แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวบันเิทิง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวบันเิทิง แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“เอ ศุภชัย” เล็งปั้น “กาโม่” หลาน “เฉลิม” เพราะถูกใจหล่อสำเร็จรูปไม่ต้องทำอะไร

สะเทือนช่อง 3 “เอ ศุภชัย” แพลนเป็นผู้จัดฯ ช่อง 7 บอกอยู่ในช่วงเลือกเรื่อง ปลายปีชัดเจน เจ้าตัวทลายกฎเหล็ก เลิกห้ามเด็กในสังกัดมีแฟน แต่ต้องเป็นคนที่แน่ใจจริงๆ ถึงให้เปิดเผย เพราะไม่อยากให้มีข่าวฉาวเยอะ รับเล็งปั้น “กาโม่ ” หลาน “เฉลิม” แต่ต้องรอให้อายุ 18 ก่อนค่อยว่ากัน

เป็นผู้จัดการส่วนตัวดาราที่ปั้นใครแล้วล้วนแต่ประสบความสำเร็จสำหรับ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” แต่บ้านนี้ก็มีกฎเหล็กที่ต้องถืออย่างเคร่งครัด คือเรื่องการห้ามมีแฟน แต่ล่าสุดเอก็เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้เปลี่ยนใจ สามารถให้เด็กๆ ในสังกัดมีแฟนอย่างเปิดเผยได้ แต่กำชับว่าต้องเป็นคนที่ใช่จริงๆ คนที่ยังไม่แน่ใจก็เป็นเพื่อนกันไปก่อน

“ตอนนี้ทุกคนโตกันแล้ว เอก็เลยอนุญาตถ้าใครจะมี แต่เอก็กำชับว่าต้องดูให้ดีๆ ให้มีคุณสมบัติเป็นผู้หญิงไทยใจงาม เรียบร้อย น้องๆ เขาก็โตๆ กันแล้วก็ต้องพิจารณากันได้แล้ว คือที่ผ่านมามันไม่ใช่สั่งว่าเอห้ามไม่ให้มีแฟน แต่การเข้ามาวงการเราต้องตั้งใจและมีความมุ่งมั่นจริงๆ ก็ไม่อยากให้จิตใจน้องเขาไขว้เขวไปเรื่องอื่นๆ แต่พอน้องๆ เขาโตขึ้น มีความรับผิดชอบในตัวเอง และงานได้ระดับหนึ่งแล้ว เอก็ปล่อยเขา”

“แต่คุณก็ต้องดูว่ามันใช่จริงๆ นะ เอไม่อยากให้เด็กๆ ของเอมีข่าวฉาวเยอะๆ ยิ่งเป็นผู้ชายด้วย สังคมไทยไม่ค่อยให้อภัยคนที่มีข่าวฉาวเยอะๆ ถึงแม้ว่าพอมีข่าวแล้วคนจะลืมไปชั่วขณะก็ตาม แต่ข่าวนั้นๆ มันก็จะติดตามเป็นประวัติของเราไปด้วย ถ้าจะมีต้องเอาคนที่ใช่จริงๆ แต่ถ้ายังดูๆ อยู่ก็เป็นเพื่อนกันไปก่อน”

“แต่เอาจริงๆ เอก็ยังไม่อนุญาตเสียทีเดียวหรอก ก็บอกเขาว่าดูๆ เป็นเพื่อนกันไปได้ แต่คนที่ดูแลตัวเองได้แล้ว เอไม่ต้องไปจ้ำจี้พวกนี้ เอจะปล่อยให้เขาฟรีสไตล์แล้ว เขาใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ แต่เอก็จะคอยเตือนคอยสอนว่าต้องให้มั่นใจจริงๆ นะ เพราะถ้าใจมันมัวแต่คิดเรื่องผัวๆ เมียๆ มันก็ไม่มีสมาธิในการทำงาน แต่ส่วนใหญ่ทุกคนก็จะน่ารักครับ มาก็มาปรึกษาเรื่องงานมากกว่า”

แพลนเตรียมเข้าไปคุย 7 สีเสนอตัวเป็นผู้จัดละคร บอกอยู่ในช่วงเลือกเรื่องอยู่ คาดปลายปีเรียบร้อย

“ก็กำลังคิดจะทำอยู่ครับ แค่คิดเฉยๆ ยังไม่ได้เริ่มทำอะไร ยังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่ด้วย อย่างที่บอกว่ายังคุยกันเล่นๆ เฉยๆ คงดูๆ ไปก่อน ต้องหาเรื่องให้ได้ก่อน ก็จะมีเฮเลนเป็นตัวช่วย คือตอนนี้มีแรงจะสู้แล้ว หลังจากผ่านประสบการณ์การทำละครเรื่องแรกไม่ประสบความสำเร็จ นี่ก็ผ่านมา 3 ปีกว่าพอดีเลย น้ำตาเช็ดหัวเข่ามา 3 ปีแล้ว”

“ถ้าจะทำก็คงเป็นปลายปีมั้งครับ ก็คิดว่าถ้ามันดูดีก็คงจะทำเป็นค่ายละครของเราเองเลย แต่เอก็กำลังคิดอยู่ว่ามันจะดีมั้ยเพราะไม่อยากให้ภาพของตัวเองเป็นผู้จัด ก็ยังคิดอยู่ว่าจะยังไง จะ 3 ปีทำทีดีมั้ย หรือว่ายังไง คิดแบบนั้นมากกว่า ทำคราวนี้ต้องดูแลเรื่องเงินให้ดี ต้องจ้างคนมาดูแลตรงนี้ เดี๋ยวน้ำตาจะเช็ดหัวเข่าอีก ไม่มีเงินมาซื้อกระเป๋านะ”

ปัดเตรียมดัน “กาโม่ อาชาวิน อยู่บำรุง” ลูกชายแท้ๆ ของ “วันเฉลิม อยู่บำรุง” บอกรอให้อายุถึง 18 ปีก่อนแล้วค่อยว่ากัน

“ยังเลยครับ ยังไม่ได้ปั้นเพราะน้องเขายังเด็กอยู่เลย จริงๆ แล้วเอกับทางฝั่งคุณแม่น้องเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน ม.รังสิตแล้ว ก็ไม่ได้จะเอามาปั้นหรือว่าอะไร ยังไม่ได้มีข้อตกลงอะไรกัน น้องเขายังเด็กเกิน แต่ชอบน้องเขานะเพราะน้องเขาหล่ออยู่แล้ว เอามาเอไม่ต้องทำอะไรกับเขาเลย เอมองทุกคนที่หน้าตาดีอยู่แล้ว เราอยู่ตรงนี้บอกเลยว่าเอเป็นกลาง ก็มีการพูดคุย เจอหน้าเจอตาน้องเขา น้องเขาก็เป็นคนที่หน้าตาดีคนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจรับเลย ให้เขาอยู่กับเพื่อนๆ ไปก่อน ยังไม่ได้อะไรมากกับเขา”

“ถามว่ากลัวมั้ยเอาลูกเอาหลานนักการเมืองมาปั้น อย่างที่เอบอกว่าเราเป็นคนไทย เราเป็นกลาง แล้วที่สำคัญเอเป็นคนใต้ด้วย ก็ซีเรียสกับเรื่องอะไรพวกนี้ เอทำงานตามหน้าที่ตามอาชีพที่เราที่เอไม่ได้คิดถึงจุดนั้น ก็ยังแค่มองน้องเขาไว้เฉยๆ ยังไม่ได้พูดคุยเป็นเรื่องเป็นราว น้องเขายังเด็กอยู่ 14 ปีเอง รอให้ 18 ก่อนค่อยมาว่ากัน”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เพล้ง ! “กิ๊ฟ” หน้าแหก “เวียร” ยันไม่เคยจีบ แถมบอกมีคนดูใจแล้ว

“กิ๊ฟ” หน้าแหก “เวียร์” ยันไม่ได้จีบ แถมประกาศมีคนที่กำลังดูใจแล้ว แต่รอให้แน่ใจก่อนค่อยใช้คำว่าแฟน

หลังจากที่พระเอกหนุ่มผิวเข้ม “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารส” เลิกรากับแฟนสาว “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” ก็มีกระแสข่าวกิ๊กกั๊กกับนางเอกหลายคน แต่ที่ดูจะมาวินที่สุดคงหนีไม่พ้นนางแบบสาว “กิ๊ฟ ศุจินทรา โสตถิวันวงศ์” ที่เคยออกตัวแรงออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเวียร์เป็นสเปค และเปิดโอกาสแต่จะพัฒนาหรือยังไงต้องดูต่อไป ซึ่งพอพระเอกหนุ่มได้ยินดังนี้เลยแจงว่า

“กับกิ๊ฟก็เป็นพี่น้องกันครับ เรื่องข่าวเราก็มีโอกาสได้คุยกันบ้าง แต่ก็ขำๆ เหมือนว่าน้องมาเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นไปงานก็โดนสัมภาษณ์มา น้องเขาก็ถามว่าพี่เวียร์โอเคนะ เราก็บอกพี่โอเคอยู่วงการมานานแล้วพี่เจอแบบนี้มาเยอะแยะเราก็ถามกลับว่าเธอโอเคใช่มั๊ย น้องก็บอกหนูโอเคพี่แต่ว่าก็นอยด์ แต่ตอนนี้น้องก็โอเคแล้วเพียงแต่ว่าเขายังไม่ชิน น้องบอกผมสเปคเหรอครับ อย่าเลยครับ (หัวเราะ) แต่ผมไม่ได้จีบครับ”

“ผมมีคนคุยๆ อยู่เป็นสาวนอกวงการครับ ซึ่งเขาก็ไม่ได้กังวลอะไรเรื่องข่าวครับ เหมือนกับว่าเขาเข้าใจครับ ผมก็คุยอยู่คนเดียวความสัมพันธ์กับเขาตอนนี้ก็เรื่อยๆ ครับ ไม่รีบครับ(แต่ยังไม่พร้อมเปิดตัว) ผมไม่เคยเอาใครไปซ่อนอยู่แล้วครับ เพราะถ้าผมมีโอกาสได้คุยกับใครหรือศึกษาใครผมก็จะทำเหมือนว่าผมเป็นคนธรรมดาไม่ใช่ดาราอะไร แต่ยังไม่ได้เป็นแฟนครับ คือเราคุยกันว่าเราไม่รีบครับ เราคุยกันเป็นพี่เป็นน้องกันไปก่อน เพราะที่ผ่านมาอาจจะรีบเยอะจักรยานล้มหน้าแหกอะไรบ้าง ทุกอย่างเลยต้องให้เป็นไปตามธรรมชาติครับ ถ้ามันใช่ก็คือใช่ถ้ามันไม่ใช่ก็คุยกันได้”

“ซึ่งพอมีข่าวเขาก็ไม่พูดไม่ถามอะไรเลยครับ ก็อย่างที่บอกว่าเรายังไม่พัฒนาถึงขั้นมางอนอะไร เพราะก็ยังเพิ่งเริ่มคุยๆ เฉยๆ (ถือว่าคนนี่พิเศษที่สุด?)ใช่ครับก็คุยอยู่คนเดียวตลอดครับ ก็ไปไหนด้วยกันปกติไปแอบถ่ายได้ครับ(หัวเราะ)”

ส่วนกรณีที่แม่ของนางเอกสาว “มิน พิชญา วัฒนามนตรี” ไม่ปลื้มละคร “ปิ่นอนงค์” ที่เล่นคู่กับ “เวียร์” เพราะเลิฟซีนเยอะไปนั้นเวียร์บอกว่า...
“ไม่ทราบครับ ไม่รู้ว่ามีคนพูดหรือเปล่า แต่ละครมันจะเน้นที่ดราม่า ตัวพระเอกถ้าได้แต่งงานกับนางเอกแล้วจากตบทำร้ายร่างกายหรือจูบเนี่ยอาจจะมีเยอะขึ้นให้เข้ากับบท ซึ่งถ้าถามว่าต่อไปจะใช้มุมกล้องหรืออะไรหรือเปล่าอันนี้ละครปิดกล้องไปแล้วครับ แต่ที่ผ่านมาผมว่าดีหมดนะครับ เพราะว่ามันเป็นการทำงานของเรา ผมว่าเราก็มองแล้วว่าทุกอย่างที่เราถ่ายไปก็โอเคหมดแล้ว อาจจะด้วยเพราะว่าคนดูเขาอินซึ่งผมก็ว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่ากระแสตอบรับดี”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“พีเค” ซี๊ด “สาวใหญ่พันล้าน” คางานเปิดตัวน้ำหอม เจ้าตัวบอกแค่ร่วมหุ้นไม่ใช่แฟน

“พีเค” เปิดตัวน้ำหอม ด้วยการแนบชิดทำท่าซี๊ดสูดกลิ่นน้ำหอมจาก “นักธุรกิจสาวใหญ่” หุ้นส่วน เจ้าตัวบอกแค่เรื่องงานไม่ใช่แฟน ยอมรับว่าแม่ปลื้มนักธุรกิจสาวใหญ่ แต่ตนกำลังดูใจกับนางแบบอยู่



หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าแม่ของดีเจหนุ่ม “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” อยากให้ลูกชายกลับไปขอคืนดีอดีตแฟนสาว “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” กลับมาเป็นลูกสะใภ้ แต่ลุ้นยังไงก็ยังลุ้นไม่ขึ้น เพราะล่าสุดมีการร่อนแฟกซ์ให้ผู้สื่อข่าวไปร่วมงานเปิดตัวน้ำหอม LOVE ALL LOVE ของบริษัท คิงส์ เฮลท์ตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่เพคีหุ้นกับสาวใหญ่นักธุรกิจขายตรง “ทราย นพธีรา ประสบ” ที่ว่ากันว่ารวยระดับพันล้าน

โดยในแฟกซ์ระบุว่าทั้งคู่สนิทสนมกันมากประมาณว่า สาวใหญ่กระเป๋าหนักคนนี้น่าจะเป็นแฟนใหม่ของพีเค แถมภาพโปรโมตที่ติดอยู่หน้ากล่องน้ำหอม ก็เป็นภาพพีเคสูดดมน้ำหอมซี๊ดๆ อยู่ซอกคอของหุ้นส่วน เห็นแล้วมันเกินบรรยายจริงๆ แม้แต่ในวันงานเปิดตัวก็ยังมีการโชว์ซี๊ดบนเวทีอีกต่างหาก ซึ่งเรื่องนี้ทั้งคู่ก็ได้เปิดเผยว่า...

ทราย: “ทำงานกับพีเคก็ไม่ได้เขินอะไร เพราะว่าเราสนิทกันอยู่แล้ว แล้วต้องการหานายแบบที่ไม่ฆ่านางแบบ เพราะเราก็ไม่ใช่ดาราโพสต์ท่าก็ไม่ค่อยเป็น”
พีเค: “มาร่วมทุนเพราะหลังจากที่ทำพิธีกรร่วมกัน แล้วมีช่างภาพรายการบอกว่าถ้ามีผู้ชายอยู่ข้างกล่องแล้วทำยังไงก็ได้ให้เขาไม่เขิน แล้วก็บอกว่าพีเคแกลองไปถ่ายหน่อยเถอะ ก็มาถ่ายและด้วยความสนิทกันมันเลยไม่เขิน แล้วก็ไปดูน้ำหอมกลิ่นของผู้ชายซึ่งก็เลยเป็นที่มาของการร่วมหุ้นกันครับ”

ปัดทำธุรกิจด้วยกันเพราะดูใจกันอยู่
ทราย: “เราทำธุรกิจร่วมกันเฉยๆ คะ”
พีเค: “เวลาทำงานอะไรมันก็เป็นแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าเราให้เกียรติซึ่งกันและกัน เขาเป็นนักธุรกิจครับ ก็คือเหมือนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับเขาและมาทำความรู้จักกับสินค้าให้มากขึ้น (แม่พีเคปลื้ม?)ก็เขาสนิทกัน ตอนนี้เอาเรื่องงานก่อนเหอะ ธุรกิจอย่างเดียวไม่มีอะไรอย่างอื่นครับ เรารู้จักกันมาหลายงานมากแล้วครับ แล้วคิดว่าถ้าเรามาทำธุรกิจด้วยกันน่าจะไปได้ดี”

ส่วนนางแบบที่ “พีเค” ควงไปเที่ยวที่โน่นที่นี่อยู่บ่อยๆ เจ้าตัวยอมรับว่ากำลังคบกันอยู่
“นี่ก็เป็นอีกประเด็นนึงอีกปัญหานึงที่ต้องทะเลาะกันอยู่ทุกวันนี้เลยครับ เอาเป็นว่าวันนี้เรามาฉลองการเปิดตัวสินค้าใหม่ ของเราแล้วกันครับ (มีคนเห็นว่าไปเดินเที่ยวกับนางแบบสาวผมตรง?) นึกไม่ออก...เอาแล้วเรื่องท่าทางจะยาวแล้ว ดูๆ กันอยู่ครับ ดูกันอยู่แต่ว่ามันก็มีอีกหลายอย่างที่ต้องคุยๆ กัน เพราะว่าก็มีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“ตอง” ปรี๊ดคนปล่อยข่าวแย่งเพลง “เอมมี่” คางาน ซัดไร้สาระ

“ตอง” ปรี๊ดแตก คนปล่อยข่าวแย่งเพลง “เอมมี่” ในงานโชว์ตัว แจงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนไม่ได้ตั้งใจและได้ขอโทษอีกฝ่ายไปแล้ว ซัดเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่รู้คนปล่อยข่าวต้องการอะไร


อยู่ดีๆ นางแบบสาว “ตอง ภัครมัย โปรตระนันท์” ก็มีเรื่องให้ต้องหัวเสีย เมื่อมีกระแสข่าวเมาท์ออกมาว่า เจ้าตัวไปออกงานโชว์ตัวที่ต่างจังหวัด พร้อมกับ “เอมมี่ มรกต กิตติสาระ” แต่กลับไปแย่งเพลงสาวเอมมี่ ที่จะใช้ร้องโชว์ในงาน ทำเอาถูกมองทะเลากันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เจอเข้าไปแบบนี้เล่นเอาตองถึงกับปรี๊ดแตกเลยทีเดียว

“เรื่องเพลงงงมากเลย มันเป็นความเข้าใจผิด ต้องขอโทษน้องด้วยซ้ำ พอดีมันต้องขึ้นเวที แต่ตองร้องเพลงช้าไป 2 เพลง แล้วอยากร้องเพลงเร็ว เขาก็มีให้เลือกว่าเราจะร้องเพลงไหน ตองก็ถามพี่นักดนตรีที่เล่นว่า ตองเอาเพลงนี้ มีคนร้องหรือยัง พี่เขาก็บอกว่ายังไม่มี งั้นก็โอเค ตองเอาเพลงนี้ พอขึ้นไปร้องเสร็จลงมาหลังเวที ตองรู้มั้ยเพลงนี้มีคนจะร้อง ตองก็เอ้าจริงเหรอคะ ตองขอโทษ ก็ยังขอโทษทางผู้จัดการที่ไปด้วยกับเขาค่ะ แต่ตองไม่ได้ขอโทษกับน้อง เพราะน้องกำลังขึ้นเวที”

“ซึ่งตองไม่รู้ว่าเรื่องมันออกไปได้ยังไง เพราะมันเพิ่งเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งก็ตีสองแล้ว แล้วเราไปร้องแถบชายแดน เพราะฉะนั้นมันมาเร็วมากเกินไป ตองไม่รู้ว่าคนที่พูดข่าวนี้ต้องการอะไร ตองก็ไม่เข้าใจว่าใช้พี่ๆ สื่อมาทำให้คนทะเลาะกันหรือเปล่า แล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออก ว่าตองรีบขอร้องก่อน เพราะว่าตามคิวแล้ว น้องร้องต่อตอง”

“ตามงานที่เขาบอกนะคะ ซึ่งตองก็ไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน ตองก็อยากจะฝากบอกคนที่ให้ข่าวเรื่องนี้ด้วยนะคะ ตองไม่ทราบว่าคุณต้องการอะไรจากข่าวนี้ แต่ตองเชื่อว่าคนดูเขามีวิจารณญาณพอ ที่จะรู้ว่าเรื่องนี้มันเกิดจากอะไร อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่มีใครดีกับเรื่องแบบนี้ค่ะ เพราะกับน้อง ตองคิดว่าก็คงไม่มีปัญหาค่ะ”

“คืออยากจะบอกว่ามันดูละครกันมากเกินไปมั้ย แย่งเพลงกันแล้วจะตบกัน ไม่ถูกกัน แล้วอีกอย่างมันไม่ได้เป็นงานออกทีวี มันไม่ได้เป็นงานที่ทำให้ใครเสียทำให้ใครมีปัญหาได้ แต่อันนี้ตองไม่รอบคอบเองที่จะเช็คก่อน แล้วทางงานก็ไม่ได้ให้ตองดูว่ามีนักร้องคนไหน”

“แล้วน้องเองก็ไม่รู้ว่าตองร้องเพลงไหน ตองก็ไม่รู้ว่าน้องร้องเพลงไหน กับน้องคงไม่ต้องเคลียร์ เพราะตองคิดว่าน้องเขาก็คงคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระเหมือนตอง แต่ที่ตองโกรธคือ มันเป็นข่าวมาได้ยังไง ตองว่ามันตลกมาก ถ้าตองอยากดังตองไปมีเรื่องกับอั้ม (พัชราภา ไชยเชื้อ) ดีกว่า ยังดัง ยังจะเป็นข่าวมากกว่านี้อีก”

เผยความรักกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นาม “โจ้” แฮปปี้ดี

“ตองก็ไม่ได้เปิดอะไร เรียกว่า เป็นคนทั่วไปมากกว่า คือ เราเป็นผู้หญิง จะไปเปิดอะไรมากมันก็ดูไม่ดี เขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เพราะทุกอย่างมันเป็นปกติ จริงๆ เขาก็ดีค่ะ ก็น่ารัก คบกันมาได้ประมาณเกือบปีแล้วค่ะ ไม่มีแพลนแต่งงาน มีแต่แพลนว่าเย็นนี้จะไปทานอะไรดี ส่วนใหญ่จะหนักไปงานเรื่องกินมากกว่า”

“เขาเป็นนักธุรกิจ เป็นคนดี จิตใจดี อายุเท่ากัน ตอนนี้ก็แฮปปี้ดีมากๆ ค่ะ กับทางบ้านก็เจอกันตลอด แฮปปี้ดีไม่มีอะไร ณ วันนี้ดีมากค่ะที่ได้รู้จักเขา แต่เรื่องอนาคตยังไม่ตอบแล้วกัน เพราะยังไม่รู้เลย ความแน่นอนมันตั้งอยู่บนความไม่แน่นอนค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“โต๋” อดเป็นแฟน “ไบรท์” เพราะฝ่ายหญิงติดใบสั่ง “สรยุทธ” ห้ามแต่งงานใน 10 ปีนี้

“โต๋” เปิดปากสนิท “ไบรท์” แต่เลื่อนขั้นเป็นแฟนยังไม่ได้ เพราะฝ่ายหญิงติดเซ็นสัญญากับ “สรยุทธ” ห้ามแต่งงานใน 10 ปีนี้ บอกฝ่ายหญิงเล่า “หนุ่ม ศรราม” ตามจีบ แต่ไม่ได้คิดอะไร แซวตัวเองที่ผ่านมาคนเมาท์ซุ่มคบผู้ชาย



ถูกจับตามมองมาพักใหญ่แล้ว สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกาศข่าวสาว “ไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ” แห่งรายการเรื่องเล่าเช้านี้ กับนักร้องหนุ่ม “โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” ที่มีคนเห็นทั้งคู่ควงไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน โดย สาวไบรท์ เผยว่า หนุ่มโต๋เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานเป็น 10 ปีแล้ว ส่วนความสัมพันธ์จะพัฒนาหรือไม่ตนยังตอบไม่ได้ เพราะว่าติดเซ็นสัญญากับ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ว่า ห้ามแต่งงานในเวลา 10 ปีนี้ เมื่อมาสอบถามกับทางหนุ่มโต๋บ้าง เจ้าตัวก็ยอมรับว่า สนิทกับสาวไบรท์มานานแล้ว เพราะทำงานอยู่ในสายงานเดียวกัน มีปัญหาอะไรก็คอยปรึกษากัน

“ก็อย่างที่ไบรท์บอก เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ 10 ปี ตั้งแต่ไบรท์เข้ามาทำงานแรกๆ แล้ว เราก็มาสนิทกันช่วงหลัง มีอะไรก็คุยกัน เขาก็เป็นคนที่คุยได้ทุกเรื่อง มีอะไรก็คุยกัน อาจจะพิเศษที่เขาเองก็ทำงานตรงนี้อาจจะคล้ายๆ กัน อยู่ตรงนี้มีอะไรหลายๆ อย่างที่เราต้องคุยกัน”

“บางวันเราเจออะไรที่ไม่ดี ไม่เข้าใจ เราก็คุยกันปรึกษากัน มีอะไรก็ปรึกษาเขา ได้อีกมุมมองนึง สบายใจ ก็คุยกันทุกเรื่องครับ ก็เป็นคนที่คุยกันได้ทุกเรื่องครับ แฟนรึเปล่านี่ อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปไปถึงขนาดนั้นเลยครับ ยังสรุปไม่ได้ เพราะเขายังติดสัญญากับพี่สรยุทธอยู่ครับว่าห้ามมีแฟน ห้ามแต่งงานใน 10 ปีนี้”

เจ้าตัวเผยรู้เรื่อง “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” ก็มาขายขนมจีบสาว “ไบรท์”

“เรื่องนี้ทราบครับ ไบรท์เขาก็เล่าให้ผมฟังทุกเรื่องอยู่แล้ว เขาก็เล่าให้ผมฟัง ก็ไม่มีอะไรนะครับ ส่วนใหญ่แล้วเรามีอะไรก็คุยกัน ไม่ใช่ว่าเราจะมาปากแข็งว่าเป็นแค่เพื่อนกันนะ เราก็พูดอย่างที่เราพูด อย่างที่ทุกคนรู้ ไบรท์ก็พูดความจริง เราก็สนิทกัน ไบรท์เป็นคนที่คุยกันทุกเรื่อง ผมเชื่อว่าทุกคนก็รู้จักและชื่นชมไบรท์ เพราะเขาเป็นคนน่ารัก ใครได้ดูข่าวตอนเช้าก็คงชื่นชมเขาเหมือนกัน เขาก็น่ารักครับ”

“ฟีดแบ็กจากแฟนคลับก็ไม่ได้มีอะไรนะครับ หลายๆ คนก็เป็นแฟนคลับรายการไบรท์อยู่แล้ว เขาก็ชื่นชอบ ไม่ได้มีอะไร ผมเชื่อว่าถ้าผมชอบใครหรือรักใครจริงๆ แฟนคลับเขาก็คงรักด้วย”

“ผมว่าความจำกัดของความเป็นศิลปิน และแฟนคลับมันมีหลายอย่าง และแฟนคลับของผมหลายๆ คนเขาก็น่ารักอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็เคยมีข่าวกับหนุ่มๆ ไงครับ (เหมือนคนมองว่าสาวที่โต๋ซุ่มคบอยู่สุดท้ายก็เฉลยว่าเป็นไบรท์?) อ๋อ คนไม่ได้มองว่าผมซุ่มคบผู้ชายเหรอครับ (หัวเราะ) ก็ไม่รู้จะว่ายังไงครับ”

“ก็ตามนั้นล่ะครับ เราเองไม่ได้เปิดตัว มันก็เป็นเรื่องปกติ เราเป็นเพื่อนกันสนิทกันก็ไปดูคอนเสิร์ตได้ เป็นสายงานของผมอยู่แล้ว ผมก็ใช้ชีวิตเป็นปกติ คนก็รู้จักเขา รู้จักเราเป็นเรื่องธรรมดา เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อย่างที่บอกว่าเราเป็นเพื่อนกันสนิทกันครับ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“กุ๊บกิ๊บ” สนที่ไหน! แฟนคลับจีนด่าโชว์รูปคู่ “มาริโอ้” ถี่ บอกยิ่งด่ายิ่งโพสต์

“กุ๊บกิ๊บ” ชัดเจนไม่รับงานคู่ “มาริโอ้” กลัวคนมองสร้างกระแส ยันไม่ซีเรียสแฟนคลับจีนโพสต์ด่า หลังไม่พอใจตนโพสต์รูปหวานคู่มาริโอ้ถี่ เพราะอ่านภาษาจีนไม่ออก บอกยิ่งด่ายิ่งโพสต์ ขู่มือที่ 3 ที่คิดแทรกกลางเจอดีแน่

ประกาศตัวเป็นคู่รักในวงการมาได้พักใหญ่แล้ว แต่สาว “กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” กับหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ก็ยังไม่คิดรับทรัพย์ออกมาคู่กัน แม้จะมีคนติดต่อทาบทามมาหลายเจ้า ล่าสุด เห็นภาพทั้งคู่ถ่ายแฟชั่นคู่กันลงอินสตาแกรม ทำเอาหลายคนคิดว่าทั้งคู่กำลังจะมีผลงานร่วมกันเร็วๆ นี้ แต่สาวกุ๊บกิ๊บ ก็ออกมาชี้แจงว่า เป็นการช่วยเพื่อนทำงาน แต่ยังยึดคอนเซ็ปต์ไม่รับงานคู่โกยเงินแต่อย่างใด

“มันเป็นโปรเจกต์ของเพื่อนเฉยๆ ค่ะ เพื่อนขอให้ถ่ายเสื้อผ้าให้ ถ่ายคู่กันเฉยๆ ไม่มีอะไร ไม่ได้ออกสื่ออะไร ยังยืนยันว่า ไม่รับงานคู่กันค่ะ ขออยู่สงบๆ ก่อน ไม่อยากโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เยอะ คือ มาริโอ้หน้าสวย หนูไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่เป็นไรขออยู่แบบโดดๆ งานนั้นก็ช่วยเพื่อนเฉยๆ ถามว่า มีติดต่องานคู่เข้ามาบ้างมั้ย มีติดต่อมาเรื่อยๆ ค่ะ พวกชุดว่ายน้ำ แล้วก็เสื้อผ้าคู่ก็มีบ้าง แต่เราคิดว่าเรายืนอยู่ตรงนี้โอเคแล้ว ทุกคนมีงานของตัวเอง มีไลน์ของตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำคู่กันก็ได้”

“โอ้เองเขาก็ไม่อยากถ่าย เราไม่อยากให้เป็นข่าว คนจะมองว่าสร้างกระแสรึเปล่า เกาะกันดังรึเปล่า ถามว่าเสนอค่าตัวให้สูงมั้ย ก็ได้อยู่ แต่มันไม่เกี่ยวกับค่าตัว เงินไม่ใช่ประเด็นหลัก เราอยากวางตัวให้เหมาะสมมากกว่า เราคบกันเปิดเผย เราใช้ชีวิตประจำวันออกไปข้างนอกก็ปกติ แต่อยู่หน้าสื่อเราก็ต้องวางตัวให้เหมาะสม เพราะมีวัยรุ่นหลายคนที่จับตาดูอยู่”

ไม่ซีเรียสแฟนคลับจีนโพสต์ด่า หลังไม่พอใจที่ตนโพสต์รูปคู่หวานกับ “มาริโอ้” ถี่ เพราะอ่านภาษาจีนไม่ออก บอกใครไม่พอใจก็ไม่ต้องตาม ลั่นยิ่งมาด่าก็จะยิ่งโพสต์รูป

“อ่านภาษาจีนไม่รู้เรื่อง ไม่ได้รู้สึกเจ็บแสบขึ้นมาทันที อกหักใช่มั้ยแบบนี้ ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร เราก็เข้าใจว่าเขาชื่นชอบมาริโอ้มาก เราก็เข้าใจอินตามหนัง ถึงจะผ่านมาหลายปีแล้ว กิ๊บเป็นคนกลาง ก็คงไม่ต้องตอบโต้อะไร ถ้าไม่ถูกไม่ควรแฟนคลับก็ชี้แจงไป มีทั้งแฟนคลับฟิลิปปินส์ ก็ช่วยตอบโต้ให้ เราก็ปล่อยเขาไป”

“ส่วนใหญ่ก็จะมีแฟนคลับคนไทยมาแปลให้ ว่า คนจีนมาว่าแบบนี้ แฟนคลับที่ชื่นชอบเราก็เห็นว่าไม่รู้เรื่องอะไร ทำไมมาว่าแบบนี้ ถามว่านอยด์มั้ย หนูไม่นอยด์ หนูแค่คิดว่าใจเย็นๆ อย่ามาพูดหยาบคายในนี้ เราจะบล็อกทันที เราคิดว่าอินสตาแกรมของเราเป็นอินสตาแกรมที่มีความสุข กิ๊บจะตลก อย่ามาดราม่าให้คนอื่นเขารำคาญ ก็บล็อกไปเลย ฉันไม่แคร์”

“เหมือนช่วงหลังก็ยิ่งเยอะขึ้น ยิ่งโอ้บินไปจีบถี่ขึ้น หนังเขาก็เพิ่งฉายไป ไปออกรายการด้วย เขาค่อนข้างจะกว้างที่นู่น เราโดนว่า ก็ไม่เกี่ยวกับเขานะ เราไม่ได้ไปจีน ไม่ได้มีปัญหาอะไร ว่าแล้วยังไง ไม่อยากเห็นก็ปิดอินสตาแกรมไปซะ ถ้าไม่อยากเห็น โหลดรูปใหม่แป๊บเดียว คอมเม้นท์นั้นก็หายไปแล้ว”

“โอ้เองเขาก็รู้ว่าหนูโดนว่า ก็บอกเขาว่าเพราะเธอฉันโดนว่าตลอดเลย เขาก็บอกว่าเป็นแบบนี้แหละ คนอื่นโดนว่าเยอะแยะ เรื่องปกติ ก็ทำให้เราแข็งแรง เป็นคนแข็งแรงอยู่แล้ว เขายิ่งไม่ชอบให้เราโพสต์รูปคู่ เราก็ยิ่งโพสต์”

ยันสาว “หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ” และสาว “คิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส” ไม่ได้เป็นมือที่ 3 แทรกกลางความรักของตน ย้ำแค่โพสต์แหย่กันเล่นกับสาว “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” เฉยๆ ลั่นตัวจริงไม่ใช่สาวร้ายเหวี่ยงวีน แต่ถ้ามีมือที่ 3 เข้ามาแทรกกลางเมื่อไหร่เจอตนแน่นอน

“อยากจะพูดว่าจริงๆ มันไม่มีเลย ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่มีทั้งหนูนา ทั้งน้องคิม ต้นเรื่องมาจากพี่พลอยโพสต์อินสตาแกรม มันมาจากว่า มีข่าวออกมา มันมีข่าวว่ากิ๊บกับพี่พลอย กับมาริโอ้ เกาเหลากัน ไม่ถูกกันอีกต่อไปแล้ว กิ๊บเลยโพสต์รูปคู่กับพี่พลอยขึ้น พอโพสต์รูปคู่เสร็จ พี่พลอยเลยโพสต์รูปกิ๊บกับโอ้ขึ้น แล้วโพสต์ว่า อย่ามายุ่ง อย่ามาแย่ง ให้รู้ว่าเราไม่ได้เกาเหลากัน”

“เขาก็ยังปกป้องน้องเสมอ หลังจากนั้น ก็มีมือบอน มาเขียนอักษรย่อ ซึ่งเป็นตาสีตาสาไก่กาอาราเล่ มาโพสต์ทิ้งไว้ ทุกคนก็คิดว่าต้องเป็นน้องคนนี้คนนั้น หลังจากนั้น ทุกคนก็เริ่มเขียนสตอรี่ของตัวเอง ร่ายยาวจนมาถึงพี่ๆ นี่แหละ จริงๆ มันไม่มีอะไร”

“หนูกับพี่พลอยก็งง ทำไมไปไกลขนาดนี้ ไปดูของพี่พลอยจะเขียนว่าไม่มีอะไร อย่าคิดกันไปเอง ไม่มีอะไรจริงๆ ก็สงสาร หนูนาจริงๆ กิ๊บเองก็ไม่เคยเจอ แต่โอ้เคยเจอบ้างนานแล้ว ส่วนคิม ถ่ายละครกับหนู สนิทกัน เขาก็มาบอกหนูว่ามีข่าวนี้ หนูก็ตกใจ”

“เขาก็ไม่ได้นอยด์นะ แค่งงว่ามาได้ยังไง คนไม่รู้ก็คิดว่ามันเป็นไปได้ กระแสละครของพี่ดีนี่ กับเพียงดาวมันแรงมาก แต่ชีวิตจริงไม่มีเลย สื่อสร้างภาพให้หนูดูเหวี่ยงวีน ร้าย เดินไปไหนไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับหนูเลย จริงๆ หนูไม่ร้ายนะคะ ยืนยันว่า ไม่มีมือที่ 3 แน่นอน แต่ถ้ามีเหรอ เจอกัน (หัวเราะ)”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“เวิร์คพอยท์” เริ่ดมาก จรรโลงสังคมได้รับรางวัล “ระฆังทอง”

เวียนมาอีกรอบแล้ว สำหรับงานประกาศรางวัล “ระฆังทอง” (บุคคลแห่งปี) จัดโดย สมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท.) ซึ่งมอบให้แก่ศิลปิน ดารา นักแสดง และคนมีชื่อเสียงทั่วประเทศ

โดยในปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 แล้ว และจะมีการมอบรางวัลขึ้นในวันพุธที่ 25 ก.ค.55 นี้ เวลา 15.00 น. ณ หอประชุมใหญ่ กรมประชาสัมพันธ์ โดยมี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธาน และมี ฯพณฯ พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี มาเป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัล

ทั้งนี้ ในส่วนของวัตถุประสงค์การมอบรางวัล “ระฆังทอง” (บุคคลแห่งปี) มีระบุไว้ดังนี้

1. เพื่อส่งเสริม สร้างสรรค์ เกียรติยศชื่อเสียง และความภาคภูมิใจของนักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์
2. เพื่อส่งเสริม การผลิตการจัดรายการและประกอบวิชาชีพ หนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์ ให้มีมาตรฐานทัดเทียมกับนานาประเทศ
3. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประกอบอาชีพของนักจัดรายการข่าววิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์เป็นไปโดยถูกต้องตามหลักวิชาการ มีจรรยาบรรณโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและการใช้ภาษาอันดีงามของไทย และตระหนักถึงความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
4. เพื่อส่งเสริมสร้างความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
5. เพื่อแสดงความขอบคุณผู้อุปถัมภ์รายการวิทยุกระจายเสียง-วิทยุโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ และยกย่องชมเชยบุคคลที่ทำประโยชน์แก่สังคม เสริมสร้างขวัญกำลังใจ บุคคลตัวอย่างที่จรรโลงให้สังคมน่าอยู่ สงบสุข
6. เพื่อรวมพลังกันก่อกิจกรรมอันเป็นสาธารณะประโยชน์ทั่วไป

อย่างไรก็ดี เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เวทีนี้เคยสร้างความฮือฮา ด้วยการมอบรางวัลบุคคลดีเด่น ให้กับนักแสดงมากคดี “เก่ง เมธัส สวนศรี” จนโดนโจมตียับถึงไม่ความเหมาะสม รวมถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณารางวัล ที่ดูจะขัดกับวัตถุประสงค์ของการมอบรางวัล ที่ระบุชัดเจนว่า รางวัลนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อมอบให้กับ สื่อ องค์กร และ บุคคล ที่ทำประโยชน์แก่สังคม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำสิ่งดีๆ ต่อไป

ซึ่งในปีนี้ยังคงมีศิลปิน ดารา คนเบื้องหน้าเบื้องหลัง จากทุกวงการ ทั้ง โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ ตบเท้าเข้ารับรางวัลคับคั่งเช่นทุกปี โดยมีรางวัลที่น่าสนใจ ดังนี้

รางวัล สาขาสร้างสรรค์สนับสนุนมวลชนและสังคมดีเด่น ประเภทศิลปิน ดารานักแสดง นักร้อง ได้แก่ พันโท วันชนะ สวัสดี (ผู้พันเบิร์ด), นายเปรม บุษราคัมวงศ์, นายวรินทร ปัญหกาญจน์ (เกรท),นางสาวศิรพันธ์ วัฒนจินดา (นุ่น), นางสาวกาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า (เกรซ),นางสาวสิริรัตน์ เรืองศรี(หนูสิ) มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2010, นางสาวชมเพลิน เอื้อวิวัฒน์สกุล,นางสาวพิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์ (แก้มบุ๋ม),นายพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา(น้าโย่ง เชิญยิ้ม),นายพวง แก้วประเสริฐ (น้าพวง เชิญยิ้ม),นายนงค์ ปิยะโชติ (น้านงค์ เชิญยิ้ม),นายชุติเดช ทองอยู่ (ครูเทียม),นางสาวมณีนุช เสมรสุต (ครูอ้วน),เด็กหญิง ซาร่า หฤษฎีชวลิต,นายพรภิรมย์ พินทะปะกัง (ไมค์ ภิรมย์พร),คุณโจนัส แอนเดอร์สัน,คุณคริสตี้ กิ๊บสัน,นางสาววรัทยา นิลคูหา (จุ๋ย)

รางวัล สาขาสื่อสารมวลชน ประเภทบุคคลดีเด่น ด้านโทรทํศน์ ได้แก่ นายกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์, นายวราวุธ เลาหพงศ์ชนะ,นายพลวรรธก์ บุญลออ, นางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี (บุ๋ม),นายชัยอนันต์ ปันชู (ต้นกล้า),นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล, นายพิเชษฐ์ไชย ผลดี (ตั้น), นายธนพล กอโชคชัย,นายณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ (บ๊อบ)

แต่ที่ถูกพูดถึงไม้น้อยคงเป็นกรณีที่ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) คว้า รางวัล สาขามวลชนดีเด่น ประเภทองค์กรดีเด่น ไปครอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ เวิร์คพอยท์ เพิ่งตกเป็นประเด็นอื้อฉาว กรณีปล่อยสาวเปลือยอกวาดภาพออกรายการ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์” จนโดนคนทั้งประเทศรุมจวกเละมาแล้ว

รวมไปถึง กรณีที่มี ผู้อำนวยการ และ นักเรียน โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ที่ร่วมส่งวงดนตรีเข้าประกวดในรายการ “ชิงช้าสวรรค์” ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อว่ารายการตัดสินไม่เป็นธรรม และหนึ่งในคณะกรรมการมีพฤติกรรมน่าสงสัย ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้มีการชี้แจงใดๆ การที่เวิร์คพอยท์คว้ารางวัล สาขามวลชนดีเด่น ประเภทองค์กรดีเด่น ในครั้งนี้ จึงถูกตั้งข้อสงสัยถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาต่างๆ ของฝ่ายผู้จัดงาน ว่าจะโดนวิพากษ์วิจารณ์ซ้ำรอย “เก่ง เมธัส” โดนเมื่อ 2 ปีที่แล้วอีกหรือไม่?!

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคืบหน้าและรายละเอียดของเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวจะนำมารายงานต่อไป

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

แรงส์! “โม” โพสต์เพิ่งไปแดนซ์คอนเสิร์ต “เจ” ถ้าท้องกับ “บ๊วย” ลูกคงหลุดไปแล้ว

“โม นภัสนันท์” เดือด โพสต์ขึ้นกูประชดข่าวท้อง-เตรียมแต่ง “บ๊วย” ก่อนตอกแรง เพิ่งไปแดนซ์คอนเสิร์ต “เจ เจตริน” มา ถ้าท้อง ลูกคงหลุดไปแล้ว


หลังจาก “โม นภัสนันท์ พสวงศ์” ทายาทร้านทองชื่อดัง ตกเป็นข่าวเป็นมือที่สาม ที่ทำให้ “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” ต้องขอหย่ากับอดีตภรรยา “ตุ๊ก ชนกวนันท์” กระทั่งมีข่าวตามมาว่า ตอนนี้บ๊วยเตรียมขอโมแต่งงานเพราะฝ่ายหญิงกำลังตั้งท้อง แต่นับตั้งแต่มีข่าวดังกล่าวหลุดออกมา ทั้งบ๊วยและโมก็ยังไม่มีใครออกมาเคลียร์ใดๆ โดยเมื่อวันก่อน ทางฝ่ายของบ๊วยได้ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องนี้ หลังนักข่าวตามไปสัมภาษณ์เจ้าตัวในงานๆ หนึ่ง

ล่าสุด เป็นทางฝ่ายของสาวโมที่อดรนทนไม่ไหว ที่โดนกระแสโจมตีไม่จบไม่สิ้น ถึงกับออกมาโพสต์ประชดผ่านอินสตาแกรมอย่างมีอารมณ์ โดยมีข้อความดังนี้ “หรอ.. นี่กรูจะแต่งงานแล้วหรอ วันไหนช่วยบอกด้วยนะ เดี๋ยวเตรียมชุดไม่ทัน” และ “ไอ๊หย๊ะ!! ยังไม่ได้แต่งเลย ท้องไปสองเดือนแล้วหรอ อืมจะแต่งงานบ้าง ท้องบ้าง มือที่สามบ้าง สุดย๊วดดด วงการบันเทิงไทย”

ส่วนที่มีคนเห็นเจ้าตัวไปแดนซ์สะบัดที่คอนเสิร์ต “J20 Anniversary Concert” ของ “เจ เจตริน” เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สาวโมก็ได้ทีตอบกลับอย่างถึงพริกถึงขิงว่า “แดนซ์ขนาดนี้ ลูกคงหลุดไปแล้วล่ะ”… เก็บกดมานานโผล่ออกมาที ทำเอาขาเม้าท์หน้าหงายกันเป็นแถว จบข่าวฉาว ณ บัดนาว ส่วนจะจริงหรือมั่ว ชัวร์อย่างที่เจ้าตัวพูดหรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองจริงมะ?!

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“พระเจสัน” เปิดใจ เดินมาถูกทางแล้วที่จะบวชตลอดไป

“พระเจสัน” เปิดใจครั้งแรกหลังบวช เผย การตัดสินใจทั้งหมดเป็นเพราะอยากทดแทนคุณพ่อ-แม่ และเลื่อมใสศรัทธาในทางธรรม โดยมองว่าตนเดินมาถูกทางแล้วที่จะครองสมณะเพศไม่มีกำหนดสึก

จากกรณี “พระเจสัน ปิยาจาโร” หรือ “พระเจสัน ยัง” ได้มีการถอนหมั้นกับ “น.ส.ดาริกา จาโกต้า” คู่หมั้นสาวลูกครึ่งไทย-อินเดีย เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากพระเจสัน มีความปรารถนาที่จะบวชไม่มีกำหนดสึกจากผ้าเหลือง และขณะนี้กำลังศึกษาวิชาสมาธิชั้นสูง รุ่นที่ 1 ร่วมกับพระสงฆ์ ครูสมาธิ นักวิชาการจากทั่วประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิทางการเมือง รวมกว่า 1,500 ชีวิต ที่วัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง โดยมีพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล เป็นพระอาจารย์ตามหลักสูตร และหลังจากจบหลักสูตรประมาณต้นเดือน ส.ค.นี้ จะเดินทางไปพำนักอยู่ที่วัดราชธรรมวิริยาราม 3 เมืองแอดแมนตั้น ประเทศแคนาดา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด รายการ “พฤหัสอัศจรรย์” ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ พระเจสัน ที่วัดธรรมมงคล โดยมีพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล หลวงพ่อที่พระเจสันให้ความเคารพนับถือ ร่วมสัมภาษณ์ด้วย โดยพระเจสัน ได้เปิดเผยถึงการตัดสินใจบวชไม่มีกำหนดสึกในครั้งนี้ว่า…

“เพราะเลื่อมใสศรัทธาในทางธรรม เลื่อมใสในการปฏิบัติธรรม ตั้งจิตทำสมาธิ และอยากจะบวชทดแทนคุณบิดามารดา ทำให้ตัดสินใจละกิเลส ละทางโลก แล้วเดินหน้าเข้าสู่สมณเพศ เพื่อต่อยอดสะสมบุญ เลยตัดสินใจออกบวช โดยปรารถนาอยากที่จะขอออกบวชครองสมณเพศแบบนี้ตลอดไป ไม่อยากให้มีเวลามาเป็นตัวกำหนด อยากตั้งจิตทำสมาธิ ฝึกจิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ ส่วนตัวคิดว่าตัวเองเดินมาถูกทางแล้ว การกระทำทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเลื่อมใสศรัทธา ก็เลยอยากจะศึกษาพระธรรมต่อไป”

นอกจากนี้ พระเจสัน ยังให้แง่คิดเกี่ยวกับการตั้งจิต ฝึกสมาธิ เริ่มตั้งแต่การกำหนดจิตของตัวเอง เมื่อตั้งจิตแล้ว สมาธิ และ ปัญญา ก็จะตามมา

สามารถชมการเปิดใจเต็มๆ ของ พระเจสัน ในรายการ “พฤหัสอัศจรรย์” ออกอากาศ ในคืนวันที่ 26 ก.ค.นี้ เวลา 22.30 น.ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

รวมพล “ดารา” ใส่กางเกงฟิตปิ๊ด โชว์ของดี

เป็นเรื่องเลยทีเดียวหลังจาก “แซมมี่ ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์” กับ “หยก ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์” ใส่กางเกงรัดติ้ว “ดิสโก้ แพ้นท์” เข้าไปไหว้พระทำบุญในวัดจังหวัดหนองคาย ขณะถ่ายทำรายการ “ที่นี่หมอชิต” ซึ่งออกอากาศไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วบ้านทั่วเมืองถึงความเหมาะสม เพราะถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ได้เปลือยอกเหมือน “ปอนด์ ไทยแลนด์ก็อตทาเล้นท์” แต่การใส่กางเกงฟิตรัดรูปก็อวดสรีระจุดโค้งเว้าสุดๆ แถมใส่ที่ไหนไม่ใส่ดันไปใส่โชว์พระที่วัด Oh ! my god



วันนี้บันเทิงผู้จัดการออนไลน์เลยจะพาทุกคนไปรู้จักกางเกงฟิตปิ๊ดตัวนี้กัน

"ดิสโก้ แพ้นท์" เป็นกางเกงรัดติ้วที่ผลิตโดย American Apparel บริษัทที่ผลิตเสื้อผ้ายักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ แฟชั่นสไตล์นี้เกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับดนตรีแนว ดิสโก้ เมื่อปลาย ๆ 70s และต้น ๆ 80s ยุคที่ ดนตรี, แฟชั่น และเซ็กส์ กลายเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก

ดิสโก้ แพ้นท์ ปรากฏอยู่ในภาพทรงจำแห่งยุคสมัยหลาย ๆ ภาพ รวมถึงในหนังสุดคลาสสิกแห่งยุคอย่าง Grease ที่ตัวละครนางเอกซึ่งสวมบทบาทโดย "โอลิเวีย นิวตัน จอห์น" ปรากฏโฉมในฉากหนึ่งของเรื่อง ด้วยการเกงฟิตเปรี๊ยะแบบดิสโก้จนสาว ๆ ใส่กันทั้งบ้านทั้งเมือง

ในยุคนี้ที่ ดิสโก้ แพ้นท์ กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง โดยเริ่มได้รับความนิยมใหนหมู่คนดังต่างประเทศ ที่อังกฤษ "มิเชล คีแกน", "เจสซิก้า ไรท์" และ "เจนนิเฟอร์ เม็ตคัลเฟ" ก็พาเหรดใส่การเกงฟิต ๆ ออกงานเดินพรมแดงในช่วงไล่เลี่ยกันเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนที่อเมริกา "เชอเน กริมส์" และ "มาลิน เอเคอร์แมน" แห่งหนังซูเปอร์ฮีโร Watchmen ก็เลือกปรากฏโฉมกับกางเกงฟิตเปรี๊ยะ ส่วนเจ้าหญิงเพลงป๊อป "บริทนีย์ สเปียร์ส" ขอขึ้นเวทีด้วยการเกงดิสโก้ แพ้นท์ โชว์สัดส่วนมโหฬารมาแล้วเช่นกัน

“คริส หอวัง” นำทีมโชว์ของดี
มาถึงพี่ไทยแลนด์ของเรา ดาราสาวคนแรกๆ ที่ใส่โชว์หุ่นอะร้าอร่ามก็คือ “คริส หอวัง” ศิริน หอวัง นางคือผู้นำเทรนด์โชว์ของดีคนแรกๆ ของวงการ โดยเริ่มใส่โชว์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นในเมืองไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เล่นเอาผู้สื่อข่าวและช่างภาพตกใจว่าทำไมคริสถึงใส่กางเกงฟิตปิ๊ดขนาดนั้น แถมยังใส่เสื้อเอวลอยเองต่างหาก !

“ก้อย รัชวินทร์ วงศ์วิริยะ” ฟิตจนปลิ้น
หลังจากใส่กางเกงขาสั้นรัดรูปเซอร์ไพร์สวันเกิด “ตูน บอดี้สแลม” อาทิวราห์ คงมาลัย จนโดนจวกไปแล้ว ล่าสุดก้อยก็สร้างความฮือฮาโดยการใส่ดิสโก้ แพ้นท์ ที่ฟิตสุดๆ ก็ไม่รู้ว่ากางเกงไซส์มันเล็กไปหรือว่าสาวก้อยเจ้าเนื้อไปหน่อยมันถึงได้ออกมาซะปลิ้นขนาดนั้น

“แนนนี่ ภัทรนันท์ ดีรัศมี” เลิกนุ่งสั้นมาใส่ฟิต
นักร้องสุดเซ็กซี่แห่งวงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ปกติจะเห็นแต่ใส่กระโปงสั้นจุ๊ดออกงาน แต่หลังๆ ดูเหมือนเจ้าตัวแต่งตัวเรียบร้อยมากขึ้น ด้วยการใส่ดิสโก้ แพ้นท์ ที่ไม่เผยให้เห็นเบื้องล่างสร้างความหวือหวาแต่อย่างใด แต่มันก็คงจะทำให้หนุ่มๆ ใจแทบขาด เพราะถึงไม่เห็นอะไรโผล่มาเหมือนกระโปง แต่กางเกงตัวนี้มันก็ทำให้จินตนาการไปไกล !

“อั้ม พัชราภา” กับ “แพนเค้ก เขมนิจ” ก็ไม่พลาดโชว์หุ่น
กระแสมาแรงซะขนาดนี้มีหรือนางเอกซูเปอร์สตาร์ตัวแม่ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” จะยอมตกเทรนด์ไม่พลาดที่จะส่วมใส่กางเกงดิสโก้ แพ้นท์ อวดเชฟงามๆ เช่นเดียวกัน แม้แต่นางเอกภาพเรียบร้อย “แพนเค้ก เข็มนิจ จามิกรณ์” ก็ยังอดไม่ได้ที่ใส่เรียกเรตติ้งกับเขามั่ง

ช่างกล้า...“โอเด็ต” ใส่ “ดิสโก้ แพ้นท์” บางจ๋อย
ขนาดดารายังออกอาการคลั่งใส่กันทั่ว เหล่านางแบบที่หุ่นเป๊ะอยู่แล้วอย่าง “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” มีหรือจะพลาด แต่ที่เด็ดสุดเห็นตกยกให้ “โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน” อดีตนางแบบที่หายหน้าหายตาไปงาน แต่ปรากฏตัวที่ไรก็เป็นเรื่องทุกที

ล่าสุดไปโผล่ในงานเปิดอัลบั้มเพลงลูกทุ่งของ “เปิ้ล ไอริน ศรีแกล้ว” มองข้างบนก็เป็นเสื้อยืดสวมแจ็คเก็ตทับธรรมดา แต่พอมองข้างล่างแล้วหัวใจจะวาย เพราะกางเกงที่หล่อนใส่นั้น ขอบอกว่าไม่ธรรมดาทั้งรัดทั้งบางโชว์กางเกงในจีสตริงตัวจิ๋วให้เห็นกันแบบเต็มๆ

อย่างไรก็ตามถึงดิสโก้ แพ้นท์จะมีคุณสมบัติที่ฟิตมหาศาล แต่ถ้าใส่กับเสื้อที่ยาวซักหน่อยสองสาว “แซมมี่” กับ “หยก” ก็คงจะไม่โดนด่าหูชาในอินเตอร์เน็ต แต่ส่วนใหญ่แล้วทุกคนที่ใส่ดิสโก้ แพ้นท์ มักจะใส่เสื้อตัวสั้นเผยให้เห็นรูปร่างจะๆ จนกลายเป็นเทรนด์ “โชว์ของดี” ที่นิยมกันทั่วบ้านทั่วเมือง

แต่จะว่าไปแล้วไม่ใช่เฉพาะดาราเท่านั้นที่นิยมใส่กางเกงรัดรูปฟิตทุกสัดส่วนแบบนี้ ตอนนี้เด็กวัยรุ่นก็แต่งตัวแรงแบบนี้เช่นกัน ไม่บอกก็รู้ว่าว่าดูและลอกเลียนแบบมาจากใคร ถึงแม้เหล่าคนดังบางคนจะไม่ใช่แฟนต้ายุวทูต หรือไม่คิดจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม แต่อย่างน้อยก็ควรจะมีความรับผิดชอบในการแสดงออกบ้าง เพราะคุณคือบุคคลสาธารณะ

การใส่กางเกงดิสโก้ แพ้นท์ อาจจะไม่ได้ฆ่าใครตราย ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในสายตาของใครบางคนเพราะมันคือแฟชั่น แต่ก็ควรใส่ให้มันถูกกาลเทศะ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ควรนุ่งเข้าวัดไปหาพระหาเจ้าอย่างที่แซมมี่กับหยกทำ และที่สำคัญไม่ควรใส่ในที่เปลี่ยว เพราะถึงจะไม่ได้นุ่งสั้นแต่มันก็ยั่ว(น้ำลาย) ไม่แพ้กันเลยทีเดียว.....




ชมภาพเต็มๆได้อีกมากมายที่ http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000089559

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“ตุ๊กกี้” เผย “บูบู้” อยากมีลูกเป็นฝรั่ง ลงทุนขอลูกเพื่อนมาเลี้ยง

“ตุ๊กกี้” เผยยังไม่คิดแต่ง “บูบู้” บอกตอนนี้งานเยอะจึงอยากทำงานก่อน ไว้งานลดค่อยว่ากัน เจ้าตัวแย้มบูบู้อยากมีลูกเป็นฝรั่ง ถึงขั้นลงทุนไปขอลูกเพื่อนชาวสวีเดนมาเลี้ยง

คู่รักของตลกสาวสุดฮา “ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ บุตรพรหม” กับแฟนหนุ่ม “บูบู้ กำธร โพธิ์น้ำคำ” หลายคนเห็นความน่ารักของคู่นี้ อีกทั้งคบหากันมานานหลายปี เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า เมื่อไหร่ทั้งคู่จะมีข่าวดีสักที กับเรื่องนี้ทั้ง ตุ๊กกี้ เผยว่า ตอนนี้งานเยอะ อยากทำงานก่อน อนาคตถ้างานน้อยลงค่อยว่ากัน

“จริงๆ แล้วด้วยความที่เราทำงานหนักมาก และทำงานทุกวัน ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงทำงาน จึงอยากใช้เวลาทำงานตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน เพราะว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ถ้าเกิดวันหนึ่งงานน้อยลง ก็ค่อยมาคิดเรื่องนี้ เรื่องลูกไม่ได้คิดเลยเพราะว่าเลี้ยงหลานอยู่แล้วสองคน จึงรู้สึกว่าการเลี้ยงเด็กมันเหนื่อยมาก เพราะว่าถ้าเกิดลูกเป็นผู้หญิง กลัวว่าโตขึ้นเขาจะใจแตกมั้ย หากเป็นลูกผู้ชายก็กลัวว่าจะไปทำคนอื่นท้อง จึงรู้สึกว่าเรื่องของการพะวงในครอบครัวมันเยอะ อยู่กันแบบนี้สองคนดูแลกันไปดีกว่า”

“ส่วนบูบู้เองเขาอยากได้ลูกเป็นฝรั่ง เวลาเห็นเด็กฝรั่ง เขาจะพูดทุกครั้งว่าอยากเลี้ยง เขาไปติดต่อขอลูกเพื่อนมาเลี้ยงเป็นชาวสวีเดน ซึ่งเพื่อนเขาก็ไม่หวงลูกเลย ลูกคนที่สองเขาจะยกให้บูบู้ ซึ่งบูบู้เขาเก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้ว เขาจะรับลูกเพื่อนมาเลี้ยงหาประสบการณ์ที่ไทย แล้วค่อยกลับไปบ้านเขา และเขาอยากรับอุปการะเด็ก ที่โดนพ่อแม่ทิ้งเป็นลูกบุญธรรมด้วย”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“แตงโม” ฉุน ยามปล่อยข่าว “อ้วน รังสิต” คอยรับ-ส่ง ขู่ย้ายยาม!

“แตงโม” เซ็ง ยามหน้าหมู่บ้านให้ข่าว “อ้วน รังสิต” คอยรับ-ส่ง ยันไม่ได้ค้างคืนด้วยกัน บอกเจอแบบนี้อาจมีการย้ายยามกันบ้าง แต่รับฝ่ายชายมาส่งจริงและเป็นคนที่สนิทที่สุด โอกาสพัฒนาเป็นเรื่องอนาคต

อยู่ดีๆ นางเอกสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์” ก็งานเข้า เพราะเจอหนอนบ่อนไส้เป็นยามหน้าหมู่บ้าน ที่เอาข่าวการไปรับไปส่งของพระเอกหนุ่ม “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” เที่ยวไปประกาศให้ทั่วจนรู้ถึงหูนักข่าว งานนี้ร้อนถึงสาวแต่งโมออกอาการปรี๊ดยามไม่น้อย บอกงานนี้อาจมีการย้ายยามกันบ้าง

“ก็มีบ้าง บางทีเราก็ไปแฮงค์เอาท์กันกับเพื่อน แล้วถ้าวันนั้นเราไม่ได้ไม่เอารถไป ก็บอกเพื่อนๆ ว่าให้ใครก็ได้มาส่งโมที โดยส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่พี่อ้วนหรอกค่ะ พี่เขาจะมาส่งนานๆ ที เพราะบ้านค่อนข้างไกล แต่ว่าอาจจะเป็นความตื่นเต้นของคุณยามหน้าหมู่บ้านก็เลยเป็นข่าว”

“ก็ยอมรับว่ามีการไปส่งกันจริงๆ ค่ะ (กลัวคนจะมองว่าไปหาที่บ้านไหม?) ก็เข้าใจว่ามันคิดไปทางนั้นได้ ก็อธิบายให้เข้าใจว่าไปส่งธรรมดา ไม่มีอะไร บางคนก็บอกว่าไปค้างคืนแล้วก็ไปกันใหญ่ แค่ไปส่ง แล้วพี่อ้วนก็กลับบ้านเท่านั้นเอง”

“ข่าวซิ่งรถในหมู่บ้าน อันนี้คุณยามได้ตักเตือนมาว่า พี่แตงโมครับ เวลาเจอลูกระนาดให้เบรกนิดนึง พี่เป็นคันเดียวเลยนะครับที่ไม่เบรก เดี๋ยวรถมันจะพังครับ พี่อ้วนไม่ได้ขับรถสไตล์เดียวกันกับโมเลย พี่อ้วนขับรถช้ามาก แต่เป็นตัวโมเองที่ขับเร็ว แต่เราก็ไม่ได้ไปไหนด้วยกันบ่อย อาจจะเป็นประเด็นหนุ่มสาวเลยมีข่าว อย่างโมไปกับพิ้งกี้บ่อยกว่าอีก ก็ไม่เป็นข่าวเพราะผู้หญิงกับผู้หญิงไง แต่โมคงไม่ย้ายบ้านค่ะ ย้ายไม่ไหวค่ะ แต่อาจจะมีการย้ายพี่ยามกันบ้าง”

ไม่ซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้นเฉยๆ มากกว่า และมีการพูดคุยกับอีกฝ่ายแล้ว ส่วนเรื่องโอกาสพัฒนาเป็นเรื่องของอนาคต

“โมเฉยๆ ในอนาคตก็ต้องมีเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็อาจจะต้องมีอีก ที่พี่อ้วนไปส่งโมที่บ้านค่ะ บางทีเรารู้ตัวว่าออกไปแล้วอาจจะมีดื่มบ้าง โมจะไม่ค่อยขับรถค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหน้าที่ของเพื่อนผู้หญิง นานๆ ทีจะเป็นเพื่อนผู้ชายที่มาส่ง เราก็ไม่ได้คอนเฟิร์มว่า ต่อไปนี้มันจะไม่มีอีก ในชีวิตจริงเราก็ต้องยอมรับว่ามันอาจจะมีอีก”

“ก็เพิ่งคุยเมื่อวานนี้ค่ะ ว่าเห็นข่าวหรือยัง โมจะซีเรียสกับความไม่เป็นส่วนตัวของหมู่บ้านซะมากกว่า ที่จะซีเรียสเรื่องใครไปรับส่ง การที่เราซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านที่เราคิดว่าน่าจะมีความเป็นส่วนตัว แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มันบ่อยแล้ว อย่างคอลัมน์ที่ลง มันก็ไม่ได้ลงเป็นครั้งแรก บางทีก็มีความรู้สึกว่า คนในหมู่บ้านก็น่าจะเป็นคนที่ไว้ใจได้ ไม่ใช่เอาข่าวไปปล่อย”

“เรื่องของโอกาสในการพัฒนา ตรงนี้คือถ้าในอนาคตนั้น พี่อ้วนเขาตั้งใจและดีจริงๆ เราก็ปฏิเสธความดีเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้เราไม่ได้ตั้งใจที่จะคบหากันในลักษณะชู้สาว เรายังพอใจที่จะอยู่เป็นเพื่อนกัน จากที่ดู โมรู้ว่าถ้าพัฒนาแล้วมันไม่เวิร์คค่ะ เพราะโมเองก็ยังต้องมีหลายอย่างต้องดูแลค่ะ (เขาคิดกับเราเกินเพื่อนหรือเปล่า บ้านไกลยังไปส่ง?) ใครที่รู้จักพี่อ้วนก็จะรู้ว่าเขาปฏิเสธคนไม่เป็น ทำร้ายน้ำใจคนไม่เป็น ฉะนั้นเขาก็จะถูกบังคับให้ทำอะไรแบบนี้ค่อนข้างบ่อย ตอนนี้สนิทกับพี่อ้วนค่ะ”

ส่วนกรณีที่ออกชี้แจงเรื่อง “กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ในอินสตาแกรม เพราะก่อนหน้านี้มีการลงข่าวคลาดเคลื่อนนั้น โมอธิบายว่า…

“สำหรับเรื่องพี่กึ้งที่หนังสือพิมพ์บางฉบับลงไปนั้น หรือโมอาจจะตอบคำถามเร็ว และสลับประโยคคำถาม เรียบเรียงแล้วสับสนนิดนึง คือโมให้สัมภาษณ์ถึงคนอื่นที่ไม่ใช่พี่กึ้งว่าโมสนิท ทานข้าว เล่นกีฬาตีแบดฯ แต่ข่าวดันไปลงว่าโมให้สัมภาษณ์ถึงพี่กึ้ง จริงๆ โมไม่เคยทำกิจกรรมเหล่านี้กับพี่กึ้งเลยนะคะ ในข่าวคือโมเจตนาจะพูดให้เคลียร์ แต่กลายเป็นว่าเจตนาประกาศความสนิท ซึ่งจริงๆ แล้วโมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้น ก็อยากให้หาคลิปมาฟังเพื่อเปรียบเทียบกันด้วยค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

“ต้าร์” รับทะเลาะ “พลอย” เป็นสีสันชีวิต บอกเป็นคนยอมก่อนทุกที

“ต้าร์” รับทะเลาะ “พลอย” ตามประสาแฟน มองเป็นสีสันเพื่อให้ความรักไปต่อได้ บอกตนเป็นคนยอมก่อนทุกที เผยขี้หึงทั้งคู่แต่พลอยหนักกว่า เจ้าตัวลั่นไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามีความรักเป็นพื้นฐาน ก็จะผ่านพ้นไปได้ พร้อมแจงแหวนนิ้วนางข้างซ้ายใส่ติดตัว เพื่อเป็นเครื่องแสดงความรักที่มีให้กัน

รักกันมา 2 ปีกว่า แต่ความหวานของคู่รัก “ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล” กับสาว “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ก็ยังคงเส้นคงวา แม้ทั้งคู่จะยอมรับว่าทะเลาะกันบ้างตามประสาคู่รัก แต่ก็สามารถผ่านพ้นมาได้ ล่าสุด สังเหตุเห็นหนุ่มต้าร์ใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย สอบถามไปเจ้าตัวก็บอกอย่างอารมณ์ดีว่า เป็นแหวนที่แลกกับแฟนสาวพลอย เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงความรักที่มีให้กัน ว้าวๆ

“ก็เป็นแหวนที่แลกกันสองคน ก็จะใส่ติดตัวอยู่ตลอด เหมือนเป็นสัญญาของเรา เป็นเครื่องแสดงความรักที่เรามีให้กัน ต้าร์ก็จะใส่ติดตัวตลอด พยายามไม่ถอด แต่บางทีก็ลืมบ้าง (ยิ้ม) แหวนนี้ไม่ได้ให้ในโอกาสอะไร เพราะคิดว่าโอกาสพิเศษมันมีอยู่ทุกวัน ก็ให้เฉยๆ”

“ผมให้พลอย แล้วพลอยก็ให้ผมครับ หลังจากวันเกิดพลอยปีที่แล้ว ตอนนี้วันเกิดเขาปีนี้ก็จะมาแล้ว ยังนึกอยู่เลย ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี (แบบนี้เมื่อไหร่จะเปลี่ยนเป็นแหวนเพชร?) ก็แล้วแต่โอกาส การเปลี่ยนเป็นแหวนอย่างอื่น เรายังไม่ได้คิดถึงเวลา แต่ตัวต้าร์ก็มีความตั้งใจอยู่แล้ว ก็คงต้องรอให้เวลามันเหมาะอีกทีนึง”

“แหวนวงนี้คงไม่ได่ถึงขนาดตีตราจองขนาดนั้น ตัวเราคงไปตีตราจองใครไม่ได้ การที่เราทำตัวเองให้เป็นของคนๆ นึง มันก็ทำได้อยู่แล้ว มันคงเหมือนเป็นคำสัญญาว่าเราจะเป็นคนของเขา แล้วเขาก็สัญญาว่าจะรักเรา ทำนองนี้มากกว่า ทั้งสองคนไม่ค่อยคาดหวังอะไรจากอีกคน ก็เป็นตัวของตัวเอง ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง มีสิ่งที่ดีๆ ก็เอาให้กัน”

“สำหรับต้าร์ยังไม่พร้อมสร้างชีวิตครอบครัว ต้องรอให้มันเป็นข้อตกลงที่เหมาะสมของทั้งสองคนและก็ผู้ใหญ่ด้วย คือในขณะนี้ทั้งผม และโดยเฉพาะพลอยทำงานหนักมาก ผมยังไม่หนักเท่าเขา แต่พลอยทำงานทุกวันเลย ในลักษณะแบบนี้มันไม่มีทางที่เราจะมานั่งจัดงานที่ดีๆ ให้กับเพื่อน ให้กับผู้ใหญ่”

“ก็คิดว่าถ้าจะมีงานแต่งจริงๆ ก็ไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเองครับ ก็อยากทำให้ทุกคนมาแสดงความยินดีกับเรา แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มองถึงขั้นนั้น แต่ในเรื่องความจริงใจ ความรัก ความจริงไม่ต้องพูดกันแล้ว มันเข้าใจกันทั้งคู่ จริงๆ ก็ทราบมาบ้างว่าตัวเขาไม่คาดหวังเรื่องแต่งงาน เขาไม่เชื่อ ผมก็อยู่ตรงนี้ให้เขาเชื่อทุกอย่างที่มันแสดงให้เห็นความรักของเรา เราก็ทำให้ดีที่สุด”

ยอมรับทะเลาะกันบ้างเป็นปกติ แต่มันก็เป็นสีสันชีวิต

“ทะเลาะกันมันก็มีบ้างตามปกติ งอนบ้าง หึงบ้างตามประสา จริงๆ แล้ว มันก็เป็นรสชาติทำให้ความสัมพันธ์มันไปต่อ บางทีเราไม่แน่ใจว่าเขาแคร์เรามั้ย เหตุการณ์ถ้ามันยังกดดันไม่พอ บางทีก็ไม่ได้พูดความรู้สึกออกมา มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดี เป็นเวลาที่ไม่ว่าจะดีจะร้าย ถ้ายังมีความรักอยู่ มันก็ยังไปด้วยกันได้ แต่ผมไม่ได้พูดกดดันให้เขาหึงนะ มันไม่ใช่เกมที่เล่นกันครับ”

“สิ่งที่พูดก็คือมันเหมือนถ้าเราไม่ไปอยู่ตรงนั้น คำพูดแบบนั้นที่ทำให้เขาเห็นว่าเรารักเขาแค่ไหน มันก็จะไม่ออกมา แต่ต่อให้มันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันอยู่ด้วยความรักเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าจะทำอะไร มันก็เป็นเรื่องที่ดี ผมเชื่อแบบนั้นครับ ความรักก็มีหลายแบบ ทั้งช่วยเหลือกัน หรือหึงหวงทำลาย เราก็โตพอ ที่จะมีเครื่องมือที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ มันเหมือนโตทั้งคู่ครับ (แล้วเวลาทะเลาะกันใครยอมใคร?) จะเหลือเหรอ ผมก็ยอมก่อนทุกทีครับ (หัวเราะ) ผมยอมทุกอย่าง”

“เรื่องขี้หึงก็คงทั้งคู่แหละครับ ส่วนใหญ่จะเป็นพลอยมากกว่า (ยิ้ม) แต่ไม่ใช่เรื่องเล่นละครแล้วมีสาวๆ มารุมหรอกนะ เพราะเรื่องพวกนี้เป็นการทำงาน งานเยอะแต่เราก็ใช้เวลาอย่างมีคุณภาพที่สุด ถึงจะน้อยแต่ก็บ่อย มันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ต้องใส่ใจในรายละเอียด เราทำตามความรู้สึก ไม่ต้องพยายามอะไรเลย”

“จริงๆ เราไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ เรียกว่าคบกันก็ต้องทะเลาะกันบ้าง อย่างงอนกันนานที่สุดก็แค่ 2 ชั่วโมง มันเป็นเรื่องเล็กๆ ต้าร์ใจเย็นกว่าเขาเยอะมาก ก็เป็นหน้าที่อยู่แล้วที่ต้องเป็นผู้ใหญ่ มองทุกอย่างอย่างเข้าใจ ว่าตอนนี้เราควรเข้าไปหรือออกมาดี เราก็ใช้เหตุผลครับ”

พร้อมเผยปลายเดือนนี้เตรียมหวนจับไมค์ขึ้นคอนเสิร์ต

“จะมีคอนเสิร์ตกรีนเวฟ ซูเปอร์สตาร์ ปาร์ตี้ กำลังจะขึ้นกับพี่ ๆ หลายคนเลย ก็เอาเพลงเก่าของเรามาร้อง คอนเสิร์ตจะเป็นสไตล์ Easy listening ครับ รับรองว่ามีอะไรพิเศษแน่นอนครับ ยังไงถ้ายังจำ นาวิน ต้าร์ ได้อยู่ ก็ขอให้แสดงอายุกันนิดนึง (ยิ้ม) ก็จะแสดงวันที่ 29 กรกฎาฯ ที่โรงละครอักษรา คิงพาวเวอร์ครับ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ปัดแลกแฟนกัน! “อั้ม” โต้ “โน้ต” จีบแฟนเก่า “แอมป์” ยันคนละคนกัน

โต้แลกแฟนกัน! “อั้ม” ป้อง “โน้ต” เปล่าจีบแฟนเก่า “แอมป์” ยันคนที่โน้ตควงเป็นคนละคนกัน พร้อมชมแอมป์น่ารักดี หลังส่งดอกไม้พร้อมข้อความหวาน “รักเสมอ” ให้กลางงานอีเวนท์ เผยแอบบ่นฝ่ายชายเพราะส่งมาในวันที่มีนักข่าว ทำให้เป็นข่าว ฟุ้งตอนนี้ความรักแฮปปี้มากๆ

เป็นคนชอบทำบุญและชอบดูดวงอยู่แล้ว ล่าสุดพอมีคนแนะนำให้ว่านักแสดงหนุ่ม “แมน การิน” ดูดวงจากเบอร์โทรศัพท์แม่นมากๆ งานนี้นางเอก “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ก็เลยไม่พลาดขอลองบ้าง แถมงานนี้ไม่ได้ไปคนเดียว ควงหนุ่มคนสนิท “แอมป์ พิธาน องค์โฆษิต” ไปดูด้วยกัน ซึ่งอั้มออกตัวว่าเรื่องแบบนี้เชื่อไว้ก็ไม่เสียหาย

“ให้แมนดูเบอร์โทรศัพท์ค่ะ คือพี่ที่ทำผมให้อั้มประจำ เขาไปเปลี่ยนเบอร์มา ก็อยากรู้บ้าง เลยโทร.ไปหาแมน ก็เลยดูให้ คุณแมนก็บอกว่าเขาไม่ใช่หมอดูนะ แต่เป็นการดูตัวเลข เอาหลายเบอร์ของอั้มไปให้เขาดู เขาก็บอกว่าดีทุกเบอร์ แต่ถ้ามันรวมกันได้มันจะดี ก็เลยต้องเอาเบอร์ใหม่ ซึ่งมันจะไม่ค่อยสวยค่ะ”

“ตอนนี้ก็ใช้เบอร์ใหม่แล้ว แต่ไม่ใช่เบอร์สวย แต่ความหมายมันตรงกันทุกเลข แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนนะ เขาก็ถามว่าเลิกใช้เบอร์เก่าๆ ได้มั้ย ซึ่งมันเลิกไม่ได้ มันเป็นงานด้วย เบอร์สวยด้วย ก็อยากเก็บไว้ ไม่ได้ดูว่าแม่นมั้ยอย่างนั้น แมนไม่ใช่หมอดู เขาก็บอกว่าของอั้มดี มีพระคุ้มครองนะ แต่ไม่ได้ดูหมายถึงดวงเรา มันไม่ใช่นะ เป็นพวกตัวเลข คนใช้เลขนี้เป็นยังไง พระคุ้มครองนะ แต่มันหลายเบอร์แล้วแยกกันออกไป คืออยากให้รวมเป็นเบอร์เดียวเลยค่ะ มันแยกกันเยอะ ตอนนี้มี 4-5 เบอร์แล้ว ถือโทรศัพท์เยอะเลย”

รับควงหนุ่ม “แอมป์” ไปดูด้วยกัน

“ไปค่ะ เขาก็ดูค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์ค่ะ อั้มก็เชื่อไว้ไม่ได้เสียหาย ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน แมนก็ใจดีพาไปเปลี่ยนให้ แต่อย่างอื่นไม่มีต้องเปลี่ยนแล้ว ทุกอย่างรวมอยู่ในเบอร์เดียวกัน แต่ไม่ใช่เบอร์สวยนะคะ อยากได้ทุกอย่างในเบอร์เดียวกันเลขมันก็จะแตกกันมากเลยค่ะ”

ส่วนที่ก่อนหน้านี้หนุ่ม “แอมป์” ส่งช่อดอกไม้ไปให้ถึงงาน พร้อมข้อความ “รักเสมอ” สาว “อั้ม” บอกก็น่ารักดี

“ก็ดีค่ะ เห็นแล้วก็ดีค่ะ น่ารักดีค่ะ ชื่นใจมากค่ะ อั้มเป็นคนได้รับดอกไม้บ่อยอยู่แล้ว ให้บ่อยค่ะ เกือบทุกงานค่ะ เป็นร้านที่เราชอบด้วย ไม่ได้ใจแข็งอะไรเลยค่ะ ก็คุยค่ะ อันนี้หมายถึงใครคะ ถ้าแอมป์ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นแอมป์นะคะ ก็ให้ดูๆ ไปค่ะ (ตกลงใช่ของแอมป์มั้ย?) ไม่บอกค่ะ ไม่ได้อยากให้เป็นข่าวหรือกระแสอะไรเลยนะคะ แต่แค่อยากให้เป็นเรื่องเงียบๆ บ้าง มีคนคุยแล้วนะ ตอนนี้แฮปปี้มากๆ”

“ก็บ่นเหมือนกันนะคะ ว่าส่งดอกไม้มาวันที่มีนักข่าวแล้วจะเป็นข่าว เพราะปกติเขาส่งมาไม่ได้เป็นข่าว แต่ได้ตลอด วันนั้นพี่ยุ้ยถือมา แต่ปกติจะไม่ใช่พี่ยุ้ยถือ เป็นร้านดอกไม้มารอค่ะ”

โต้แทนแฟนเก่า “โน้ต วิเศษ” กรณีมีข่าวกำลังคบกับผู้หญิงที่เป็นแฟนเก่า “แอมป์” จนถูกเม้าท์รักสลับขั้ว

“ไม่น่าใช่นะคะ น่าจะเป็นคนไหนก็ไม่รู้ อั้มเห็นปาปารัสซี่ออกไม่ใช่คนนี้ค่ะ เพราะอั้มไม่ทราบส่วนตัวเลยค่ะ ไม่ค่อยได้คุยกันแล้วค่ะ เขาก็ไม่ได้ปรึกษาเลยค่ะ ตอนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แต่ของตัวเองอย่างเดียวค่ะ ไม่กล้าบอกว่าเขาโสด เดี๋ยวมีคนไม่พอใจรึเปล่า เลยไม่กล้า เอาเป็นว่าไอซ์(อภิษฎา)บอกแทนละกัน ไม่รู้จริงๆ เลย ก็อ่านปาปารัสซี่ทั่วไป เห็นเป็นผู้หญิงคนนึง ซึ่งไม่น่าใช่แฟนเก่าแอมป์”

"แอมป์ พิธาน" ว่ากันว่าเป็นหนุ่มคนสนิทที่มาวินหัวใจ "อั้ม" ที่สุดในตอนนี้


"โน้ต วิเศษ" แฟนเก่า "อั้ม"

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” ปัดเป็นมือที่ 3 “ฟลุค-เปิ้ล” โวยพาดหัวข่าวแรงให้นึกถึงใจคนเป็นข่าวบ้าง

“พิ้งกี้” ปัดเป็นมือที่3 “ฟลุค-เปิ้ล” บอกเข้าใจเปิ้ลยังไม่มีประสบการณ์ในการให้สัมภาษณ์นักข่าว บวกกับยังไม่รู้จักตน ก็เลยทำให้เข้าใจผิด แต่พอได้เคลียร์กันก็เป็นเพื่อนกันแล้ว โวยพาดหัวข่าวแรงให้นึกถึงจิตใจคนเป็นข่าวบ้าง

หลังจากที่นางเอกสาวตาคม “พิ้งกิ้ สาวิกา ไชยเดช” โดนมรสุมข่าวมือที่สามอย่างหนัก พอหลังจากกระแสข่าวเงียบลง เจ้าตัวก็มีงานหน้าจอให้เห็นกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่วายที่จะมีข่าวเป็นมือที่ 3 เข้ามาอีก ซึ่งเป็นคู่ของนักร้องหนุ่ม “ฟลุค จิระ ด่านบวรเกียรติ” หรือ “ฟลุค ซีควินท์” กับสาว “แอปเปิ้ล สีสะเหงียน สีหารา” ถึงขนาดทั้งคู่ทะเลาะกัน พอมีโอกาสได้เจอสาว “พิ้งกี้” ก็แจงว่า…

“ถ้าทะเลาะกันเลยคงไม่ใช่ค่ะ เพราะว่าพิ้งกี้ ไม่ได้สนิทกันค่ะ ต้องเข้าใจ บางทีไปถามน้องเขา น้องเขายังไม่มีประสบการณ์ในการตอบเท่าไหร่ ตอนแรกอาจจะยังไม่รู้จักกี้นะคะ ก็อาจจะคิดได้ไปต่างๆ นานา แต่ว่าพอมารู้จักกี้แล้วเราก็เป็นเพื่อนกัน เพราะว่าพี่ฟลุคเนี่ย เราก็เป็นเพื่อนกัน เล่นละครมากันตั้งสองเรื่อง ทั้งเรื่องทองประกายแสดและราชินีลูกทุ่ง เพราะฉะนั้นในความเป็นเพื่อนร่วมงาน มันก็มีอยู่สูง แต่ว่ากี้ก็ทำงานมานาน กี้ก็สามารถแยกแยะได้ ว่าอันไหนเรื่องงาน อันไหนเรื่องอะไร และเราก็ให้ความเป็นเพื่อนได้หมดในกองถ่าย”

“ข่าวแบบนี้ก็คงจะเป็นข่าวที่ผ่านมาผ่านไป ข่าวนี้เป็นข่าวงงนะคะ ถ้าเกิดจะบอกว่าทำขึ้นเพื่อเป็นข่าวพีอาร์ก็แล้วแต่คนจะคิดค่ะ แต่อาจจะเป็นได้ว่า ตอนนี้กี้โสด เลยอาจจะโดนจับคู่พี่ฟลุค กับเปิ้ลก็ยังเป็นเพื่อนเราต่อไปค่ะ ยังอยู่กลุ่มเดียวกัน ข่าวก็คือข่าวเพราะยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้กี้ซีเรียส แต่บางทีพาดหัวข่าวแรงเกินไป ก็อยากให้นึกถึงจิตใจของคนอื่นบ้าง เพราะเราก็เป็นนักแสดงเหมือนกัน”

บอกไม่ต้องเคลียร์เพราะมีการพูดคุยกันแล้ว

“คงไม่ต้องเคลียร์กับพี่ฟลุคค่ะ เพราะว่าเราคุยกันแล้ว แล้วจริงๆ แล้วในวันเกิดเรา ก็กินข้าวด้วยกันอยู่แล้ว ทุกคน เพราะว่าใครเป็นเพื่อนกี้ก็ไปกันหมด ไม่มีอะไรเครียดค่ะ เพราะว่าอยู่กองก็ไม่รู้ว่าเขามีทะเลาะหรือหึงหวงกันหรือเปล่า เพราะว่าเวลามากองแต่ละคนก็จะถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน เพราะว่าเราถ่ายรูปเล่นกันเป็นประจำอยู่แล้ว”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ดูกันชัดๆ “เบนซ์” หวานใจ “ธงธง” ยศร้อยเอก แถมเรียนเก่งอีกต่างหาก

เปิดตัวแล้ว คนรู้ใจหนุ่มในเครื่องแบบของ “ธงธง” ชื่อ “เบนซ์” ยศร้อยเอก เรียนเก่ง ด้าน ธงธง รับห่วงความรู้สึกเบนซ์ รวมถึงหน้าที่การงานของอีกฝ่ายด้วย แต่ยิ้มเผยทุกวันนี้มีความสุขมาก ขณะที่เบนซ์เปิดใจไม่กังวลที่มีข่าว เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด ชม ธงธง ดูแลดีมาก ยกเป็นความสำเร็จส่วนหนึ่งของชีวิต



เป็นที่ฮือฮาไม่น้อย หลังนักแสดงตลก “ธงธง มกจ๊ก” ออกมาเผยว่ากำลังมีความรักกับหนุ่มในเครื่องแบบ มา 6 เดือนแล้ว โดยเจ้าตัวได้นัดหมายสื่อมวลชนให้ไปร่วมยินดี และถ่ายภาพทำข่าวฝ่ายชายที่จะเข้ารับปริญญาที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเช้าที่ผ่านมา (19 ก.ค.) โดยในหมายเชิญจากพีอาร์ได้มีการระบุว่าจะเป็นการเปิดตัวแฟนของ ธงธง ซึ่งหนุ่มหน้ามนคนนั้น มีชื่อว่า “เบนซ์ ร้อยเอก ภวัต เดชจินดา” ดีกรีไม่ธรรมดาจบคณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ภาคปกติ ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.50

ทั้งนี้ ในตอนแรกทางฝ่ายของ ธงธง เองดูจะเป็นห่วงความรู้สึกของเบนซ์ รวมถึงครอบครัว และหน้าที่การงานของอีกฝ่ายไม่น้อย จึงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์คู่ แต่ให้ถ่ายภาพคู่ได้ แต่เมื่อสอบถามไปยังหนุ่มเบนซ์แม้จะมีอาการเขินๆ อยู่บ้าง แต่ก็ยินดีให้พูดคุย โดยบอกว่า ไม่มีอะไรต้องกังวลเพราะตนไม่ได้ทำอะไรที่ผิดแปลก เป็นการคบกันตามวัฒนธรรมประเพณี

“วันนี้มาแสดงความยินดีกับเพื่อนเป็นคนในครอบครัว เรามีแม่บุญธรรมคนเดียวกันตอบอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไร รู้จักกันมา 6 เดือน เขาชื่อคุณเบนซ์ เราไปปฏิบัติธรรมแล้วเจอคุณแม่เขา เราเป็นญาติธรรมกัน รู้สึกว่าคุยกันรู้เรื่องคุณแม่เลยชวนมาเป็นลูกบุญธรรม”

“เขาเป็นคนมีความเป็นผู้นำสูง รับผิดชอบได้ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดูแลครอบครัวเยอะ เพราะเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว แล้วก็เป็นลูกคนเดียวของที่บ้าน และเขาโอเค เอ็นเตอร์เทนทุกคนดีครับ”

รับที่ไม่อยากพูดมากเพราะกลัวฝ่ายชายมีผลกระทบกับหน่วยงานต้นสังกัด

“จริงๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับงาน เพราะเราก็ไม่ได้เป็นอะไร แต่กลัวว่าหน่วยงานเขาจะเข้าใจไปอย่างอื่นซะมากกว่า เราห่วงความรู้สึกทุกคน ทั้งเขาและครอบครัว การที่เขารับราชการ คือจริงๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรนะ มันก็สะดวกที่จะคุย เขาจะพูดเสมอว่า เขาไม่กลัวความจริง อะไรที่เป็นเรื่องที่เขาตอบได้ ทุกวันนี้แฮปปี้มาก ก็มีความสุขดี”

เมื่อสอบถามว่า ในหมายเชิญทำไมถึงกับบอกว่าจะเปิดตัวแฟน ? เจ้าตัวก็อธิบายว่า…

“ใครไปบอก มันอาจเป็นเพราะว่าผมไปออกรายการเจาะใจ แล้วคบหาดูใจกับคนนึงอยู่ คนก็เลยเอ๊ะใช่คนนี้ไหม ถามว่าแล้วใช่คนนี้ ไหมเอาเป็นว่า เราไม่พูดถึงคนในรายการเจาะใจ เราพูดถึงคนนี้แล้วกันนะ เวลาเรารักใคร เราต้องทุ่มให้เต็มที่ ก็การที่เราจะคบกับใคร เราต้องจริงใจกับเขาและครอบครัวเขา จริงใจกับครอบครัวเรามากกว่า”

“ผมไม่ได้อึดอัดในการตอบคำถาม ถ้าตอบได้ก็ตอบ แต่อะไรที่มันตอบแล้วไปกระทบกับความรู้สึกของผู้ฟัง หรือคนในครอบครัวก็ไม่น่าที่จะตอบ ไม่ใช่เกรงใจครอบครัวเขานะ เพราะเราก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน วันนี้เขาไม่รู้ว่านักข่าวมาด้วย (หัวเราะ) ก็เกริ่นๆ ว่า อาจจะมีพี่ๆ สื่อมวลชน แต่ข่าวว่าเปิดตัวแฟน คนเลยอยากจะรู้ ก็คุยได้ผมโอเค”

“เขาบอกว่ากับที่ทำงาน เขาไม่มีปัญหา มันไม่ใช่อย่างที่เป็นข่าว (เรียกว่าคนนี้คือคนสนิทและรู้ใจที่สุดแล้ว?) ถูกต้อง (เสียงสูง) อายุเราห่างกันไม่เยอะ การที่เราเป็นคนครอบครัวเดียวกัน วัยห่างกันไม่ใช่เรื่องปกติ ซึ่งเดี๋ยวแพลนคร่าวๆ เขาจะไปต่อเอกด้วย เราเจอกันบ่อย เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาคุณแม่ผมเขาเข้าโรงพยาบาล ตัวเขาก็มาดูแล ครอบครัวเขาก็มาดูแลให้ที่กรุงเทพฯ ดูแลเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ส่วนเพื่อนเราก็รู้ แต่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้จัก กิ๊ก มยุริญ นี่เคยเห็น”

“เขาไม่เคยบอกชอบเราตรงไหน (หัวเราะ) ทุกวันนี้การที่เราเจอกันเรียกว่าสบายใจทั้งครอบครัวดีกว่า เหมือนมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่ม ไม่ได้ตอบแบบดารานะ เราตอบอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง แต่พยายามตอบยังไงให้คนคิดไปในทางเดียวกัน แล้วไม่ทำให้เสื่อมเสียชื่อตัวเราตัวเขา ญาติพี่น้องเขาและเรา หน้าที่การงาน เราห่วงเด็กๆ ทางบ้านว่า เฮ้ย… เราตอบยังไง ห่วงกระแสด้านลบด้วยมากกว่า”

“ก็อยากบอกว่า วันนี้ไม่ได้มาเปิดตัว แต่มาแสดงความยินดีสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ เรามีแม่บุญธรรมคนเดียวกัน แม่เป็นพลตรีหญิง ยืนยันความสัมพันธ์ของเราไม่ใช่แฟน”

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หนุ่ม “เบนซ์” ยินดีที่จะเจอสื่อหรือไม่ ? ซึ่งเจ้าตัวไม่ติดขัด งานนี้จึงขอสัมภาษณ์คู่พร้อมกันเลย ซึ่งเบนซ์ก็บอกว่าที่ผ่านมาธงธงดูแลตนดีมาก ยกอีกฝ่ายเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งของชีวิต

เบนซ์ : “วันนี้ที่พี่เขามา ผมก็รู้สึกดีใจมาก ที่ผ่านมาพี่เขาก็ดูแลเรามาตลอด พี่ธงก็เป็นความสำเร็จส่วนนึงของผม ตอนนี้ขอทำงานก่อนครับแล้วค่อยต่อเอก”

ส่วนความน่ารัก “ธงธง” ที่ผ่านมา เจ้าตัวบอกว่าคอยดูแลตนและครอบครัวเป็นอย่างดี และครอบครัวก็ชอบอีกฝ่ายมาก

เบนซ์ : “ที่ผ่านมา พี่เขาก็ทำกับข้าวให้ที่บ้านประจำพาไปตรวจสุขภาพ รวมถึงสุขภาพของตัวผมเองด้วย ความสัมพันธ์ก็สนิทกันมากครับ มีความรักความห่วงใยให้กันและกัน พี่เขาเป็นกำลังใจเวลาที่ผมเหนื่อย ท้อแท้ แล้วก็ชวนผมเข้าวัดปฏิบัติธรรม ให้ผมมีสมาธิในการเรียน และเราเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน”

“คนที่บ้านผมชอบพี่ธงมาก พี่ธงเป็นคนที่ดูแลครอบครัวดี มีความรักความห่วงใยกันตลอด เป็นสมาชิกคนนึงในครอบครัวคนนึง ส่วนที่ทำงานผมก็ไม่ได้กังวลอะไรเลย เพราะสิ่งที่ทำอยู่ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกอะไร ก็คบกันตามวัฒนธรรมประเพณีครับ ข่าวที่ออกไปว่าพี่เขาเปิดตัวแฟน ก็ตกใจเหมือนกัน ไม่ทราบว่าเอามาจากไหนข่าวนี้”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไฮโซ “มิ้นท์” นุ่งชุดเป็นแสน ใส่ออกงาน ควง “พอร์ช” โต้ข่าวกิ๊กกัน

“พอร์ช” ควงไฮโซ “มิ้นท์” โต้ข่าวกิ๊กกัน ด้าน สาวมิ้นท์ ลงทุนตัดชุดเป็นแสนใส่ออกงาน ก่อนแจงรู้จักกันมานาน เลยทำให้สนิท แต่ตอนนี้เป็นแค่เพื่อน ส่วนจะพัฒนาเป็นคนพิเศษหรือเปล่า ขอดูกันไปเรื่อนๆ ก่อน

เป็นอีกหนึ่งคู่ที่โดนจับตามองเรื่องความสัมพันธ์ว่าเป็นอะไรกันแน่ สำหรับคู่ของพระเอกหนุ่ม “พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” กับสาวไฮโซ “มิ้นท์ ภัทรศยา ยงรัตนมงคล” ที่ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่เคยออกงานร่วมกัน แต่ว่าไม่ยอมให้สัมภาษ์ด้วยกัน แต่ล่าสุด ทั้งคู่ออกงานด้วยกันอีกครั้ง ในงานเปิดตัวกระเป๋า “จูดิธ ลีเบอร์” คอลเลกชัน FALL-WINTER 2012 โรงแรมโซฟิเทล โซ แบงคอก

ซึ่งในงานดังกล่าวจะมีบรรดาคุณหญิงคุณนายใส่เครื่องเพชร แต่งตัวกันอย่างหรูหรามาร่วมงาน มองไปทางไหนก็มีแต่ไฮโซห่มเพชรเต็มไปหมด โดยงานนี้ ทั้ง พอร์ช และ มิ้นท์ ไม่ได้มาเดินแฟชั่นโชว์ แต่ควงกันมาร่วมงานเฉยๆ ซึ่งมีข่าวว่า ทางด้านของสาวมิ้นท์ ทุ่มทุนใส่ชุดราคาเป็นแสน เพื่อมางานนี้โดยเฉพาะ ไหนๆ ก็ควงกันอย่างเปิดเผยแล้ว จึงไม่พลาดที่จะถามให้เคลียร์ความสัมพันธ์กันชัดๆ ไปเลยว่า ตกลงเป็นอะไรกัน เพราะก่อนหน้านี้ "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า สัมพันธ์กับ "ติ๊งโน้ต" ง่อนแง่นเพราะเป็นข่าวว่าพระเอกมาจีบ แถมยังระบุด้วยว่า พระเอกคนที่ว่าคือคนที่เป็นข่าวล่าสุด ซึ่งพระเอกที่เป็นข่าวล่าสุดก็คือพอร์ชนั่นเอง

พอร์ช : “ที่วันก่อนไม่ได้สัมภาษณ์ด้วยกัน คือ ก่อนนานมากใช่มั้ย (หัวเราะ) ก็วันนั้นไปทำงานต่อครับ เลยไม่ได้ให้สัมภาษณ์คู่ แล้ววันนี้มีโอกาสได้ร่วมงานกัน ก็มาพร้อมกัน พอดีพี่ผู้จัดการเขาคุยกันครับ สัมภาษณ์คู่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรครับ ก็สัมภาษณ์ธรรมดาอยู่แล้วครับไม่มีอะไร”

มิ้นท์ : “ก็รู้สึกปกตินะคะ สบายๆ ค่ะ”

ยันความสัมพันธ์แค่เป็นเพื่อนที่สนิทกัน

พอร์ช : “ก็พอดีทำงานด้วยไง แล้วพอดีเป็นเอ็มวีแบบรักๆ คนมองก็อาจจะนิดนึงแต่ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าเป็นเพื่อนกันรู้จักกันมาก่อนแล้วครับ (จะเปลี่ยนความสัมพันธ์มั้ย) คือ เรื่องพวกนี้ก็ต้องดูไปก่อนครับ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้มีอะไร โอกาสพัฒนาจริงๆ สนิทกันอยู่แล้วครับ รู้จักกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ ณ วันนี้ก็เป็นเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ”

มิ้นท์ : “จริงๆ ไม่ค่อยได้คุยเลยนะ เขาทำงานเยอะเลย”

พอร์ช : “เราจะทำงานมากกว่า เวลาเจอตามงานก็จะทักทายไป”

มิ้นท์ : “ถึงมีข่าวก็โอเคนะคะ แต่ถ้าอนาคตจะโดนจับตาเป็นพิเศษ อันนี้หนูก็ไม่รู้ค่ะ(หัวเราะ) แฟนคลับพอร์ชไม่มีมาว่าอะไรค่ะ เพราะว่าเราก็เป็นเพื่อนกัน สนิทกัน ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไร เป็นเพื่อนกันค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

“ปอ ทฤษฎี” กว้านซื้อที่ดินบุรีรัมย์กว่า 200 ไร่ ไว้ปลูกข้าวขาย

“ปอ ทฤษฎี” กว้านซื้อที่ดินบุรีรัมย์กว่า 200 ไร่ ไว้ปลูกข้าวขาย หวังต่อยอดเป็นธุรกิจ ส่วนกรณีถูกวิจารณ์เป็นพระเอกคู่ “ญาญ่า” แล้วดูไม่เข้ากัน เจ้าตัวตอกตนมีหน้าที่ตั้งใจทำงาน ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมานั่งซีเรียส

ทำงานโกยเงินในวงการมาก็หลายปีจนมีเงินถุงเงินถัง พระเอก “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” ก็เลยต่อยอดเงินด้วยการไปซื้อที่ดินที่ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด กว่า 200 ไร่ ไว้ปลูกข้าวขาย ทั้งนี้เจ้าตัวบอกอยากหาอะไรให้พ่อทำหลังเกษียณ อีกทั้งมองไปถึงอนาคตทำเป็นธุรกิจไปเลย

“ก็มีครับ มีบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกมั้ง เป็นพื้นที่สวนครับ เพาะปลูกข้าวที่บุรีรัมย์ อยากลองปลูกข้าวให้คนกินดูบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ต้องดูแลอะไรมาก มีเวลาก็แวะไปดู แต่ก็มีคนคอยดูแลให้อยู่ ที่ตัดสินใจซื้อเพราะชอบที่แถวนั้น อยากลองปลูกข้าวให้คนกินดู (จะทำเป็นธุรกิจ?) ถ้ามันสามารถเติบโตได้มากกว่านี้ก็มองกันไป แต่ตอนนี้มันเพิ่งเริ่มต้น ผมยังบอกอะไรได้ไม่มาก ว่ามันจะทำเป็นอะไร แต่อย่างน้อยคนลงทุนก็ไม่อยากขาดทุนอยู่แล้ว ผมก็ซื้อกับพ่อ หาอะไรให้พ่อทำตอนที่พ่อเกษียณแล้ว”

พร้อมแจงหลังละคร “ภูผาแพรไหม” ที่เล่นคู่กับ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” กระแสแป้ก เจ้าตัวบอกนานาจิตตัง บอกถ้าดูแล้วไม่สนุกก็ไปดูเรื่องอื่นที่สนุก

“ละครเรื่องนี้ก็มีคนถามว่าบู๊ได้ขนาดนั้นจริงๆ เหรอ เขาก็บอกว่าไม่เคยเห็นเราบู๊ๆ มาก่อนก็ดูแปลกตาดี ยากครับ เพราะแต่ละคิวมันเป็นบู๊แบบแฟนตาซีนิดหนึ่ง คือมันไม่ใช่เตะต่อยธรรมดา แต่มันต้องเก่งมากๆ กับแต้วก็ไม่ได้ร่วมงานกันมานานแล้วนะครับ ก็เจอกันอีกครั้งก็โตขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เก่งขึ้นด้วยครับ ทำให้เล่นกันง่าย”

“ฟีดแบคก็ดีครับ มีคนเข้ามาถาม สรุปว่าเกลียดนางเอกมั้ย จะฆ่านางเอกมั้ย (บางกระแสบอกละครแป้ก?) ก็แล้วแต่ มันก็มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบละครสไตล์แบบนี้ มันก็นานาจิตตัง ผมว่ามันเป็นสิทธิ์ มันเป็นฟรีทีวีนะครับ ผมว่าใครอยากดูก็เปิด ใครไม่อยากดูก็เลือกดูเรื่องที่ชอบ เราตั้งใจทำงานให้คนที่ดูมีความสุข และสนุกกับงานที่เราทำ คือนี่คือจุดมุ่งหมายจริงๆ ถ้าดูไม่สนุกก็ไปดูที่มันสนุกครับ”

เมื่อถามความคิดเห็นว่าละครเรื่อง “ภูผาแพรไหม” เนื้อเรื่องเหมือน “จำเลยรัก” เจ้าตัวก็บอกว่า…“เป็นเรื่องของทางทีมงานมากกว่านะครับ อย่างผู้เขียนบท คือผมไม่สามารถคอมเม้นท์ได้เพราะเป็นนักแสดง”

โดนวิจารณ์มาพักใหญ่กรณี “ปอ” ได้ประกบ “ญาญ่า อุรัสยา” ลงละครเรื่อง “ดาวเรือง” ว่าดูยังไงก็ไม่เข้ากัน ซึ่งปอก็ท่องคาถานานาจิตตัง

“ก็นานาจิตตังเหมือนเดิมแหละครับ คือทุกคนอาจจะติดภาพว่าคนนั้นต้องคู่กับคนนี้ ผมว่ามันเป็นนักแสดงนะครับ ถ้าผู้ใหญ่เขามองว่าอะไรที่น่าจะไปกันได้ มันก็น่าจะไปกันได้ (เป็นเพราะบทรึเปล่า?) ก็มีส่วนครับ กับในเรื่องของบท อายุมันก็ห่างกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นบทอาจจะติดที่คน แต่ถ้าเราดูที่ตามบทมันก็ถูกต้องครับ”

“แต่ก็ไม่น้อยใจครับที่โดนวิจารณ์ เพราะผมโดนทุกเรื่องปกติอยู่แล้วครับ อย่างน้อยผมก็ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด เพราะคิดว่าคนที่วิจารณ์ที่ไม่ดีหรืออะไรก็ตามแต่ อาจจะยังไม่เห็น ก็อาจจะเอามาพูดกันได้ครับ ก็ลองดูก่อน แล้วมาพูด หน้าที่ผมคือตั้งใจทำงานครับ ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมานั่งซีเรียส”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

“ป้อง” ลั่นอยากคบ “แก้ว” นานๆ รอยินยอมทั้งสองฝ่ายค่อยเรียกแฟน

“ป้อง” ชอบ “แก้ว” ซื้อเสื้อมิกกีเมาส์ให้ บอกเป็นเรื่องปกติของคนคบกัน ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นด้วยซ้ำ ลั่นแม้แก้วจะอายุ 20 เดือนนี้ แต่ยังไม่เรียกแฟน เพราะการจะเป็นแฟนกันต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย อีกทั้งไม่อยากคบกันแป๊บๆ แล้วเลิก

เคยประกาศไว้ว่ารอให้หวานใจ “แก้ว จริญญา ศิริมงคลสกุล” อายุครบ 20 ปีแล้วจะเรียกแฟน และวันที่ 22 มิ.ย.นี้ สาวแก้ว ก็จะครบ 20 ปีเต็มแล้ว หลายคนก็เลยนับถอยหลังว่า “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” จะเรียกฝ่ายหญิงแฟนตามที่เคยบอกไว้หรือยัง สอบถามไปป้องก็บอกว่า...

“ถามว่า เรียกแฟนได้หรือยัง ก็ยังเรื่อยๆ มากกว่า ดูๆ กันไป การเป็นแฟนมันต้องเป็นการยินยอมของทั้งสองคน ก็ต้องคุยกัน ไม่ใช่แค่ข้ามคืน เราก็ต้องใช้เวลากันทั้งคู่ ไม่ได้อยากคบกันแป๊บๆ แล้วเลิก เพราะจะเสียด้วยกันทั้งคู่ ไม่ต้องเปิดตัวให้หวือหวา ไม่อยากกดดัน”

ส่วนเรื่องที่ “แก้ว” ซื้อเสื้อมิกกีเมาส์ให้ใส่เหมือนกันนั้น เจ้าตัวแอบกัดเป็นเรื่องปกติของคนคบกัน ไม่ควรเอามาเป็นประด็นด้วยซ้ำ

“เรื่องแก้วซื้อเสื้อให้ ก็ไม่แปลกหรอกครับ มันก็ไม่มีอะไรนะ คนเราคบกันจะซื้ออะไรให้กันก็ไม่แปลก แค่เสื้อยืดเอง เขาคงชอบมิกกีเมาส์ก็เลยซื้ออะไรที่ตัวเองชอบ แล้วก็ถ่ายรูปลงอินสตาแกรม เราก็ถ่ายไปเรื่อยไม่ได้มีอะไรน่าเกลียด มันเป็นเรื่องธรรมดามาก ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นด้วยซ้ำ บางคนว่าชอบถ่ายรูปทำหน้าเด็ก ก็ธรรมดานะ ไม่ได้แบ๊วอะไร ไม่จำเป็นต้องแอ๊บเด็ก เราก็ถ่ายรูปตามปกติ”

“ถามว่า ผมชอบมิกกีเมาส์ด้วยหรือเปล่า ก็จริงๆ มันก็เป็นการ์ตูนคลาสสิกครับ เราก็โอเค ก็ชอบ แต่ไม่ได้ถึงขั้นต้องหาซื้อมากอด มันก็ได้นะ ปกติเสื้อยืดเราก็ใส่อยู่แล้ว แต่เป็นสีพื้นๆ มีลายบ้าง แต่ก็ไม่เยอะสำหรับลายการ์ตูนก็โอเค ซึ่งปกติก็ใส่อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าคบเด็กต้องใส่ ”

“ผมก็ไม่ค่อยได้ซื้ออะไรเท่าไร แต่จะพาไปทานข้าวมากกว่า ผมซื้อของไม่ค่อยเป็น เพราะจะกลัวไม่ถูกใจ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะซื้ออะไรให้ เพราะการซื้อของให้กัน มันก็เป็นเรื่องยากนะ กลัวไม่ถูกใจ ของขวัญเซอร์ไพรส์ยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าให้แล้วไม่เซอร์ไพรส์ขึ้นมา ก็แย่เลย คือ บอกไว้เลย อย่ามาคาดหวังอะไร เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยเซอร์ไพรส์ ไม่เก่งพวกนี้ สบายๆ ดีกว่า เดี๋ยวกดดัน”

พร้อมเผยกรณีละคร “ดอกโศก” ทางช่อง 5 ถูกวิจารณ์หนัก เพราะตลอดทั้งเรื่องเข้มข้นสนุกจนคอละครติดงอมแงม แต่ดันมาตกม้าตายตอนจบ เพราะขัดใจที่ต้องจบแบบพระ-นางได้แต่งงานกัน แต่ต้องแยกจากกัน ซึ่งกับเรื่องนี้ “ป้อง” แจงว่า บทประพันธ์เดิมหนักกว่านี้เยอะ

“ดอกโศกตอนจบมีปรับบท คือ ตามบทประพันธ์เราต้องผิดหวังอยู่แล้ว แต่เพราะกระแสในเน็ตอยากให้กลับมาคืนดีกัน อาจารย์ศัลยา (ผู้เขียนบทโทรทัศน์) ก็ปรับบทสุดท้าย ก็เลยมีบทสรุปออกมาแบบนั้น ตามที่ อาจารย์ศัลยา เขียนว่า อย่างนี้น่าจะดีที่สุด ผมเป็นนักแสดงก็ทำตามหน้าที่แค่นั้นเอง”

“อย่างตอนจบผมก็ได้เห็นกระแสวิจารณ์บ้าง บางคนบอกดีมาตั้งแต่แรก แต่มาตายตอนจบว่าทำไมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ผมก็ไม่อยากปัดความรับผิดชอบ เพราะผมเองก็เป็นนักแสดง แต่ทีมงานก็อยากทำให้ตรงใจคนดูมากที่สุด ผมอาจจะมีพลาดบ้าง เราเองก็อยากให้มันตามบท เราก็พยายามไม่ขัดใจแฟนละคร”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์