เฉลิมชัย” รับดอดเฝ้าไข้ถึงขอบเตียง แต่ในฐานะพี่น้องสนิท ฝากบอก “วีเจจ๋า” สบายใจได้ ตนไม่มีนโยบายแย่งของใคร ก่อนสอนมวย “ปุ๊กลุก” เลิกสร้างชื่อเสียงหาประโยชน์จากการเกาเหลากับตน หลังปุ๊กลุกไปเล่น MV โดนแย่งแฟน แล้วบอกว่าเหมือนชีวิตจริง แตงโมแขวะให้คนจำว่าเป็นนางงามดีกว่า

มีข่าวกำลังคั่วอยู่กับพระเอกหนุ่ม “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” อยู่ได้ไม่ทันไร ล่าสุดก็มีข่าวว่าสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ไปสนิทชิดเชื้อถึงขั้นไปเฝ้าไข้หนุ่ม “กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ที่โรงพยาบาล ซึ่งหนุ่มกึ้งเองนั้นก็มีข่าวคั่วสาวอยู่หลายคน ทั้ง “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” ก่อนหน้านี้ก็มีชื่อสาว “อั้ม พัชราภา” เข้าไปร่วมวงรักอลวนด้วย แต่งานนี้สาวแตงโมออกโรงยืนยัน ไปเฝ้าไข้ในฐานะพี่น้องสนิท แต่ไม่คิดแย่งของของใครแน่นอน

“จริงๆ แล้วเราทำตามสถานะความเป็นพี่เป็นน้องที่ดีที่ควรจะทำ โมมีความรู้สึกว่า วันนึงที่ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเรา พี่น้องเราหรือใครก็ตามที่เจ็บป่วย เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดี เราก็มีจุดประสงค์เท่านั้นเองค่ะ ไม่มีอะไรพิเศษมากกว่านั้น ตัวเราเองก็ชัดเจนค่ะ เรายังไม่พร้อมที่จะมีใคร ใครเข้ามาในตอนนี้ ก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องเท่านั้นเอง ตอนนี้เราก็ยังโสดเหมือนเดิม”

“แต่ก็ยอมรับว่าสนิท เพราะว่าพี่กึ้งเขาเป็นคนง่ายๆ เป็นคนที่ใจดี เช่น เราชวนไปตีแบดฯกัน เขาก็ไป ชวนไปทานข้าวกัน เขาก็ไป เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน แต่ว่ายังไม่มีความพิเศษอะไรมากกว่าคำว่าความเป็นพี่ แล้วเรื่องนี้ยังไม่การแข่งขันอะไรกันนะ เพราะฉะนั้นก็ไม่มีการทำคะแนน”

“โมกับพี่จ๋าไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว และอยากจะบอกพี่จ๋าว่า ไม่ต้องคิดมากเรื่องโม ตัวโมก็มีจุดยืนพอ และโมก็ไม่ได้มีนโยบายที่จะไปแย่งของใคร โมอยู่กับที่อยู่เดิม ส่วนใครจะเข้ามาหรือไม่เข้ามา เราก็มีวิธีจัดแจงทุกอย่างให้มันลงตัวด้วยตัวของโมเอง เพราะฉะนั้นพี่จ๋าก็ไว้ใจเรื่องนี้ได้เลยค่ะ”

ส่วนความสัมพันธ์กับหนุ่ม “อ้วน รังสิต” แค่พี่น้องที่เจอกันบ่อย ยันไม่มีคุยพิเศษนอกรอบ

“เราเจอกันอาทิตย์ละครั้ง ด้วยความที่ตัวโมไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ผู้ใหญ่ที่ช่องบางท่านค่อนข้างบ่อยประมาณอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เราก็เจอกันกับพี่อ้วน และนักแสดงอื่นในช่องด้วย อย่างที่ได้เห็นกันในอินสตาแกรม ก็จะเจอกันแบบนั้นนอกรอบน้อยมาก แต่ก็อาจจะมีบ้าง เช่นเราก็เป็นตัวตั้งตัวตีที่จะไปเชิญคนอื่น แต่ว่าทานกัน 2 คน มันไม่สนุกเท่ากับไปกันเป็นกลุ่ม ผู้หญิงกับผู้ชายไปกัน 2 คน มันก็ไม่สนุกและคนจะมองไปในทางอื่นด้วย”

“ตอนนี้เรายังไม่พร้อมเลยจริงๆ ยังไม่ถึงกับเข็ด แต่ยังไม่พร้อมที่จะเปิด ต้องใช้เวลา เพราะเราเองก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ 20 ปลายๆ แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้ต้องใช้ความคิดและอะไรหลายๆ อย่างในการตัดสินใจ เราก็ต้องขอเวลาที่จะมีใครสักคน”

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” ไปเล่นมิวสิควีดีโอเพลง “ทนไม่พอ รอไม่ไหว” ของนักร้องสาว “พัดชา อเนกอายุวัฒน์” หรือ “พัดชา เอเอฟ2” ซึ่งเนื้อหาเพลงนางเอกมิวสิคจับได้ว่าแฟนตัวเองไปมีผู้หญิงคนอื่น จนต้องเลิกกัน แล้วในมิวสิคก็ตามไปตบด้วยความแค้น โดยทางฝ่ายของปุ๊กลุกเองก็ให้สัมภาษณ์ว่า เหมือนชีวิตจริงของตัวเอง แต่ชีวิตจริงไม่ได้แสดงออกอย่างในเอ็มวี แล้วในเอ็มวีก็มีสัญลักษณ์หลายๆ อย่างที่บ่งบอกถึงสาว “แตงโม” อย่าง ปุ๊กลุกหั่นแตงโม หลายคนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าจงใจเสียดสีหรือเปล่า? กับเรื่องนี้สาวแตงโมก็สวนกลับว่า…

“โมยังไม่เห็นเลย โมว่ามันอาจจะเป็นการโปรโมทอย่างนึงหรือเปล่า อาจจะใช้วิธีนี้อ้างอิงจากเรื่องจริง อันนี้จริงหรือไม่จริงเราก็ไม่รู้ เพราะว่าเรายังไม่ได้เห็น แต่ว่าถ้ามันมีแบบนี้จริงๆ อาจจะเป็นวิธีการโปรโมท แล้วมันได้ผลนะ โมก็เห็นว่าที่ผ่านมาก็มีคนใช้วิธีแบบนี้ แต่ว่าถ้าเกิดมันมีอะไรที่มันเป็นผลเสีย และผลกระทบกับตัวโมมากเกินไป วันนึงโมก็ต้องออกมายื่นคำขาดว่า ขอร้องว่าอย่าให้พูดถึงโมอีกเลย อย่าทำอะไรก็ตามที่มันกระทบถึงโม เพราะว่าเราพูดไปหลายรอบแล้ว”

“ทุกวันนี้ความจริงก็พิสูจน์ตัวเองแล้ว ว่าโมไม่ได้อะไร ถ้าเกิดรู้สึกว่ามันกระทบมาก โมก็ไม่อยากที่จะออกมาดูอะไรแบบนี้ (ในเอ็มวีนี้มีสัญลักษณ์หลายๆ อย่างที่บ่งบอกถึงตัวเรา อย่างปุ๊กลุกหั่นแตงโม?) จริง เหรอ..(ทำหน้าตกใจ) ต้องหาดูซะแล้ว อย่างนี้ต้องเรียกค่าตัวเรามั้ย เราทำอะไรไม่ได้ นอกจากคิดบวก ว่าถ้าตัวเราเป็นสิ่งที่ทำให้น้องเขามีชื่อเสียงเราก็ยินดีให้”

“ตัวโมเองเย็นมานานแล้ว ด้วยความที่โมแก่แล้ว โตขึ้นแล้ว เราเข้าใจว่าคนบางคน งานอย่างเดียวอาจจะยังไม่พอ ต้องกระแสด้วย เราเข้าใจว่าน้องยังเด็ก ก็เอาเปอร์เซ็นต์มาแบ่งกันบ้างแล้วกัน(หัวเราะ) พูดเล่น ถ้าขอร้องได้ ก็อยากจะขอร้องว่าให้หยุดเถอะค่ะ”

“เพราะว่าโมเชื่อว่า ถ้าเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองเหมือนกับโม น้องมีอะไรคล้ายๆ โมหลายอย่าง อยากจะพิสูจน์ตัวเองที่ผลงาน โมก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว ว่าอยากจะให้คนรู้จักตัวเองที่ผลงาน แต่ว่าทุกวันนี้บางทีก็ไม่อยากจะให้รู้สึกว่าปุ๊กลุกไหน อยากจะให้รู้สึกว่าปุ๊กลุกที่ได้ขวัญใจช่างภาพ ที่ประกวดเวทีจากต่างประเทศ แต่ทุกวันนี้กลายเป็นปุ๊กลุกที่ทะเลาะกับแตงโม บางทีมันไม่น่าภูมิใจ เพราะฉะนั้นก็ควรจะลบภาพตรงนี้ให้ได้”

“มันจะจบลงด้วยดี น้องต้องร่วมมือกับพี่ ต้องช่วยกัน เพราะว่าพี่ทั้งช่วยทั้งอวย ทั้งยอม ทั้งอะไรหลายๆอย่าง เพราะตัวน้องเองก็โดนทางผู้ใหญ่ตักเตือนไปแล้วหลายครั้ง เพราะฉะนั้นไม่เห็นแก่พี่ ไม่เห็นแก่ตัวเอง ก็เห็นแก่ครอบครัวช่อง7 ที่เขารักและหวังดีดีกว่า”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

“ปุ๊กลุก” ลั่นฝืนรับงานคู่ “แตงโม” ได้ แต่จะให้เฟคทำไม่ได้จริงๆ

“ปุ๊กลุก” ครวญน้อยใจขาเม้าท์ค่อนแคะรับงานคู่ “แตงโม” เพราะอยากสร้างกระแสให้ตัวเอง ยันเจตนาแค่อยากแสดงสปิริต ส่วนในงานครั้งก่อนหลายคนมองว่าเป็นการเล่นละครใส่กัน เจ้าตัวบอกชัดให้ฝืนได้แต่เฟคไม่ได้

ไม่จบไม่สิ้น สำหรับประเด็นข่าวเกาเหลาของ 2 ดาราสาว “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” กับดาราสาวรุ่นพี่ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ที่เมื่อไม่นานมานี้ สาวปุ๊กลุกได้ตัดสินใจรับงานอีเว้นท์คู่กับแตงโมหวังจบข่าวเกาเหลา แต่ก็ไม่วายตกเป็นขี้ปากให้บรรดาขาเม้าท์ทั้งหลายค่อนแคะว่าสาวปุ๊กลุกอยากสร้างกระแสให้ตัวเอง งานนี้เจ้าตัวเลยต้องรีบออกมาชี้แจงว่า

“สำหรับกระแสข่าวหลังจากที่รับงานคู่กับพี่แตงโม หนูก็รู้สึกน้อยใจนะ เคยบอกว่าไม่อยากรับงานเลย เงินก็สำคัญแต่ไม่ได้สำคัญกว่าการเลือกรับงาน เราก็อยากทำงานด้วยความสบายใจ ไม่อยากให้ใครมาว่าหนูสร้างประเด็นเกาเหลาแล้วมารับงานหาเงิน แต่พอเราไม่รับงานก็ถูกหาว่าเลือกงาน เรื่องเยอะ คิดว่าตัวเองดังแล้วหรือ หนูคิดว่าหลังจากที่เราปฏิเสธรับงานคู่มานานกว่า 6 เดือน หนูก็ใช้เวลาคิดนานพอสมควรในการรับงานครั้งนี้ ก็อยากพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลยว่าเราไม่ได้เรื่องเยอะหรือเลือกงาน"

กับที่หลายคนมองว่าวันนั้นเหมือนต่างคนต่างเล่นละครใส่กัน... “คืออยากจะบอกว่าหนูฝืนได้แต่เฟคไม่ได้ค่ะ ทุกอย่างคือการทำงานจริงๆ ค่ะ ถามว่าหนูเป็นมืออาชีพไหม หนูไม่ขอตัดสินตัวเองดีกว่า ให้คนดูตัดสินเอาเองแล้วกัน ไม่ได้ต้องการจะดึงเรื่อง แต่หนูทำมากกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ”

“ส่วนเรื่องที่ไปโพสต์รูปในอินสตาแกรมในทำนองน้อยใจ อันนั้นก็ขำๆ ค่ะ เราก็น้อยใจ เหมือนกันว่าการออกงานครั้งนี้ แฟนๆ หลายคนที่ติดตามผลงานเราคงรู้สึกอุ่นใจว่าเราไม่ได้เยอะนะ พอตอนนี้กลายเป็นว่าเราสร้างกระแส สิ่งที่เรากลัวมาตลอด 6 เดือนมันก็เกิดขึ้นแล้ว ปีนี้ก็เจอให้หมดไปเลยแล้วกัน”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

“ปุ๊กลุก” ประจันหน้า “แตงโม” ออกงาน ปากบอกไม่เกาเหลาแต่แยกห้องกันอยู่แถมไม่สัมภาษณ์คู่?!

“แตงโม” โชว์สปิริตออกงานคู่ “ปุ๊กลุก” ปัดไม่รู้อีกฝ่ายลงทุนแต่งหน้ามาเองเพื่อเลี่ยงไม่ให้เจอกัน อีกทั้งยังขอแยกห้องซ้อมเดินแบบ ยันไม่ซีเรียสหากทำแบบนี้แล้วสบายใจ บอกตนเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ด้านปุ๊กลุกแจงที่กลับลำยอมรับงานคู่แตงโมเพราะอยากให้ทุกอย่างจบ ปัดเรื่องเยอะขอแยกห้องแต่งตัวและห้องซ้อม ลั่นที่แต่งหน้ามาเองเป็นเรื่องปกติของตนอยู่แล้ว ส่วนที่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์คู่เพราะไม่อยากให้รื้อฟื้นอดีต
 
ควงคู่กันออกงาน CPN SUMMER 2012 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด สำหรับสองดาราสาวที่ก่อนหน้านี้มีข่าวเกาเหลา สำหรับสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” และ “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” โดยยังไม่ทันจะได้เริ่มงานก็มีประเด็นให้เม้าท์กันแล้วว่า งานนี้ปุ๊กลุกขอแยกห้องซ้อม และลงทุนแต่งหน้ามาเองเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอกัน ซึ่งครั้งนี้แม้จะทั้งคู่จะยอมออกงานคู่กันแต่ก็ไม่ยอมสัมภาษณ์ด้วยกัน โดยเป็นทางสาวแตงโมที่ออกมาเปิดใจก่อนว่า...

“สำหรับงานในวันนี้พอดีเคยร่วมงานกับพี่ก้อง ปิยะ(ออร์แกไนซ์) มาหลายงานแล้ว ก็ถ้าโมว่างก็จะรับงานของพี่เขาตลอด ไม่เคยปฏิเสธสักครั้งถ้าคิวว่าง ถามว่ารู้หรือเปล่าต้องมาร่วมงานกับปุ๊กลุก ปกติหนูไม่เคยถามเลยว่าต้องร่วมงานกับใครบ้าง แต่พี่เขาก็ถามว่าสามารถทำงานร่วมกับน้องเขาได้หรือเปล่า หนูก็บอกเลยว่าหนูสามารถทำงานกับใครก็ได้บนโลกใบนี้”

“หนูอยู่ในห้องแต่งหน้าที่เขาจัดไว้ให้ แต่ไม่รู้น้องอยู่ไหน ถามว่าขอแยกห้องแต่งหน้าหรือเปล่า หนูไม่ได้ขอแยกห้องเลยค่ะ หนูบอกแล้วว่าหนูอยู่ที่ไหนตรงไหนก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องที่แยกกันซ้อมอันนี้ก็ต้องถามน้องค่ะ เขาเรียกให้หนูแต่งหน้าก็ไปแต่งหน้า เรียกไปทำผมก็ทำผม เรียกไปซ้อมก็ไป ส่วนคนอื่นจะอยู่ตรงไหนกันก็ไม่ได้ถาม เราเอาเรื่องงานเป็นหลัก เราไม่ได้อะไรเลยยังไงก็ได้”

“ถามว่ามันจะตอกย้ำข่าวเกาเหลาหรือเปล่า คือจริงๆ นะ จะให้หนูทำอะไรก็ได้ จะให้สัมภาษณ์คู่กันก็ได้ สั่งอะไรมาหนูก็ทำหมด มันคือการทำงาน หนูสามารถทำงานที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ หนูโปรเฟสชั่นแนล (ปุ๊กลุกยอมแต่งหน้ามาเลยเพื่อไม่ต้องมาเจอกัน?) คือโมจะบอกว่าโมไม่รู้เลยนะว่าเขาอยู่ตรงไหน ไม่รู้เขาอยู่ที่ไหน (พองานเริ่มปุ๊กลุกค่อยจะออกมา?) อุ๊ย จริงหรอค่ะ ทำไมเขาทำอย่างนั้นล่ะ แล้วแต่เลยค่ะ ถ้าคนที่ร่วมงานด้วยเขาสบายใจอยู่ตรงไหนก็ไม่เป็นไร โมไม่ได้มีปัญหาเลย โมอยู่ตามธรรมชาติค่ะ หนูไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไร แต่ถ้าเขาทำอะไรแล้วสบายใจก็แล้วแต่เขา หนูสบายมากเลย เราถ่ายละครด้วยกันมาตั้ง9เดือน จะให้ไปออกงานด้วยกันอีกหนูก็ทำได้เพราะเป็นการทำงาน ใครก็ได้ค่ะ”

“หนูไม่เคยมีปัญหาอะไรกับน้องเขา เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ไม่ได้ดีขึ้นหรือลดลง หนูยังรักและหวังดีกับน้องในฐานะรุ่นพี่ในวงการบันเทิง ผ่านเรื่องราวต่างๆ ในวงการมาเยอะเราเคยเป็นมายังไง เคยให้คำปรึกษายังไงโมก็ยังอยู่ที่เดิม เคยเคลียร์กันนอกรอบไหม ก็เคยมีค่ะ ตอนถ่ายละครด้วยกัน”

“อย่างที่บอกเวลาทำงาน โมไม่ได้เข้ามาหาผลประโยชน์อะไรที่มันนอกเหนือจากการทำงาน เพราะฉะนั้นเวลาอยู่ที่กองถ่ายก็ไม่รู้สึกว่าตัวเราจะเป็นคนที่ทำให้ทีมงานหนักใจ เพราะฉะนั้นในเมื่อฝ่ายอื่นไม่เริ่มโมจะเป็นคนที่ขอเริ่มที่จะเคลียร์ก่อนในฐานะที่เราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่อยากจะทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีมีสังคมในการทำงานที่สบายใจกันทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรถึงโมจะเป็นผู้ใหญ่กว่าก็ตามโมยอมที่จะเปิดใจก่อน แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว จริงๆ จะให้พูดกี่ที่ก็ยังเหมือนเดิม เพราะเราเกรงใจผู้ใหญ่ทางช่อง คนที่เชิญเรามาร่วมงานไม่มีใครอยากเห็นเรามีปัญหากัน แล้วตัวโมไม่มีปัญหากับใครเพราะฉะนั้นก็จุดไหนที่พัฒนาได้ก็พัฒนา”

ด้าน “ปุ๊กลุก” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากเดินแฟชั่นโชว์เสร็จ โดยออกตัวว่าที่รับงานคู่กันครั้งนี้ก็เพราะอยากให้ทุกอย่างจบ ต่อไปจะได้ต่างคนต่างทำงานไม่ต้องค้างคาประเด็นนี้อีก ทั้งนี้เป็นที่สังเหตุว่าตอนที่ทั้งคู่เดินแฟชั่นโชว์บนเวที ทางฝ่ายของสาวแตงโมนั้นสามารถทำตัวได้ปกติอย่างมืออาชีพอย่างที่เจ้าตัวเคยบอกไว้ แต่กลับเป็นทางสาวปุ๊กลุกที่ดูจะเกร็งๆ และระมัดระวังตัวผิดปกติ แถมยังทำหน้าเจื่อนอย่างเห็นได้ชัด

“ที่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าไม่อยากรับงานร่วมกันเพราะไม่อยากเป็นกระแส แต่ที่รับงานในครั้งนี้เพราะมันกลายเป็นว่ามีประเด็นเพิ่มและประเด็นเก่าก็ไม่จบ หาว่าหนูเลือกรับงาน หนูไม่เคยคิดว่าตัวเองดังระดับซูเปอร์สตาร์ที่จะเลือกรับงานกับใคร คือการรับงานครั้งนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ไปเลยว่าเราคงจบเรื่องเกาเหลาหรือเลือกรับงาน”

“อย่างเมื่อกี้ก็มีถ่ายรูปด้วยกันด้วย ส่วนเรื่องสัมภาษณ์คู่กันนั้น หนูจะบอกว่าการที่เราสัมภาษณ์คู่มันก็คงเป็นการตอบคำถามเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต ซึ่งตัวเราเองก็อยากให้มันจบ เราอยากก้าวไปข้างหน้ามันเลยไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะรื้อฟื้นอดีตขึ้นมา ให้เรื่องมันจบไปแล้วมันผ่านไป งานครั้งนี้อยากให้ทุกอย่างมันจบ การที่เรารับงานและเราถ่ายรูปได้มันดีและเราสองคนก็ทำอย่างดีที่สุดแล้วค่ะ”

“ถามว่าเจอกันและทักทายกันบ้างหรือยัง เราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามที่คนจัดงานบอก (ได้ขอแยกห้องแต่งตัวและห้องซ้อม?) ตัวหนูเองไม่ได้รีเควสอะไรทุกๆ อย่างเลย ทำงานตามที่ออร์แกไนซ์บอกหนูไม่ได้เยอะอะไรเลย รวมห้องก็ได้ถ้าตัดสินใจรับงานไปแล้ว เราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาอยู่แล้ว (ออร์แกไนซ์แยกห้องให้เอง?) หนูก็ไม่รู้ว่าทางออร์แกไนซ์ได้งบประมาณมา 2 ห้องหรือเปล่า อันนี้ต้องไปถาม แต่หนูเองไม่มีอะไร แต่หนูตัดสินใจรับงานแล้วก็ทำให้เต็มที่ ซึ่งตัวหนูเองทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องมาร่วมงานกับพี่เขา”

“ส่วนเรื่องแต่งหน้ามาเองนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติของหนูที่จะทารองพื้นมาอยู่แล้ว จะติดขนตามาล่วงหน้ามาอยู่แล้วค่ะ หนูไปกองถ่ายก็แต่งหน้าเองนะ ถามว่าขออัพค่าตัวหรือเปล่า คืองานนี้หนูไม่ได้ตัดสินใจรับงานเอง ไปแอบสืบเอานะหนูก็ไม่รู้ว่าได้เท่าไหร่ เราอยากให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี (กลัวคนมองว่าเรื่องเยอะหรือเปล่า?) อะไรเยอะละคะ ไม่เยอะนะ ครั้งนี้ก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่าเราสามารถร่วมงานกันได้กับหลายๆ คน ส่วนงานบนเวทีก็ทำตามหน้าที่หนูไม่รู้สึกอะไร ต่อจากนี้หนูกับพี่แตงโม ก็ไม่มีอะไรหนูทำงานได้ทุกอย่างตามที่ผู้ใหญ่สั่ง ถ้ามีโอกาสร่วมงานกันอีกค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู็จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

“ณัฎฐ์” เดือดแฟนคลับ “แตงโม” ด่าเสียหาย ตอกไม่รู้เรื่องอย่ายุ่ง ขู่กลับถ้าไม่หยุดเจอฟ้องแน่

“ณัฏฐ์” แจงกรณีโพสต์รูปแซว “ก้อง กรุณ” ที่เคยถ่ายโฆษณาคู่กับ “แตงโม” จนแตงโมไม่พอใจได้เคลียร์จบไปแล้ว แจงทำไปเพราะสนิทกับก้อง แต่ยันตนไม่มีเจตนาที่จะแซวดาราสาวเพราะได้มีการเบลอรูปแล้ว ถึงกับฉุนกึกที่แฟนคลับแตงโมไม่ยอมจบออกมาด่าตนเสียหายทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ก่อนขู่ถ้าไม่หยุดเจอฟ้องแน่
 
เป็นเรื่องจนได้ เมื่อพระเอกหนุ่ม “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ได้ไปโพสต์แซวรูปเก่าที่เพื่อนซี้ “ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล” เคยถ่ายโฆษณาคู่กับสาวคนสนิทอย่าง “แตงโม ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์” แต่ก็ได้ทำการเบลอภาพดาราสาวไว้ จนทำให้แตงโมและแฟนคลับของอีกฝ่ายไม่พอใจ โดยเฉพาะแฟนคลับที่ถึงกับออกมาโพสต์ข้อความต่อว่าหนุ่มณัฏฐ์ชนิดสาดเสียเทเสีย ทำเอาหนุ่มณัฎฐ์ฉุนขาด ขู่ฟ้องแฟนคลับแตงโมถ้ายังไม่หยุดด่าตน พร้อมยันตนแค่แซวก้องเพราะสนิทกัน แต่ไม่ได้มีเจตนาแซวแตงโมแต่อย่างใด

“คือมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่องเลย ผมต้องขอเท้าความก่อนแล้วกัน คือว่าผมเอารูปพี่ก้อง กรุณ ซึ่งเขาเป็นพี่ชายที่ผมรักแล้วก็สนิท รูปดังกล่าวมันเป็นรูปที่เขาถ่ายโฆษณาน้ำยี่ห้อนึง แล้วก็จะมีคนสนิทเก่าของเขาอยู่ในรูปนั้นด้วย แต่ผมทำภาพเบลอรูป แล้วผมก็มีการแซวเล็กน้อยประมาณว่า แหมโฆษณานี้ได้เพราะว่าคอนเนคชั่นนะ เพราะว่าธุรกิจนี้เป็นของบ้านพี่ก้อง คือเป็นของญาติเขา ซึ่งพี่ก้องก็ไม่ซีเรียสเลย ก็ขำๆ แล้วเราเองก็ไม่ได้มีเจตนาแซวแตงโม เราแซวแค่พี่ก้องคนเดียว แต่เขามีความรู้สึกว่าผมไปแซวเขา ก็เลยเกิดเป็นความเข้าใจผิดกัน แต่เขาก็โต้กลับมาค่อนข้างที่จะรุนแรง”

“ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเขาเป็นผู้หญิง ผมไม่ต้องการไปเถียงกับเขา ถ้าเรามีเรื่องกับเขาก็ไม่คุ้มมันไม่น่ารัก ก็คุยกับเขาว่าเราไม่ได้อะไรกับเขานะ ไม่ได้แซวเขา แต่ถ้าเขารู้สึกไม่ดีก็ฝากพี่ก้องขอโทษไป ก็ลบรูปนั้นให้ เรื่องก็จบไป”

“ซึ่งหลังจากนั้น 3-4 วัน จะมีน้องแฟนคลับของเขาคนนึงมาต่อว่าผมอย่างรุนแรงเลย ตามที่เห็นในอินสตาแกรม ความรู้สึกเราคิดว่ามันไม่ถูกต้อง เราไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วมาว่าเราเสียๆ หายๆ แล้วก็มาว่าพี่ก้องด้วย เขาไม่ผิด เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมก็เลยคิดว่าเราต้องทำอะไรสักอย่าง เขาคงคิดว่าเราคงทำอะไรเขาไม่ได้ ซึ่งมันไม่จริง”

“เขาว่าผมด้วยคำที่เสียๆ หายๆ คือผมเสียมาก ผมก็ไม่ยอมนะ ถ้าผมปล่อยก็จะมีคนมาทำแบบนี้เรื่อยๆ และตามสิทธิทางกฎหมายของเรา ผมสามารถฟ้องได้นะ แล้วผมก็ตอบกลับไปดีๆ ว่าคุณไม่รู้เรื่องอย่าพูดกับผมแบบนี้นะ เรื่องที่เกิดขึ้นคุณก็ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าผมเขียนอะไร เพราะผมเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นอย่าพูดอีก ไม่งั้นผมจะฟ้องนะครับ ผมก็พูดแค่นี้”

“ถ้าไปเขียนตามคอลัมน์ผมไม่แคร์ แต่นี้เขาด่าส่งมาให้ผมโดยตรง ตอนที่เห็นข้อความผมรู้สึกฉุนมาก แล้วก็โกรธมาก ผมก็คนๆ นึง ผมก็มีอารมณ์โกรธ เวลาใครมาว่าผมแรงๆ ซึ่งมันไม่จริง ถ้าผมผิดผมจะไม่ว่าสักคำผมจะยอมรับ แต่ผมไม่ผิด คุณทำแบบนี้ก็รู้สึกไม่ถูก”

“ถามว่าผมจะฟ้องร้องหรือเปล่า ก็คงไม่ฟ้องครับ เพราะเขาก็คงไม่กล้าตอบอะไรมาอีก แต่ถ้ามีอีกก็ให้พี่นักข่าวเป็นพยานแล้วกันว่าผมไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน ผมอยู่เฉยๆ แล้วถูกอย่างนี้ คือติชมได้เรื่องของการทำงาน เรื่องชีวิตส่วนตัวผมก็เปิดเผยตลอดไม่เคยมาหมกเม็ดอะไร และถ้าคุณไม่ชอบผมก็ไม่ต้องมายุ่งกับผม หรือส่งข้อความมาว่าผม แบบนี้มันรุนแรง”

“แตงโมเองก็ออกมาปกป้องแฟนคลับเขา ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไร ปกป้องก็ปกป้องไป แต่ถ้าเขาโดนแบบผมละ แล้วตอนแรกที่เขาเข้าใจทำไมไม่โทรมาถามตรงๆ หรือฝากถามพี่ก้องมา มาขึ้นโพสต์ว่าค่อนข้างแรงไปนิด แต่ก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่าผ่านไปแล้วก็ให้อภัยกันไป แต่ตอนคุยเคลียร์กับแตงโมผมไม่ได้ยกหูโทรศัพท์คุยกับเขานะ เหมือนกับว่าเขามาตัดพ้อผมผ่านทางพี่ก้อง ผมก็เลยลบรูปนั้นไปให้ แล้วผมก็ฝากขอโทษเพราะผมไม่ได้มีเจตนาไปว่าเขา คือเขารู้สึกว่าผมไปว่าเขาถ้าลักษณะนั้น ถึงผมไม่ได้ว่าเขา เขารู้สึกไม่ดีผมก็ขอโทษ ซึ่งมันจบไปแล้ว พี่ก้องก็ไม่ได้ว่าไม่ได้รู้สึกอะไร กับแฟนคลับน้องเขาก็ไม่ได้คุยไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ จริงๆ ก็อยากให้มันจบ ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด”

“ถ้าแตงโมออกมาตอบโต้อีก ผมก็คงไม่ขอพูดอะไรหรือตอบโต้ครับ ผมว่าผมเคลียร์แล้วนะ และสิ่งที่ผมพูดไปผมไม่ได้มีเจตนาจะไปแซวเขา แล้วถ้าเขารู้สึกผิดว่าผมไปแซวเขา ผมก็ขอโทษก็ไม่ได้มีอะไรแล้ว และที่ผมเอาแมสเสจของแฟนคลับแตงโมขึ้นมา ผมก็ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้มีการไปจาบจ้วงอะไรเขา ก็โอเคเรื่องมันก็จบแค่นี้”

“ที่ผมไม่ได้เคลียร์กับแตงโมโดยตรง เพราะผมไม่อยากให้มันยืดยาว แค่นี้พอแล้ว ปัญหาของเราจบตั้งแต่แรก อันนี้มันเป็นเรื่องเรากับน้องแฟนคลับเขา ซึ่งมันไม่เกี่ยวกัน ตอนนี้ก็โอเคจบกันแล้ว (กลัวไหมหลังจากนี้จะมีกระแสข่าวว่าผมไม่แมน?) แล้วผมไม่แมนตรงไหน ถ้าผมทำ ผมก็รับ ถ้าผมพูดถึงแตงโมผมก็ต้องแท็กชื่อเขาไปด้วย แต่ผมไม่ได้แท็ก แล้วผมก็ไม่ได้มีเจตนาพูดถึงเขาเลย ถามว่าถ้าน้องแฟนคลับคนนั้นออกมาพูดอีกจะฟ้องหรือเปล่า ผมฟ้องแน่นอนครับ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์