แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พิ้งกี้ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พิ้งกี้ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

“ธัญญ่า” ไม่เชื่อ “เป๊ก” แอบนัดเจอ “พิ้งกี้” ที่โรงแรม

“ธัญญ่า” ไม่เชื่อ “เป๊ก” แอบนัดเจอ “พิ้งกี้” ที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ ปาร์ค เผยสามีบอกใจกลางเมืองขนาดนั้นใครจะกล้านัดเจอกัน ลั่นปล่อยวางกับเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะยืดเยื้อมา 3 ปีจนชินชา



เพิ่งจะโดนมองพ้นข้อหามือที่3 ครอบครัว “เองตระกูล” ไปไม่ทันไรเพราะมีข่าวว่าสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” เตรียมสละโสดกับหนุ่มฮ่องกง แต่ล่าสุดกลับมีคนเห็นนางเอกสาวและหนุ่ม “เป๊ก สัณชัย” ที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ ปาร์ค ซึ่งมีนักข่าวหัวสีได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลและตักเตือน แต่กลับถูกสาวพิ้งกี้ด่ากลับ เมื่อเรื่องดังกล่าวแดงขึ้น ร้อนถึงภรรยาสาว “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ต้องออกมาชี้แจง ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าตนไม่ปักใจเชื่อข่าวดังกล่าว

"ก็รู้ข่าวจากที่ทุกคนรู้ จริงๆไม่ได้อ่านเนื้อหาข่าว เห็นแค่พาดหัวข่าว มีเพื่อนส่งมาให้ดู สำหรับพี่เป๊กไม่ได้ถาม แต่ว่าส่งข่าวไปให้เขาดู เขาก็บอกว่าใครจะไปนัดกันที่โรงแรมขนาดนั้น ส่วนตัวเราเชื่อข่าวนี้ไหม ไม่เชื่อนะ เพราะตามเนื้อข่าวเหมือนไปป๊ะกัน ไม่ได้นัดกัน ฉะนั้นโอเคถ้าบังเอิญไปเจอ อาจจะเป็นไปได้ แต่ถ้านัดกันไม่น่าใช่ พี่เป๊กเขาไม่ได้บอก แค่บอกว่า ถ้าจะนัดกัน คงไม่นัดกันในเมืองหรอกเท่าที่ธัญญ่าทราบไม่มีนะคะ เพราะหลังจากกลับมาจากยุโรป อยู่กรุงเทพไม่กี่วันพี่เป๊กก็ไปใต้ค่ะ"

"กับเรื่องนี้ตัวธัญญ่าเฉยๆ ไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าเจอไปมารึเปล่า แค่เราอ่านข่าวก็ไม่ได้มีความรู้สึกเป็นเนกาทีฟหรือโพสสิทีฟ เฉยๆ จริงๆ ค่ะแล้วเราต้องมานั่งให้สัมภาษณ์ข่าวนี้ 3 ปีแล้ว มันเหมือนกลายเป็นความเคยชิน เฉยๆ อ่านข่าวก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไร ไม่รู้สึกแย่อะไรเลย คิดว่าจบจริงไหมก็คงจบมั้ง เพราะเรื่องนี้เราไม่ได้คิดมานานแล้ว”

“ตั้งแต่เกิดเรื่องล่าสุด หลังจากนั้นเราก็พยายามไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากจะให้มีเรื่องราวอะไรขึ้นมาอีก ฉะนั้นเรารู้สึกเฉยๆ มาก และไม่อยากจะรู้อะไรที่มันทำให้เราต้องมานั่งเครียด ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ เพียงแต่อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เราไม่คิดแล้ว เหมือนเราปลง หรือว่ามันชินไม่รู้ กลายเป็นไม่ได้สะทกสะท้านความรู้สึกเราเลยไม่มีความคิดเลยว่าต้องสืบเสาะหาความจริงให้ได้ ต้องรู้ให้ได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน อย่างเราไปต่างประเทศกัน โทรศัพท์พี่เป๊กวางอยู่เราก็หยิบมาดูแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีความคิดอยากจะหยิบเลย เขาก็วางไว้ แต่เราก็ไม่อยากรู้"

"มันกลายเป็นว่าเราไม่คิด ไม่นึกถึงว่าจะไปไหนกับใคร อยู่กับใคร เราก็สบายใจเอง มันไม่ฟุ้งซ่าน อีกอย่างพี่เป๊กเขาก็ทำตัวดี เขาก็อยากมีเวลากับครอบครัวเยอะขึ้น แต่ถือว่าไว้ใจเขาไหม ก็อย่างที่บอกว่าไม่คิด พอเราไม่คิด ก็สบายใจ ความไว้ใจมันก็จะเกิดขึ้นเอง ถ้าเราไปนั่งคิดอะไรเยอะแยะมากมาย ความไว้ใจจะไม่มีวันเกิด อาจจะเพราะว่าเราเหมือนมันปลงชีวิต มันกลายเป็นไม่อยากมานั่งมีปัญหา มันเลยจุดพีกมานานแล้ว มีข่าวมาก็เฉยๆ ไปคิดมันมากก็ปวดหัว เพราะ ณ วันนี้ชีวิตครอบครัวก็แฮปปี้ดี ไปทำกิจกรรมด้วยกัน ไปเที่ยว แต่จริงๆข่าวนี้ไปถามพี่เป๊กกับคนที่เป็นข่าวด้วยจะดีที่สุด เพราะตัวเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จะไปตอบแทนได้ แต่ในส่วนธัญญ่ารู้สึกเฉยๆ ค่ะ"

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” โต้เป็นมือที่3 ทำ “แบงค์” เลิก “เบลล์ เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ขอร้องเขียนข่าวตนดีๆ บ้าง

“พิ้งกี้” โต้เป็นมือที่3 ทำ “แบงค์ แบล็ควนิลา” เลิก “เบลล์ เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ตกใจมีข่าวควงดูหนังทั้งที่ไม่เคยไป เผยตอนนี้แบงค์กำลังเศร้า แต่อย่าดึงตนไปเกี่ยวด้วยเพราะเป็นแค่เพื่อน บอกมีข่าวแบบนี้จะมองหน้ากันยังไง ขอร้องเขียนข่าวตนดีๆ บ้าง



งานเข้าตลอดๆ จนป่านนี้นางเอก “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ก็ยังสลัดข่าวมือที่สามไม่หมดซะที เคลียร์ข่าวกับคู่โน้นก็มามีกับคู่นี้ ล่าสุดก็ต้องเซ็งอีกเพราะมีข่าวเป็นต้นเหตุทำให้หนุ่ม “แบงค์ อธิกิตติ์” วง “แบล็ควนิลา” เลิกกับแฟนสาว “เบลล์ เกิร์ลลี่เบอร์รี่” หลังได้เล่นละครเรื่องกากับหงส์ ทางช่อง8 เคเบิลอาร์เอส ด้วยกัน แถมยังมีคนเห็นทั้งคู่แอบควงกันไปดูหนัง ทั้งที่แบงค์กับเบลล์เพิ่งมีข่าวเลิกกันออกมา งานนี้พิ้งกี้ขอเคลียร์ว่า...

"เราไม่เข้าไปเกี่ยวค่ะ ตอนแรก กี้ก็ตกใจอยู่ เราไปดูหนังตอนไหน ข่าวกี้ไปดูหนังบ่อยไปไหมมีข่าวดูหนังตลอด อยากจะบอกคนเขียนคอลัมน์นี้ เขาเขียนถึงบ่อยมาก ช่วยไปดูหน่อยว่ากี้ไปถ่ายละครเรื่อง กากับหงส์ที่พาราไดซ์ พาร์ค เห็นกล้องรึเปล่า เห็นทีมงานไหม ถ้าเขาเขียนว่าเบลล์เลิกกับแบงค์ ควงพิงกี้ไปดูหนัง หลังจากถ่ายละครเรื่อง กากับหงส์มันก็ไม่น่าสนใจใช่ไหม แบงค์เลิกกับเบลล์ แล้วไปดูหนัง มันถึงน่าสนใจ เป็นข่าวได้ กี้ว่าอย่าเอากี้ไปเกี่ยวกับใครเลย”

“แบงค์คือเพื่อนกี้ เวลากี้เล่นละครกับใครก็ไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ ไม่ได้มีเบอร์ด้วย แล้วตอนนั้นแบงค์ก็เศร้าอยู่ อย่าเอากี้ไปเกี่ยวเลย 2 คนนั้นเขาก็แย่แล้ว ให้กี้กับแบงค์ทำงานเป็นเพื่อนที่ดี เดี๋ยวต่อไปเล่นละครจะมองหน้ากันยังไง ข่าวมันก็ไม่ได้สร้างสรรค์เลย เป็นข่าวเท็จมาก ทีมงานที่ถ่ายละครอยู่ที่โรงหนัง ทุกคนก็รู้ว่าเราถ่ายละครกันครึ่งวัน ก็เมาท์มอย กันไป กี้อยู่คนเดียว ให้กี้อยู่ในทางสงบของกี้ดีกว่า"

“ตอนนี้กี้ไม่กล้ายุ่งกับใคร กี้ขออยู่คนเดียว แบงค์เขาก็ไม่ยุ่งกับใคร ต่างคนต่างทำงานไม่มีใครกล้าเข้าไปด้วย เขาอยู่ในช่วงเศร้าค่ะ ข่าวว่ากี้เป็นมือที่3ชักเยอะ แรกๆ ก็นอยด์ๆ นะ ก็เข้าใจว่าพี่เขาเขียนข่าวบางครั้ง เขียนบ่อยๆ มันไม่จริง ความนอยด์ก็กลายเป็นความเข้าใจโลก เข้าใจว่าเขาต้องการขายข่าว แต่บางครั้งมันก็เยอะไป เราก็เหนื่อย เขาทำงานกันค่ะ ไม่น่ามีอะไรแบบนี้ น่าจะเป็นแผนโปรโมทรึเปล่า กี้ไม่ทราบว่าพี่เขาเจตนายังไง แต่ก็เขียนกี้ในทางที่ดีบ้าง ไม่ใช่อย่างนี้ค่ะ ขอร้องค่ะ"

ส่วนที่ปีนี้ “พิ้งกี้” และ “ธัญญ่า” ได้เล่นละครในบทร้ายเหมือนกัน พิ้งกี้รับบท “ดีนี่” ในเรื่องมารยาริษยา ส่วนธัญญ่ารับบท “นพนภา” ในเรื่องแรงเงา ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าทั้งคู่จะมีชื่อเข้าชิงรางวัลในเวทีต่างๆ และก่อนหน้านี้ทางด้านของสาวธัญญ่าได้พูดหยิกแกมหยอกว่า หากได้ขึ้นร่วมรับรางวัลมีชื่อเข้าชิงเวทีเดียวกันกับพิ้งกี้แล้ว ตนกลัวว่าตอนนั้นวิญญาณของนพนภาที่เที่ยวตามตบคนที่มาแย่งสามีของตนเองจะเข้าสิง กับประเด็นนี้พิ้งกี้ตอบกลับว่า...

"กี้ว่ามันยังมาไม่ถึง กี้ก็มองไปข้างหน้า ไม่ได้มองอดีต ไม่ได้มองสิ่งที่เลวร้ายแล้วกี้ก็ทำงาน มองไปจุดเดียวที่จะทำงาน สิ่งรอบข้างไม่ได้สนใจ กี้ไม่รับฟังค่ะ กี้ก็อยู่ของกี้อย่างนี้ ทำงานไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็พอใจ"

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

ไม่ใช่เรื่องตัวเอง “พิ้งกี้” งดตอบ “ธัญญ่า” แซว “เป๊ก” เมื่อไหร่เลิกเมียน้อย?

ยังคงมีประเด็นออกมาเรื่อยๆ ในส่วนของนักแสดงสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” กับนักแสดงสาวรุ่นพี่ “ธัญญ่า ธัญญเรศ เองตระกูล” และผู้เป็นสามี “เป๊ก สัญชัย เองตระกูล” ซึ่งไม่นานมานี้ ทางนักแสดงสาวก็ได้พูดแซวถามบนเวทีคอนเสิร์ต “เจ เจตริน” ไปยังผู้เป็นสามีทำนองว่าเมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับเมียน้อยซะที? จนกลายเป็นข่าวออกมานั้น


ล่าสุด เมื่อผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอหน้ากับสาวพิ้งกี้ ก็เลยถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งทางด้านของนักแสดงสาว ก็ได้เิปิดเผยว่า...

“เรื่องพี่ธัญญ่าแซวพี่เป๊กบนเวที กี้ไม่พูดค่ะ มันไม่ใช่เรื่องของกี้เลยค่ะ เป็นเรื่องของคนอื่น คือมันไม่ใช่เรื่องของกี้เลย กี้จะไม่พูดถึงเรื่องคนอื่น เพราะต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เขาเคลียร์แทนไม่ ไม่รู้ค่ะไม่ทราบเหมือนกัน”

“ธัญญ่าบอกว่า สามารถร่วมงานได้ ถ้าเป็นเรื่องงานอันนี้ก็แล้วแต่แม่ค่ะ เพราะแม่จัดการ หนูมีหน้าที่ทำงาน แต่ก็ไม่รู้อนาคตว่าถ้าจะทำงานร่วมกันจริงๆ จะเป็นยังไง เราก็ไม่รู้ค่ะ ไม่พูดดีกว่าค่ะเรื่องนี้ไม่อยากพูดให้เป็นข่าว”

รับจิตตกช่วงนี้เลยไม่อยากออกไปไหน ขณะที่ผู้เป็นแม่ก็อยากให้มีแฟนเสียทีเรื่องจะได้จบๆ...“กี้เองช่วงนี้ไม่อยากออกไปไหน เพราะออกไปก็เป็นข่าว อยู่ดูหนังที่บ้านสบายใจดีกว่า เราไม่อยากไปที่สาธารณะไม่อยากมีข่าว เราก็จิตตกเหมือนกัน เรื่องที่ผ่านมาเราก็ไม่ต้องเก็บมาคิด เพราะเราต้องเดินไปข้างหน้าในอนาคต”

“แม่อยากให้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ก็ถ้ามีก็ดี เดี๋ยวคงจะมีแล้วละ (ยิ้ม) จะได้จบๆ ไป เบื่อค่ะ ตอนนี้ก็เปิดใจอยู่แล้วไม่ได้ปิดอะไร (แม่ช่วยหาไหม?) แม่ไม่ได้ช่วยหาหรอกค่ะเราโตแล้ว เราก็ไม่อยากคาดหวังถ้ามีเดี๋ยวก็คงเห็นเอง เราก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนด้วยไม่ค่อยได้เจอใคร ส่วนดาราในวงการก็ไม่ค่อยมีมาจีบค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

“ธัญญ่า” เล่นแรง แซว “เป๊ก” เลิกกับเมียน้อยหรือยังกลางคอนเสิร์ต “เจ”

“ธัญญ่า” แจงแซว “เป๊ก” เลิกกับเมียน้อยหรือยัง ในคอนเสิร์ต “เจ” แค่มุกขำๆ ไม่ได้เหน็บแนมใคร ยันไม่สนใจข่าว “พิ้งกี้” ควงเป๊กดูหนัง ลั่นอะไรที่ไม่เห็นกับตาตัวเองจะไม่เชื่อ เปรย “ลียา” เริ่มรู้เรื่องพ่อ และอยากให้พ่อ-แม่อยู่กันพร้อมหน้า

เป็นประเด็นขึ้นมาอีก เมื่ออยู่ๆ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ไปแซว “เป๊ก สัญชัย เองตระกูล” ในงานคอนเสิร์ต “เจ เจตริน วรรธนะสิน” ว่า เลิกกับเมียน้อยหรือยัง ทำเอาเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมจำนวนมากที่ไปดูคอนเสิร์ต และเมื่อสอบถามกับสาวธัญญ่า เจ้าตัวก็บอกว่า แค่แซวเล่นๆ ขำๆ กันไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝง



“คือ จริงๆ ประเด็นมันไม่ได้มีอะไรเลยนะคะ ก็แค่โดนลากขึ้นไปเต้นเพลงสาวบางโพ แล้วพี่เจเขาก็เหมือนสัมภาษณ์แต่ละคน แล้วก็ให้พูดทักทายแฟนๆ ของพี่เจ เราก็แบบเอ๊ะแล้วเราจะพูดอะไรล่ะ มันแบบสวัสดีค่ะ...จบ เราก็เลยแบบนึกมุขขำๆ พอดีพี่เป๊กเขาอยู่ตรงนั้นไงคะ เราก็เลยพูดประโยคนั้นไป ก็บอกพี่เป๊ก เลิกกับเมียน้อยหรือยัง อะไรอย่างนี้ แล้วพี่เป๊กเขาก็ขำๆ แล้วเขาก็หลบไปอยู่ใต้โต๊ะ คนก็ขำๆ มันแค่นั้นเองค่ะ”

“พี่เป๊กไม่คิดมากเลย ก็มีคนถ่ายรูปและเอาไปลงอินสตาแกรม แล้วก็ถามว่าขึ้นไปทำอะไร บางคนก็คิดว่าทะเลาะรึเปล่า ไปโวยวายบนเวที แต่ทุกคนที่อยู่ในคอนเสิร์ตวันนั้นจะเข้าใจว่ามันเป็นมุขขำๆ มากกว่า ไม่มีการพูดอะไรเลย เต้นกันลืมแก่ (หัวเราะ) อยู่ในคอนเสิร์ตแบบเฮ้วๆ นะคะ”

ลั่นไม่สนใจข่าวสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ควงสามีตนดูหนัง บอกอะไรที่ไม่เห็นด้วยตาตัวเองจะไม่เชื่อ

“ทราบค่ะ ก็ทราบจากข่าวเหมือนกัน เราก็แซวเขาว่าพี่เป๊กไปดูหนังบิ๊กซีมาหรอ เขาก็แบบอะไร ไม่ได้ไป ก็จบแค่นั้นค่ะ แนวกวนๆ มากกว่า เพราะว่ามันเหมือนมันเลยจุดที่จะมานั่งเซ้าซี้ มานั่งแบบทะเลาะอะไรก็ไม่รู้แล้ว ไม่รู้สิ ขี้เกียจเอามาเครียดเยอะ ก็ไม่รู้นะคะ คือเราก็ไม่อยากจะบอกว่าไม่เชื่อหรือเชื่อ ก็ไม่เก็บเอามาใส่ใจดีกว่า ก็ต้องดูไปเรื่อยๆ”

“ตอนนี้ก็พยายามจะไม่เครียดกับเรื่องอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวหรืออะไรก็ตามที่มันเข้าหูเรา เราก็ชิลล์ๆ ไป จริงๆ อย่างเรื่องข่าวมันไม่ได้มีผลกระทบกับธัญญ่าเลยนะคะ เพราะว่าเรื่องที่เป็นข่าวเราไม่รู้ว่าอะไรจริง หรือไม่จริง แต่เราจะซีเรียสกับเรื่องที่เราเห็น ที่เราได้ยิน และที่เราเจอ ต้องเห็นเอง รู้เอง อะไรอย่างนี้เราจะซีเรียสกับแบบนั้น”

“เห็นว่า น้องเขาออกมาเคลีย์แล้ว อันนี้เราก็ไม่ทราบว่ายังไงไม่ได้อ่าน เรื่องดูหนังเราไม่สนใจ เราสนใจเรื่องแมสเสจ มันไม่ใช่แมสเสจเป็นวอทแอปด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาเราติดใจเรื่องนั้น แต่เรื่องของการดูหนัง เราไม่ได้ติดใจ ถ้าเราไม่ได้เห็นเอง เรื่องไปดูหนังเราแทบจะไม่ได้พูดกันเลย นอกจากแซวๆ อย่างที่บอกอย่างเรื่องขึ้นเวที ก็ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรเพราะเขาก็เข้าใจว่าเราแซว อย่างเวลาธัญญ่าแซว ก็จะแซวแบบกัดๆ กวนๆ ค่อนข้างจะแรงเหมือนกัน ก็จะเป็นลักษณะนี้ ก็จะเข้าใจกัน”

เผยถึงจะแยกบ้านอยู่กับสามี แต่สถานะความเป็นครอบครัวก็ยังอยู่ เปรยลูกสาว “ลียา” เริ่มรู้เรื่องพ่ออยากให้พ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้า

“สถานะครอบครัเราตอนนี้ยังโอเคค่ะ ไม่ได้มีเรื่องให้ทะเลาะกัน ตั้งแต่เรื่องนั้นก็ยังราบรื่น ก็แฮปปี้เรื่องลูกด้วย เขาเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ เริ่มพูดโน่นพูดนี่ให้เราหัวเราะ คือเวลาพี่เป๊กจะออกไปข้างนอก เขาก็จะแดดดี้ไปไหน ไปกินเหล้าหรือเปล่า (หัวเราะ) ที่ผ่านมาเราก็ทำอะไรด้วยกันอยู่แล้วค่ะ ทำกิจกรรมร่วมกัน ไปทานข้าว อะไรก็แล้วแต่ ไปกัน 3 คนพ่อแม่ลูกค่ะ”

“แค่พี่เป๊กกับธัญญ่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็จะมาเจอกัน เราก็จะไปที่บ้านไปรับลียา ไปทานข้าวกันบ้าง (เป๊กบอกรอบ้านเสร็จสิ้นปีจะชวนธัญญ่ามาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า 3 คน) อันนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน สำหรับตอนนี้เราก็ยังยืนยันว่าเราอยู่แบบนี้เราสบายใจ อย่างที่บอกว่าเวลาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ความอยากรู้ของผู้หญิงมันก็มี แล้วมันก็จะเป็นบ่อเกิดของความทะเลาะ เดี๋ยวจะมีคลิปออกมาอีก เหนื่อยแล้ว (หัวเราะ)”

“ทุกวันนี้มันไม่ใช่ว่าแยกบ้านแล้วมันจะไม่ได้อยู่ในสถานะแบบสามีภรรยา เราก็แค่แยกบ้าน มันก็คือยังเป็นครอบครัว แต่ลียาองเขาก็มีพูดว่าอยากให้เราอยู่ด้วยกัน โอเคเขาจะเข้าใจแล้วว่า วันนี้คืนนี้นอนบ้านแดดดี้ คืนนี้นอนบ้านม่ามี๊ แต่บางทีเวลาเราไปส่ง เขาก็จะบอกว่าอยากนอนกันแดดดี๊ มามี๊อ่ะ เราก็กล่อมเขานอนแล้วค่อยกลับ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” ปฏิเสธควงผัวชาวบ้านดูหนัง บอกชินกับข่าวนี้

“พิ้งกี้” ปฏิเสธลั่นควงผัวชาวบ้านดูหนัง แจงหนุ่มคนนั้นเป็นพี่ชาย บอกชินกับข่าวนี้ ออกตัวยังไม่อยากมีแฟน ขอเลี้ยงนกเลี้ยงแมวมีความสุขกว่า


ข่าวมือที่สามของสาวตาคม “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ยังไม่ทันจะเงียบดีสักเท่าไหร่ ล่าสุด ก็มีคนเห็นเจ้าตัวแอบควงหนุ่มมีเมียแล้วดูหนังออกมาอีก แต่ครั้งนี้เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นพี่ชาย และไม่เคยควงหนุ่มคนไหนไปดูหนังแน่นอน พร้อมออกปากชินกับข่าวนี้ ตอนนี้ไม่อยากมีแฟนทั้งที่แม่อยากให้มี

“ควงหนุ่มไปดูหนัง เฮ้ย พี่ชายหรือเปล่า หนูยังไม่มีใครเลยค่ะ ถ้าไปดูเร็วๆ นี้ก็มีไปดูกับพี่ชายแล้วก็คุณแม่ พี่ชายหนูจะแต่งตัวแบบฮิพฮอพหน่อย คืออาจจะใส่แว่น หน้าจะไม่เหมือนกับหนูเลย อันนั้นพี่ชาย ล่าสุด ดูมาประมาณเดือนนึงได้แล้ว ดูกับพี่ชายนอกนั้นไม่ได้ดูกับใครเลย เร็วๆ นี้ไปดูไม่มีค่ะ ถ้าคนเห็นก็อาจจะเป็นเร็วๆ นี้แหละ แต่ว่าคงไม่ใช่กี้”

“ถ้าเห็นว่าไปดูกับใคร แต่ถ้าเห็นกี้ก็คงไปดูกับแม่ค่ะ เพราะว่าเราอยู่กันสองคน (ได้ข่าวว่าหนุ่มที่เราไปดูด้วยมีเมียแล้ว?) โอ้ย หนูไม่เคยเดินกลับใคร ก็มีรูปหรืออะไรก็เอามาโชว์เพราะว่าหนูไม่เคยเดินกับใคร ถ้าเห็นว่าเดินอาจจะไม่ใช่หนู หนูก็ยืนยันรับประกันว่าหนูไม่เคยไปดูกับใคร แล้วหนูก็อยู่กับแม่สองคน ข่าวออกมาเรื่องชู้สาวก็ไม่เซ็งแล้วค่ะ เริ่มรู้สึกแบบชินชากับเรื่องแบบนี้มากกว่า รู้สึกว่าถ้าอะไรมันเยอะๆ มันก็คงน่าเบื่อ คงเบื่อหลายๆ รอบแล้วค่ะ”

บอกแม้กระทั่งคนคุยยังไม่มี

“แม้กระทั่งหนุ่มๆ ยังไม่มีเข้ามาคุยเลยค่ะ แต่เราไม่ได้ปิดนะคะ แต่เหมือนกับว่าโชคชะตาจังหวะชีวิตมันยังไม่มี ก็เลยไม่มี ไม่อยากรีบด้วย อยากทำงานก่อนเรามีความสุขกับการที่เราได้อยู่กับพ่อแม่ แม่ก็ไม่ได้ห้ามเรื่องแฟนอะไร แม่ยังบอกเลยว่าถ้าเจอใครที่ถูกใจหรือว่าจะมีแฟนอะไรก็ไม่ได้ห้ามอะไร เพียงแต่ว่าตอนนี้มันยังไม่เจอค่ะ เพื่อนๆ มีแนะนำหนุ่มให้ค่ะ แต่หนูบอกว่าขออยู่คนเดียวดีกว่า เลี้ยงนกเลี้ยงแมวไป ไม่ต้องมีหนุ่มๆ หนูก็มีความสุขแล้ว”

เตรียมลงละครกับค่ายเอ็กแซ็กท์ต่อ ปัดเป็นลูกรักบอสใหญ่ “บอย ถกลเกียรติ”

“ละครกับพี่บอยยังไม่ทราบเลยค่ะว่าเรื่องอะไร ทางเอ็กแซ็กท์ยังไม่ได้บอกเลยค่ะ ต้องให้ทางเอ็กแซ็กท์ออกมาบอกอีกที เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ว่าก็คงมีแน่ๆ ค่ะ แต่ว่าก็ยังไม่ได้คอนเฟิร์มว่าเมื่อไหร่ คือ กี้ เชื่อมั่นว่า พี่บอยต้องเลือกบทที่ดีที่สุดสำหรับเราให้เรา แต่บทอะไรก็แล้ว แต่หนูเล่นได้หมดทุกบทค่ะ ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้บทดีๆ กับหนู แล้วหนูก็จะเล่นให้ดีที่สุดสำหรับทุกๆ บทที่ได้รับ”

“คนจะยกให้เป็นเจ้าแม่บทแรง ก็หนูคิดว่ามันไม่ได้เป็นบทแรงอะไรนะคะ เราไม่ได้มองว่าเป็นบทแรงนะ แต่หนูคิดว่ามันเป็นอะไรที่มีความหลากหลาย แล้วเราก็ใช้ความสามารถในการแสดงที่เรามีอยู่ก็คิดว่าเป็นแบบนั้นมากกว่า เลยไม่ได้คิดว่ามันแรงหรือไม่แรงคะ ผู้ใหญ่น่าจะมองแล้วว่าเราสามารถเล่นบทนี้ได้ แล้วก็แสดงได้เต็มที่”

“ถ้าคนมองว่า หนูเป็นลูกรักพี่บอยก็ หนูยังไม่ได้เป็นลูกรักเลยค่ะ ขอเป็นแบบนี้ดีกว่าค่ะ ไม่ต้องเป็นลูกรักอะไรก็ได้ ขอแค่ผู้ใหญ่เมตตาก็พอใจแล้ว”

ส่วนกรณีฉากหนึ่งในหนังเรื่อง “จันดารา” เห็นเนินหน้าอกนั้น แจงว่าเล่นเอง แต่ไม่ได้เห็นอะไรเพราะตนมีอุปกรณ์ช่วยเสริมอึ๋ม

“ฉากเห็นหน้าอกก็เห็นแต่หน้าค่ะ แต่พอถ่ายกว้างๆ ก็ไม่ได้เห็นเราสักเท่าไหร่ ไม่เห็นเนินไม่เห็นอะไรหรอกค่ะ เพราะว่าเราใส่ความอึ๋ม แต่ว่าไม่อึ๋มหรอกค่ะ (หัวเราะ) แต่ชุดรัดแน่นไงคะ อาจจะเห็นว่าอึ๋มนิดนึง แต่เห็นแค่หนึ่งวินาที แต่ว่าไม่ได้เห็นอะไร เราเล่นเองค่ะมันไม่ได้เห็นอะไรอยู่แล้ว เรื่องนี้บทน้อย เพราะทางหม่อมน้อย (หม่อมน้อย หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) บอกว่า เล่นเป็นรับเชิญ แต่รับเชิญแบบพิเศษ ในเรื่องทุกตัวสำคัญหมด สำหรับหนูเล่นแค่ 2-3 ซีน หนูก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องเยอะ แค่ได้เล่นกับหม่อมหนูดีใจมาก”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” ซวยซ้ำโดนตัดต่อหน้าลงคลิปโป๊ เผยมีแต่เรื่องจนนอนไม่หลับ

“พิ้งกี้” ขำๆ โดนตัดต่อหน้าลงคลิปโป๊ ซัดว่างมากก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่น เชื่อคงอยากดิสเครดิตตน ขู่ถ้าไม่หยุดเรื่องถึงตำรวจแน่ เผยหลังเกิดเรื่องนอนไม่หลับทำให้ซูบผอมลง แต่ก็พยายามให้กำลังใจตัวเอง


เรื่องราวคลิปเสียงยังไม่ทันจะซา ล่าสุดสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ก็มีเรื่องให้ปวดหัวอีก เมื่อจู่ๆ มีมือดีตัดต่อภาพหน้าของพิ้งกี้ลงในคลิปวีดีโอโป๊ แล้วเอามาปล่อยว่อนอินเตอร์เน็ต แต่ล่าสุดพิ้งกี้ออกมายืนยันชัดเจนว่าไม่ใช่ตนแน่นอน จวกคงอยากดิสเครดิต ขู่หากยังไม่หยุดเรื่องถึงตำรวจแน่

“ตลกมากเลย (หัวเราะ) เราไม่รู้ว่าเขาเอาใครมา แต่ว่าแขนไปทางหัวไปทาง คงหน้าเหมือนค่ะ คนอื่นเขาตกใจแทน เขาก็พูดว่าหน้าเหมือนเรา ทุกคนก็ตลกว่าเข้าใจคิดเนอะเพราะไหล่เขาใหญ่มาก เหมือนเล่นกล้าม ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องจริง เราไม่ได้เล่นกล้าม ก็ไม่ทราบว่าเขาจะตัดต่อหรือเขาจะเอาคนหน้าเหมือนมา ซึ่งก็มีเวลาทำอย่างอื่นไหมอ่ะ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า กี้ว่ามันเป็นภาพตัดต่อหรือภาพอะไรก็แล้วแต่ เราก็ปล่อยไป”

“ถามว่ารู้สึกยังไง กี้ว่าคนทำก็ไม่รู้ว่ามีเจตนาอะไร ต้องการเพื่ออะไรหรือว่าต้องการให้ทำลายชื่อเสียง เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดว่าที่ทำเขาคงอยากจะดิสเครดิตเรา หรืออยากให้คนว่าเรา เราก็ปล่อยไป ก็คิดอยู่ว่าคงจะมีคนแกล้ง ถ้าเกิดมันเยอะจริงๆ ก็คงตำรวจค่ะ เพราะว่าปล่อยแบบนี้มันก็ไม่กลัวกฎหมาย เดี๋ยวก็รอดู”

“แต่เราก็ต้องเดินทางสายกลางเรื่อยๆ ของเราไป ใครทำก็ได้แบบนั้น ไม่มีผลอะไรกับเราทั้งสิ้นเพราะวันๆ นึงทุกคนก็เหนื่อยพอแล้ว แล้วเราก็ทำงานทุกวัน เรื่องคลิปเรื่องรูปอะไรก็ปล่อยมันไป ใครทำก็ได้อย่างนั้น ตอนนี้ก็ทำบุญไปบ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน เราก็ทำได้ในความเป็นอิสลาม เราก็มีไปซื้อของให้เด็ก ก็ไปทำบุญแบบนี้”

“ก็อยากฝากไปถึงคนที่ทำนะคะ ว่าทำอะไรก็ได้สิ่งนั้นค่ะ ถ้ามีความสุขอยากทำอะไรก็ต้องปล่อยไป
เราก็เดินทางของเราดีกว่า ถ้ามีแรงทำก็ทำไปเถอะค่ะ กี้ว่าคนดูเขาก็เหนื่อยแล้ว คนที่เปิดดูคงใช้วิจารณญาณได้ว่าอะไรจริงๆ ไม่จริง ไม่ต้องไปทำอะไรเดี๋ยวเขาก็ได้แบบนั้นเอง”

“คนรอบข้างก็เห็นใจ เขาก็บอกว่ามันเหนื่อยเกินไปแล้วนะ บางที่เราก็ต้องทำใจให้สงบ พยายามไม่เครียดไม่เอามานั่งคิดไม่ต้องไปอ่าน เรื่องราวที่ผ่านมามันทำให้เราแข็งแรงมากขึ้น คนเรามันต้องมีภูมิต้านทานในตัวเราเอง ก็คิดว่าคงไม่มีแล้ว เราต่างอยู่ในจุดของแต่ละคนมากกว่า เราทำงานของเราไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็อยู่บ้านกับคุณแม่ ไม่อยากไปไหน เบื่อ อยู่บ้านมีความสุขสุดแล้ว อยู่บ้านก็พักผ่อน(หัวเราะ)”

เผยหลังเกิดเรื่องนอนไม่หลับทำร่างกายซูบผอมลง แต่ก็พยายามเดินหน้าทำชีวิตตนเองให้ดีที่สุดต่อไป

“ก็ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมานอนไม่ค่อยจะหลับค่ะ เพราะตื่นมาไม่รู้จะเจออะไร ทุกวันนี้คุณแม่ก็แทนที่จะสบายๆ ซึ่งคุณแม่บอกว่าอย่าพูดเรื่องนี้ให้ที่บ้านฟัง แม่เบื่อมากเรื่องนี้ แม่ก็บอกว่านอนไม่หลับ แต่ตอนนี้ก็สบายขึ้นแล้วไม่อะไรมาก”

“คุณแม่เห็นรูปทุกคนจะบอกจุดนึงว่าไหล่ใหญ่ไปไหม มีกล้ามๆ ด้วย แม่ก็ทำเป็นพูดเล่นว่า ช่วงนี้กี้ไปฟิตกล้ามเหรอลูก เป็นเรื่องตลกไปไม่อยากเครียดมาก แต่ก็แฮปปี้ดีค่ะ ช่วงนี้คุณแม่ผอม กี้ก็ผอมเหมือนกัน ก็พยายามจะทานเยอะๆ เดินหน้าของเราให้เจ๋งและดีที่สุดค่ะ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“ธัญญ่า” โต้สกัดดาวรุ่ง “พิ้งกี้” กัดไปทำพวกเบอร์หนึ่งไม่ดีกว่าเหรอ

“ธัญญ่า” บอกดีแล้วที่ “พิ้งกี้” อยากจบ เพราะตนก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน ตอกกลับพิ้งกี้หลังไล่คนปล่อยคลิปไปทำประโยชน์ให้สังคม สวนนี่ก็เป็นประโยชน์เพราะทำให้สังคมรับรู้ พร้อมโต้เจตนาสกัดดาวรุ่งอีกฝ่าย กัดไปทำพวกเบอร์หนึ่งไม่ดีกว่าเหรอ



หลังจากที่นางเอกคู่กรณี “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ออกมาขอโทษ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ทั้งน้ำตา กรณีส่งข้อความ “คิดถึง” ไปหา “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” สามี โดยยืนยันว่าเป็นเพราะเป๊กส่งมาหาก่อน ตนจึงตอบตามมารยาท แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ก่อนจะออกโรงป้องแม่ของตนเองว่า พูดไปเพราะอยากปกป้องลูก แต่บริสุทธิ์ใจไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอัดเสียง รวมถึงวิงวอนอยากจบ ล่าสุด “ธัญญ่า” ได้มาร่วมงานเปิดสาขาใหม่ isky ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนลตัล เจ้าตัวก็ได้เผยถึงคู่กรณีบ้างว่า…

“เขาออกมาพูดแล้วก็ดีค่ะ ถ้าทุกอย่างจบได้ก็ดี เราก็จบเหมือนกัน แต่ที่เขาไม่ได้ฟันธงว่าจะหยุดส่งข้อความ อันนี้เราก็คงจะไปกำหนดกฎเกณฑ์อะไรไม่ได้ค่ะ รอให้เป็นเรื่องขออนาคตแล้วกัน ส่วนเรื่องที่ธัญญ่าคลางแคลงใจหรือเปล่า ก็อย่างที่บอก ที่ผ่านมามันเป็นเรื่องประโยคที่ส่งมาเป็นอะไรที่ในฐานะคนเป็นภรรยามันเข้าใจยากจริงๆ อยู่แล้ว แต่เราก็พยายามเข้าใจอยู่ทุกวันนี้ค่ะ”

“ถามว่าพอเขาพูดแล้วสบายใจขึ้นมั้ย จริงๆ มันสบายใจขึ้นที่เราได้เคลียร์กับพี่เป๊กมากกว่าค่ะ (เขาก็ย้ำชัดว่าอย่าให้ใครไปยุ่งกับเขาอีก?) อ๋อ ค่ะ จริงๆ ถ้าไม่มีเรื่องประเภทนี้เกิดขึ้น ก็คงไม่มีใครยุ่งอยู่แล้วค่ะ เรื่องที่เขายืนยันว่าพี่เป๊กส่งมาหาเขาก่อน ตรงนี้เราไม่ได้เห็นไงคะ ว่าพี่เป็กส่งอะไรไป แต่เราเห็นที่เขาส่งมาเท่านั้นเอง”

เผยไม่ได้เคลียร์กับสามี “เป๊ก” เพราะแม้กระทั่งวันแถลงข่าวคู่กันตนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามีจะพูดอะไร แต่ยอมรับว่าทำให้ระแวงไม่เชื่อใจ

“ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นที่มีการสัมภาษณ์กันเกิดขึ้น ธัญญ่าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เป๊กจะพูดอะไร เพราะไม่ได้มีการเตี๊ยมกันก่อน เราก็ได้ฟังพร้อมๆ กับทุกๆ คน แล้วก็จบแค่นั้นไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลยค่ะ ธัญญ่ารับได้ที่พี่เป๊กพูดถึงเรื่องการส่งข้อความ จริงๆ แล้วเรื่องการส่งข้อความตามประสาคนรู้จักกันมันก็โอเค แต่อย่างที่บอกธัญญ่าไม่เห็นประโยคที่พี่เป๊กส่งไปว่าคืออะไร แต่เราเห็นที่เขาส่งกลับมาเท่านั้นเอง ก็พยายามเข้าใจค่ะ”

“เรื่องระแวงมันต้องมีอยู่แล้วค่ะ มันไม่ได้เชื่อใจร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว แต่ว่าเราเลือกที่จะให้โอกาสแล้วก็ต้องพยายามมองข้ามเรื่องนี้ไป ณ วันนั้นพี่เป๊กก็ไม่ได้บอกนะคะว่าจะไม่ส่ง ในฐานะคนรู้จักกัน มันก็ต้องมีส่งกันบ้างในเรื่องการส่งข้อความ”

“ถ้าทักทายธรรมดามันไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก อย่างที่น้องส่งมา ถ้าไม่ใช่คำว่าคิดถึงเนี่ย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้ว จริงๆ เราก็ไม่ได้อยากยุ่งให้เป็นเรื่องเป็นราวอยู่แล้วค่ะ ในเมื่อสิ่งที่เราไปเจอมันทำใจในการยอมรับลำบากมาก เลยต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ถ้าเกิดไม่มีข้อความลักษณะเชิงชู้สาว เราก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เรื่องนี้มันยาวนานไปแล้ว 3 ปี มันเหนื่อยเกินไปแล้ว ที่น้องบอกว่าไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวก็ดีแล้วค่ะ”

“พิ้งกี้” ฝากถึงคนที่ปล่อยคลิป หัวเราะกันสนุกแล้วก็กลับไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้าง?
“อันนี้ขอไม่ออกความคิดเห็นดีกว่าค่ะ แล้วแต่คนดูจะพิจารณา”

เราไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เราทำไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคมใช่มั้ย ?
“(หัวเราะ) มันก็เป็นประโยชน์นะคะ มันก็เป็นประโยชน์ต่อสังคมนะคะ สังคมจะได้รับรู้ ถึงจะเจอเรื่องนี้จริงๆ ความสัมพันธ์ของธัญญ่ากับพี่เป๊กก็ไม่ได้ถอยหลังหรืออะไรนะคะ เท่าที่เราคุยกันวันนั้น พี่เป๊กออกมาพูดก็เคลียร์ แล้ว เราก็รู้สึกว่าว่าพร้อมเดิมหน้าเพื่อครอบครัว เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นการให้โอกาสอีกครั้ง ไม่ได้มีอะไร ไม่อยากเอาเรื่องเก่าๆ มาคิดให้คลางแคลงใจ รกสมองค่ะ”

“ให้โอกาสก็ไม่รู้ขั้นไหน ดูไปเรื่อยๆ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็มีทริปที่จะพาลียาไปเที่ยวกันที่เกาหลีสิ้นเดือน กำลังคุยกับน้องสาวพี่เป๊กว่าจะเอาหลานๆ ไป จริงๆ ทุกทริปที่ไป เราก็ไปทำกิจกรรมมีลียา พี่เป๊ก ตัวเรา แต่ครั้งนี้น่าจะมีพี่เป๊กไปด้วยกับหลานๆ ค่ะ ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็เหมือนเดิมนะคะ ไม่ได้มีการเอาใจมากขึ้น ก็แล้วแต่ เขาเป็นคนไม่ได้หวานแหวว แต่จะดูแลเสมอต้นเสมอปลาย”

ต่อกระแสที่หลายคนมองว่า “พิ้งกี้” กำลังจะกลับมาในวงการอีกครั้ง “ธัญญ่า” ก็เลยเอาเหตุการณ์นี้ขึ้นมาสกัดดาวรุ่ง กับประเด็นนี้เจ้าตัวตอกเจ็บ ถ้าจะทำไปทำพวกเบอร์หนึ่งไม่ดีกว่าเหรอ

“เหมือนอิจฉาเหรอ ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ เพราะว่ามันจะทำไปเพื่ออะไร ที่มันเกิดขึ้นคือปัญหาครอบครัวมากกว่าไม่ได้เกี่ยวว่ากลับมาทำงานแล้วต้องไปสกัดดาวรุ่ง มันไม่มีเหตุผลที่ต้องอย่างนั้น อย่างนี้เราไปสกัดพวกเบอร์หนึ่งไม่ดีกว่าเหรอ(ยิ้ม)”

“ถ้ามันไม่ได้มีเรื่องราวชู้สาวเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา ณ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ข้อความนี้จะเป็นข้อความปกติค่ะ แต่เผอิญมันมีเรื่องนี้เกิดขึ้น เรายังไม่เชื่อใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็เลยทำให้มันเกิดปัญหาขึ้นเท่านั้นเอง แต่ถ้าจะมีใครมองแบบนั้น ก็แล้วแต่คนจะคิด แล้วแต่ใครจะมองเรื่องราวนี้ว่ายังไง ก็มีทั้งคนชอบและก็ไม่ชอบแหละค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะไปบังคับความคิดของทุกคนก็ไม่ได้ ก็แล้วแต่ว่าใครจะใช้วิจารณญาณยังไง”

“ธัญญ่าไม่เช็คข้อความพี่เป๊กค่ะค่ะ แต่ที่ผ่านมาเราก็ไม่เช็ค เพียงแค่วันนั้นนั่งอยู่ด้วยกัน แล้วหยิบขึ้นมาก็มีข้อความวอทแอปขึ้นมา เลยกดดู ก็โป๊ะเชะเลย”

ยืนยันไม่ได้ตั้งใจอัดคลิปเสียง แค่อยากอัดให้สามีฟังเท่านั้นจริงๆ

“อยากจะบอกว่าวันนั้นเราไม่ได้ตั้งใจอัดเลยจริงๆ แค่จะโทร.ไปบอกแค่นั้น แต่เผอิญมีการใช้อารมณ์ความรุนแรง เจตนาเราจะอัดให้พี่เป๊กฟัง ยอมรับว่าเวลาธัญญ่าทะเลาะกับใครหรือโดนใครว่า ธัญญ่าจะไม่เป็นคนพูดแรงกลับ แต่จะเป็นคนกวน พอเราได้รับคำพูดจาที่มันแรง เราก็จะกวน”

“ไม่ได้ยั่วโมโหเพื่อให้เขาพูดแบบนั้นออกมา ไม่หรอกค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่คนคิด อย่างที่บอกพอมันเจอคำพูดแรงๆ เราก็มีอารมณ์โมโหเหมือนกัน แต่ว่าจะให้ด่ากลับมันไม่ใช่วิสัยค่ะ แล้วเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของธัญญ่ากับพี่เป๊กแย่ไปกว่าเดิม เพราะว่า ณ วันนั้นที่เราพูดก็ถือว่าโอเคแล้ว เดี๋ยวรอดูอนาคตต่อไป”

“ส่วนกับฉายาเจ้าแม่อัดคลิป ตอนแรกโดนถามว่าปีนี้จะได้ฉายาใหม่มั้ย เราก็บอกไม่น่ามีฉายาแล้วอันเดียวพอ แต่ปีนี้ต้องมีอีกแน่เลย ตั้งฉายาธัญญ่าเรคคอร์ด (หัวเราะ) ก็โอเค ถ้ามองเป็นเรื่องขำมันก็ขำดีเนอะ แต่ตอนที่เกิดก็เป็นเรื่องซีเรียส เวลาผ่านไปมันก็โอเคก็น่ารักดี ถามว่ายอมรับได้มั้ย มันคงให้คนอื่นไม่ได้ เพราะที่ผ่านมารู้สึกจะมีแต่เราเรคคอร์ดอยู่คนเดียว”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” ขอโทษ “ธัญญ่า” ที่ส่งsms เหน็บแม่ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอัดคลิป

“พิ้งกี้” ร้องโฮ โผล่ขอโทษ “ธัญญ่า” ที่ส่งsmsหา “เป๊ก” ซัดฝ่ายชายส่งมาก่อน ตนเลยตอบกลับตามมารยาท ก่อนไล่ออกไปจากชีวิต พร้อมป้องแม่พูดไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เหน็บไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอัดเสียง กัดคนปล่อยคลิป สนุกแล้วก็กลับไปทำประโยชน์ให้สังคมซะ



สุดท้ายก็เขี่ยข่าวฉาวไม่พ้นตัวซะที สำหรับนางเอกหน้าแขก “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ทั้งที่เพิ่งจะกลับมายืนในวงการบันเทิงได้ไม่นาน ก็กลับมีเรื่องให้ชื่อเสียงต้องคาวอีกครั้ง หลังมีคลิปเสียง “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ทะเลาะกับ “สรินยา ไชยเดช” แม่ของพิ้งกี้หลุดออกมา ซึ่งชนวนเหตุก็เป็นเพราะธัญญ่าจับได้ว่าพิ้งกี้ส่งข้อความ “คิดถึง” ไปหา “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” สามีอีก จนทำให้ประเด็นรักสามเส้าร้อนขึ้นมาอีก

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ทางฝ่ายของเป๊กได้ควงธัญญ่าออกมาแถลงข่าวแล้ว โดยเป๊กยอมรับว่า ยังตัดไม่ขาดและแอบคิดถึงพิ้งกี้อยู่ทำให้มีการส่งข้อความหากันเดือนละครั้ง แต่ยืนยันคิดแค่พี่น้องไม่มีเรื่องชู้สาว ทางด้านของธัญญ่าก็ออกปากวิงสอน ว่า ขอให้พิ้งกี้เลิกยุ่งกับสามีตน เพราะทุกข์ทรมานมานานมากแล้ว

ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น พิ้งกี้ก็เอาแต่เก็บตัวเงียบ ถึงขั้นมีการยกเลิกงานอีเว้นต์ที่เคยรับไว้ แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็เลิกหลบหน้า หอบความกล้าออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกในงาน Zen Body Sense 2012 Stories of Seduction ที่ห้างสรรพสินค้า Zen @ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยในครั้งนี้ทำเอาสาวพิ้งกี้พูดน้ำตานองหน้าเลยทีเดียว

“วันนี้มาร่วมงานปกติไม่ได้แถลงข่าวใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับใคร และอยากจะขอร้องว่าขอให้เรื่องนี้มันจบได้เสียที จบได้แล้วนะคะ จะบอกว่าเอสเอ็มเอสที่กี้ส่ง เป็นเอสเอ็มเอสของกี้จริง เป็นเอสเอ็มเอสปกติ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เจตนาที่ส่งไม่มีอะไรแอบแฝง เพราะพี้เป๊กเป็นคนส่งมาให้กี้เองจริงๆ”

“เบอร์นี้เป็นเบอร์เก่ากี้ที่กี้ใช้มานานแล้ว ซึ่งกี้ไม่ได้ใช้มาเป็นปี พอเปิดมาก็มาเจอว่าพี่เขาส่งมาหากี้ กี้ก็ตอบไปโดยไม่ได้คิดอะไร ไม่งั้นคงไม่กล้าตอบไปหรอกค่ะ เอสเอ็มเอสนี้เป็นเอสเอ็มเอสที่กี้ส่งให้เพื่อนๆ ทุกคน ไม่ได้มีความหมายพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีใครที่จะมานอกเหนือจากพ่อแม่กี้ ไม่มีใครอยู่ในหัวสมองกี้ นอกจากพ่อแม่ครอบครัวกี้เท่านั้น”

“หลังจากนี้ก็เดินหน้าทำงานปกติ กี้ยังทำงานทุกวัน เคยทำงานยังไงวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเราไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้มีเหตุการณ์ใดๆ ที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมันคือเรื่องคลิป เราไม่ได้เป็นคนไปทำอะไรเกี่ยวกับคลิปเลย เราอยู่ของเราดีๆ แล้วคุณแม่เอง เราต้องเข้าใจท่าน มีใครโทร.มาหาแม่แบบนี้ก็ต้องอารมณ์เสีย”

“หนูฝากขอโทษด้วย แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ส่งเอสเอ็มเอสไปทำให้ใครไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด หนูก็ขอโทษด้วย ขอโทษนะคะ ขอโทษที่คุณแม่พูดไม่ดี คุณแม่พูดเสียหาย คุณแม่ไม่มีเจตนาอะไรเลย แม่พูดด้วยความจริงใจ และบริสุทธิ์ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมที่จะต้องมาอัดหรืออะไรต่างๆ นานา”

ยืนยัน “เป๊ก” เป็นคนส่งข้อความมาหาก่อน

“พี่เป๊กเป็นคนส่งมาก่อนค่ะ กี้ก็ต้องตอบไปตามปกติ คำตอบนี้มันเป็นเอสเอ็มเอสภาษาแชต ที่ทุกคนเขาก็ใช้กันปกติ หนูขอยืนยันนะ ในสมองหนูไม่มีอะไรที่จะมาสำคัญเลย ไม่ได้อยู่ในหัวสมองหนู”

จะเลิกส่งเลยมั้ย?
“ไม่ได้เลิกส่งค่ะ แต่ขอร้องว่าอย่ามาวุ่นวายกับชีวิตหนูอีก”

สรุปว่าถ้าเขาทักมาเราก็จะไม่ส่งกลับไป?
“ก็ไม่ได้ใช้เบอร์นี้อยู่แล้ว ไม่ได้ใช้ แค่ไปเปิดเจอแล้วเห็นเท่านั้นเอง”

แปลว่าทุกอย่างจะจบ?
“ทุกอย่างจบ หนูกับแม่จบ พี่เชื่อมั้ย ทุกวันนี้หนูทำงานถ่ายละคร 7 วัน (น้ำตาหยด) เล่นคอนเสิร์ตอีก เรียกว่าทำงานทุกวัน จนไม่มีเวลาได้นอน”

“ธัญญ่า” บอกว่าให้หยุดส่งข้อความหาคนของเขาสักที?
“หนูไม่ได้หยุดพี่ หนูไม่เคยส่ง ก็ส่งแค่ครั้งนี้ แค่เป็นมารยาทที่คนเรามันเป็นมนุษย์ มันต้องมีความเป็นมิตร มันเป็นมิตรกัน เขาก็จะส่งถึงกันได้”

เมื่อถามว่า “เป๊ก” ส่งมาว่ายังไงบ้าง เจ้าตัวก็ถึงกับสวนว่าไม่ต้องรู้ลึกถึงขนาดนั้น!

“พี่ไม่ต้องมารู้ถึงขนาดนั้นหรอก รายละเอียดคงไม่ต้องพูดกันขนาดนั้น คนเราไม่ว่าจะเป็นใคร เราก็ต้องตอบในลักษณะของความเป็นมิตรกันทั้งนั้น ที่เราจะตอบกันได้ ต่อไปนี้อย่ามาถามเรื่องนี้กับกี้อีก กี้ขอร้อง กี้จบแล้ว”

แต่เมื่อถามย้ำว่าตกลงถ้าเขาส่งมาอีก เราก็จะไม่ส่งตอบอีกแล้วใช่มั้ย? พิ้งกี้ก็บอกว่า…
“เรื่องเอสเอ็มเอสไม่ต้องกังวล หนูจะไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แล้วจะไม่ทำให้ใครผิดหวัง หนูขอบอกพี่ๆ ทุกคน(น้ำตาหยด) แล้วก็...แล้วต่อไปนี้กี้จะไม่ทำให้ใครผิดหวังแม้แต่พี่ๆ นักข่าวทุกคน กี้รับประกันว่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่พวกพี่ๆ จะต้องมาเครียดกันอย่างนี้อีก ขอร้องคนที่ปล่อยคลิปหรือว่าอะไร สนุกกันแล้วหรือว่าหัวเราะกันแล้ว ก็กลับไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้าง”

“ส่วนคุณแม่ ตอนนี้คุณแม่ถือศีลอดอยู่ ก็ออกบวชอยู่ ไปทำอาหารให้คนที่สุเหร่า ไม่อยากร้องไห้เลยว่ะจริงๆ (ยกมือขอพอจบการสัมภาษณ์)”



ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

บอสอาร์เอสยันไม่แบน “พิ้งกี้” อวยคนจะเป็นซูเปอร์สตาร์ อะไรก็ขวางไม่ได้

“โด่ง” บอสช่อง 8 เคเบิลอาร์เอส ยันไม่แบน “พิ้งกี้” ยังป้อนละครปีละ 2 เรื่องเหมือนเดิม ไม่สนเรื่องคลิปเสียงบอกเป็นเรื่องส่วนตัว ตนฟังแล้วสนุกดี ชมพิ้งกี้เป็นคนมีความสามารถรอบด้าน ก่อนอวยคนๆ นี้เกิดมาเพื่อเป็นซูเปอร์สตาร์



เพิ่งจะกลับมายืนในวงการบันเทิงได้ไม่ทันไร นางเอกตาคม “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ก็กลับไปฉาวอีกครั้ง หลังมีคลิปเสียง “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ทะเลาะกับแม่ของพิ้งกี้หลุดออกมา ซึ่งชนวนเหตุก็เป็นเรื่องเดิมๆ เพราะธัญญ่าจับได้ว่า พิ้งกี้ส่งข้อความ “คิดถึง” ไปหา “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” สามีอีกแล้ว ร้อนถึงทางเป๊กต้องออกมาแถลงข่าวคู่กับธัญญ่าเมื่อวันก่อน ยอมรับว่า ยังตัดไม่ขาดและแอบคิดถึงจนกระทั่งนำมาสู่การส่งข้อความหากันอยู่เดือนละครั้ง แต่ยืนยันไม่มีเรื่องชู้สาว

ทางด้านของธัญญ่าก็ถึงกับออกปาก ว่า ขอให้พิ้งกี้เลิกยุ่งกับสามีตน เพราะทุกข์ทรมานมานานมากแล้ว หลายคนเลยอดเป็นห่วงอนาคตพิ้งกี้ไม่ได้ว่าจะโดนแบนจากสังคมอีกหรือไม่ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเรื่องราวแบบนี้ สบโอกาสสอบถาม “โด่ง องอาจ สิงห์ลำพอง” ผู้อำนวยการสถานีช่อง 8 เคเบิลอาร์เอส ซึ่งเป็นคนให้โอกาส “พิ้งกี้” เข้าวงการอีกครั้ง และตอนนี้ก็กำลังมีละครเรื่อง “ราชินีลูกทุ่ง” ออกอากาศทางช่อง 8 ด้วย แต่โด่งแสดงความใจกว้าง บอกนอกจากจะไม่แบนแล้ว ยังจะเพิ่มงานให้พิ้งกี้อีกด้วย

“เรื่องจำนวนละคร เราดูความเหมาะสมของเรื่อง และนักแสดงเป็นหลักอยู่แล้ว เคยคุยกันไว้แล้วว่าจะมีละครให้น้องปีละ 2 เรื่อง แต่พอวางพล็อตเรื่องทั้งหมดแล้วก็จะมีละครให้น้องทั้งหมด 3 เรื่อง ก็เลยคุยกันตรงนั้น แต่ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับข่าวกับที่เกิดขึ้น เพราะจุดที่พิ้งกี้แรงที่สุดในชีวิต คือ การเลือกเขาเล่นทองประกายแสด”

“คือ ตอนนั้นเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของเราและของเขา ผมว่าถ้าเขาผ่านจุดนั้นมาได้ มันไม่มีจุดอื่นอีกแล้ว เรื่องระหว่างทางตรงนี้มันเป็นเรื่องจิ๊บๆ มาก เป็นกระแสแค่วูบนึงแล้วก็ไป เวลาผมมองพิ้งกี้ เราไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวเลย เราแค่ชอบงานที่เขาเล่น เราชอบตรงนี้”

“ตอนนี้อยากให้เขาพัฒนาตรงนี้เพิ่มแค่นั้น เราคุยเรื่องงานเป็นหลัก ไม่ได้คุยเรื่องส่วนตัว หรือมองว่าเขามีข่าวเสียหรือไม่เสีย ถามว่ามีกระแสเข้ามาไหม มีคนทางบ้านด้วยซ้ำ ที่จะโทรศัพท์ หรือส่งอะไรเข้ามาต่างๆ ให้ช่องช่วยพิจารณา แต่สุดท้ายผมก็จะตอบคนเหล่านั้นเหมือนกันว่า อยากให้มองเขาที่งานของเขาที่คือการแสดงจริงๆ ส่วนเรื่องส่วนตัวอยากให้ใช้วิจารณญาณ ถ้าคนแฮปปี้ชอบเขาที่งานก็ดู ถ้าคิดว่าเรื่องส่วนตัวกระทบกับงานอันนั้นเราห้ามไม่ได้จริงๆ เพราะว่าช่องดูจากการทำงานเป็นหลัก”

“ซึ่งกับน้องตอนนี้มีการคุยกัน แต่จะคุยเรื่องงานจริงๆ ว่าถ้ามีโปรเจกต์หน้าก็จะมีงานของพิ้งกี้ออกมา แล้วก็จะมีเซอร์ไพร์อีก แล้วก็จะมีบทใหม่ๆ สำหรับเขา ซึ่งเรามองว่ามันไม่มีผลกระทบอะไรนะ เรามองว่าเป็นผลดีในการทำงาน ทำให้เขาได้เคลียร์ตัวเอง ให้เขาได้เคลียร์กับสื่อว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถามว่าผมได้ฟังคลิปไหม ก็ฟัง ก็สนุกดี แล้วเราก็รู้จักคุณแม่น้องดี ว่าเป็นคนตรงๆ ชัดเจน คนเราถ้าถึงจุดพูดแบบนี้ได้ มันต้องมีแรงข้างในพอสมควร เพราะฉะนั้นพี่เข้าใจทั้งสองฝ่าย เข้าใจในเหตุการณ์”

“ถามว่าน้องเครียดมั้ย ก็ว่าตอนแรกๆ เขาเครียด เพราะเขามาถึงจุดหนึ่งที่คนยอมรับเขาได้ แต่ก็มีอะไรที่จะฉุดเขา เบี่ยงทิศทางเขาไปอีก แต่ว่าถ้าพิ้งกี้หนักแน่น ไม่มีอะไรที่จะทำร้ายเขาได้ คือคนเรามันจะเป็นซูเปอร์สตาร์ ยังไงก็ขวางซูเปอร์สตาร์ไม่ได้ และตอนนี้คิดว่า เขาก็น่าจะโอเคแล้วนะ ปกติดี ยิ้มแย้มแจ่มใส”

“ผมว่าเขามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงแล้ว เขาผ่านเรื่องอะไรมาเยอะแยะ เรื่องแค่นี้ ผมว่าเรื่องแค่นี้มันจิ๊บๆ พูดจริงๆ และผู้ใหญ่ทางนี้ก็ไม่เคยมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้เลย ไม่มีการพูดคุยใดๆ แม้แต่คุณสุรชัย (เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) ก็ไม่เคยเอ่ยถามเรื่องแบบนี้เลย ผมว่านักแสดงกับข่าวมันเป็นเรื่องปกติ ผมเข้าใจว่านี่คือข่าว และเราทำงานกับข่าว”

ยืนยันว่าจะยังป้อนงานให้ “พิ้งกี้” อย่างต่อเนื่อง

“เราก็ยังยืนยันว่า ตอนนี้เราจะยังป้อนงานให้พิ้งกี้เหมือนเดิม คือ อย่างนี้ ณ วันนี้ ราชินีลูกทุ่ง ออกอากาศอยู่ เราก็ดูกระแสของคน คือ หลังจากพิ้งกี้ออกข่าว คนดูก็เยอะขึ้น เพราะละครมันเริ่มสนุกมันไปกลางเรื่องแล้ว และมันก็สะท้อนว่าคนดูไม่ได้เลือกที่จะดูเพราะเรื่องส่วนตัว คนดูมองว่าคนนี้เล่นละครให้เขาดูได้ แล้วมันก็สนุก เพราะคนเบื่อกับข่าวแบบนี้แล้ว และผมก็มองว่าช่องเราไม่ได้มีพื้นที่ให้ใครมาแฉ เราก็ทำงานของเราไป แล้วบางเรื่องผมมองว่ามันเป็นเรื่องข้างในครอบครัว ซึ่งเราไม่อยากไปยุ่ง”

“และเราเชื่อว่า แฟน 90 เปอร์เซ็นต์เลยเข้าใจ และแฟนทุกคนรักพิ้งกี้ เราเช็กจากเฟซบุ๊ก จากทวิตเตอร์ ไม่มีใครไม่รักพิ้งกี้ ผมพูดตรงๆ ว่า ช่อง 8 ให้โอกาสเขาในการทำงาน และเขาก็คงเล็งเห็น ซึ่งเราก็คุยกันในพื้นฐานของการทำการทำงานตลอด ไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นคิดว่าแฟนช่อง 8 เข้าใจ ว่าช่องทำอะไร พิ้งกี้ทำอะไร เพราะฉะนั้นไม่น่าจะมีปัญหาในระบบของคนดูส่วนใหญ่ ยืนยันแน่นอนว่าไม่มีการลดละครของพิ้งกี้ มีแต่เพิ่มร้อยเปอร์เซ็นต์”

เตรียมวางละครเรื่องต่อไปให้ “พิ้งกี้” แล้ว

“เอาไว้คุยคราวหน้า แต่ครั้งหน้าก็จะเป็นงานละครของพิ้งกี้ ซึ่งจะมีการวางตัวละครใหม่ๆ ซึ่งน่าสนใจมาก ผมว่าโปรเจกต์นั้นเป็นโปรเจกต์ใหญ่ ซึ่งคนดูน่าจะถูกอกถูกใจ แต่ในเรื่องของบทก็คงจะเปลี่ยน คงไม่ซ้ำกับทองประกายแสด อยากให้เขาเปลี่ยนคาแรกเตอร์บ้าง ไม่งั้นคนจะคิดว่าเขาจะเล่นได้ทางเดียว”

“อย่างเขาเล่นทองประกายแสด อีกช่องก็จะเอาเขาไปเล่นอีกคาแรกเตอร์นึง ใกล้ๆ กัน เรามองพิ้งกี้เป็นนักแสดง ไม่ใช่เพราะมุมแบบนี้เลยเอามาเล่น เราว่าเขาเก่งมากนะ พิ้งกี้ ถ้าเป็นรสก็เป็นครบเครื่อง มีทุกอย่างอยู่ในตัว จะเอาอะไรมาเล่นก็ได้ ร้องก็ดี เล่นก็ดี ร้องละครก็เก่ง คนๆ นี้ บอร์น ทู บี ซูเปอร์สตาร์”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

พิ้งกี้ น้ำตาคลอแจงสื่อ


กรณีฉาวไม่จบไม่สิ้น ธัญญ่า-เป๊ก-พิ้งกี้ หลังจากที่ ธัญญ่า-เป๊ก ควงแขนกันออกมาแถลงต่อสื่อว่า "อยากให้พิ้งกี้หยุดสักที" ได้เวลาที่พิ้งกี้จะได้มาพูดให้เคลียร์บ้าง


ล่าสุดที่งาน ZEN Body Sense 2012: Stories of Seduction เจอตัวสาว พิ้งกี้ สาวิกา นางเอกสาวเข้ามาพบกองทัพนักข่าวที่มาติดตามฟังคำชี้แจงแบบเคลียร์ๆ ด้วยท่าทางปกติ ก่อนเริ่มชี้แจงต่อหน้าสื่อด้วยเริ่มมีน้ำตาคลอและเสียงสั่นเครือตลอดเวลาชี้แจงว่า

"วันนี้มาร่วมงานปกติ ไม่ได้แถลงข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับใคร ขอยืนยันนะคะ อยากจะขอให้เรื่องนี้มันจบได้สักที จบได้แล้วนะคะ จะบอกว่า SMS ที่ส่งเป็นของกี้จริง แล้วก็เป็น SMS ปกติ ที่ไม่มีอะไรแอบแฝง เพราะพี่เป๊กส่งมาหากี้เองจริง ๆ แล้วเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่กี้ใช้มานานแล้ว และที่ผ่านมาไม่ได้ใช้เบอร์นี้เป็นปีแล้ว พอเปิดมาก็มาเจอที่พี่เขาส่งมาหา กี้ก็ตอบกลับไปโดยไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใด ๆ ทั้งสิ้น บอกได้เลยว่า ตอนนี้ในหัวสมองของกี้มีแต่ พ่อกับแม่เท่านั้น"

"กี้อยากบอกว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันมาจากคลิปเสียงนั้นที่มีคนปล่อยออกมา ทั้งที่กี้กับแม่ไม่ได้ทำอะไร และตัวแม่ของกี้เองก็อยากให้ทุกคนเข้าใจ ว่าถ้าเกิดมีคนโทรมาหาแบบนั้น เป็นใครก็ต้องมีอารมณ์โมโหและโกรธเป็นธรรมดา เอาเป็นว่า กี้ก็ต้องขอโทษแทนคุณแม่ด้วย ที่พูดจาไม่ดีและพูดทำให้เสียหาย กี้เชื่อว่าคุณแม่ไม่ได้มีเจตนาร้าย แค่บริสุทธิ์ใจที่จะปกป้องลูกสาว ไม่มีการเล่ห์กลอัดเทปเสียงอะไรแต่อย่างใด"

เมื่อนักข่าวถามว่า แล้วหลังจากนี้จะส่งข้อความถึงฝ่ายนั้นอีกหรือเปล่า? 
"ไม่ใช่เลิกคะ ต้องใช้คำว่า อย่ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตกี้อีกดีกว่า เบอร์โทรศัพท์เบอร์นั้น กี้ก็ไม่ได้ใช้แล้วด้วยซ้ำ กี้ทำงานตลอด 7 วัน จะเอาเวลาไหนไปส่งข้อความ ไม่คิดจะอยากส่งด้วย แค่ตอบกลับไปเป็นมารยาทเท่านั้น" 

พี่เป๊กส่งมาว่ายังไง? 
"อย่าถามกี้เรื่องนี้เลยคะ ให้มันจบสักทีเถอะ ฝ่ายกี้เองจบมาตั้งนานแล้ว"

คุณแม่เป็นยังไงบ้าง?
"ตอนนี้คุณแม่ออกบวชและถือศีลอดอยู่คะ"

คราวหน้าถ้าเขาส่งมาหาอีกจะตอบกลับไปหรือไม่? 
"ไม่ต้องถามเลยคะ เอาเป็นว่าจะไม่ทำให้ใครต้องผิดหวังอีก และต่อไปนี้รับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องน่าปวดหัวพวกนี้อีก และกี้ขอฝากบอกคนที่ปล่อยคลิปเสียงหน่อยนะคะ ตอนนี้คุณสะใจ ได้หัวเราะแล้ว ก็ควรกลับไปทำประโยชน์ให้สังคมบ้างเถอะคะ"

ที่มา: สนุกดอทคอม

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“เป๊ก” รับตัดไม่ขาดยังส่งข้อความหา “พิ้งกี้” แต่ไม่มีอะไรเกินเลย ยืดอกรับแมนๆ ผมผิดเอง

“เป๊ก” แอ่นรับตัดไม่ขาดยังส่งข้อความหา “พิ้งกี้” ตามประสาคนรู้จัก แต่ยืนยันอย่างลูกผู้ชายไม่มีเรื่องชู้สาว ฉุนกึกโดนถามจะยังติดต่อพิ้งกี้อีกมั้ย ตอกอย่ามาคะยั้นคะยอ ก่อนยืดอกรับแมนๆ ผมเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด ลั่นจะทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม ด้าน “ธัญญ่า” บอกทุกข์ทรมานมามากแล้ว วอนพิ้งกี้อย่าติดต่อสามีอีก



ยังคงเป็นมหากาพย์เรื่องยาวฉาวสะท้านวงการอยู่ หลังจากมีคลิปเสียงที่แทนตัวเองว่า “ธัญญ่า” โต้เถียงกัน กับ “แม่พิ้งกี้” เพราะฝ่ายแรกโกรธที่พิ้งกี้ส่งข้อความ “คิดถึง” ไปหาสามีของตนเองที่ชื่อ “เป๊ก” ทำเอาทางฝ่ายของแม่พิ้งกี้ฟิวส์ขาดโต้กลับอย่างดุเดือดถึงขั้นขึ้น มึง กู เ_ ี้ย

ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นทางฝ่ายของ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ที่ออกมายอมรับว่าเป็นเสียงของตนเองเถียงอยู่กับ “สรินยา ไชยเดช” แม่ของนางเอก “พิ้งกี้ สาวิกา” เพราะไม่พอใจที่พิ้งกี้ส่งข้อความคิดถึงมาหาสามี พร้อมเผยตั้งใจอัดเสียงไว้ให้สามีและเพื่อนๆ ฟัง แต่ส่งให้เพื่อนหลายคน อาจทำให้เสียงดังกล่าวหลุดออกไปวงกว้าง ด้าน “แม่พิ้งกี้” ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้แล้วเช่นกัน โดยรับผิดที่พูดคำหยาบคายกับธัญญ่า แต่อยากให้เข้าใจว่า ทำไปเพื่อปกป้องลูก ก่อนแขวะธัญญ่าคงเห็นว่าลูกสาวของตนกำลังกลับเข้ามาในวงการบันเทิงมีงานเลยทนไม่ไหว

ล่าสุด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันนี้ (15 ส.ค.) “ธัญญ่า” ได้ควงสามี “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” ออกมาเปิดใจถึงคลิปดังกล่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “Jetrin 20th Anniversary World tour 2012” ที่ร้าน Muse ทองหล่อซอย 10 โดยทั้งคู่เปิดฉากแจงแจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า….

เป๊ก : “ผมไม่อยากให้มองว่าเรื่องเอสเอ็มเอสเป็นเรื่องสาระสำคัญนะ ถ้าถามว่าเรื่องเอสเอ็มเอสเป็นยังไง ผมก็จะบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง เบอร์ก็เป็นเบอร์ที่น้องเขาเคยใช้ ผมรู้และเข้าใจดีว่าเอสเอ็มเอสที่ส่งไปเป็นแค่การทักทาย คำที่อยู่ในประโยคนั้นๆ หรืออยู่ในเอสเอ็มเอสมันสามารถทำให้คนคิดได้ไปหลายรูปแบบ เพราะต่างคนก็ต่างความคิด มันก็ด้วยต่างวาระต่างสถานการณ์ ทำให้คำๆ นี้ สามารถแปลความหมายไปได้ในหลายความหมาย”

“อยากจะบอกว่า จริงๆ แล้ว มันเป็นเรื่องปกติของการส่งเอสเอ็มเอสสำหรับคนที่รู้จักกัน มันเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องของมนุษย์ เป็นเรื่องของคนที่ทำกันได้ ผมเองในบางครั้งที่ได้เห็นน้องเขาตามสื่อ หรือตามโฆษณา พอนึกถึงก็ส่งเอสเอ็มเอสไปตามปกติ ซึ่งผมก็บอกธัญญ่า แต่ผมเข้าใจในเรื่องของธัญญ่าที่ได้รับเอสเอ็มเอสในวันนั้น ในฐานะภรรยา ธัญญ่าก็จะต้องโกรธและโมโหเป็นธรรมดา”

“ถึงแม้ในวันนั้นเบอร์ที่ส่งมาจะไม่ใช่เบอร์ของน้องเขาก็ตาม เมื่อเอสเอ็มเอสมาแบบนี้ ธัญญ่าก็จะต้องโมโห ผมเข้าใจได้ดี แต่ก็อยากจะบอกธัญญ่า และทุกคนในที่นี้ด้วย ว่า ผมเองและน้องเขาไม่ได้มีอะไรเลย ไม่เคยได้เจอ ไม่เคยได้พบกันเลย มีแต่เพียงแค่แมสเสจทักทายนานๆ ที นี่พูดด้วยความสัตย์จริงของลูกผู้ชาย”

“ด้วยที่ผ่านมาทุกคนเอง คนที่ใกล้ตัวผมทุกคนคงเห็นว่า ผมเองพยายามมากแค่ไหนที่จะทำให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม ให้ภรรยาคือธัญญ่าที่ผมรักมาก และลูกสาวที่ผมรักกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นมันไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะกลับไปทำเรื่องแบบนั้น หรืออะไรที่ไม่ดีที่จะทำให้ครอบครัวผมกลับไปนับศูนย์อีก มันไม่ใช่ความคิดของผมแน่นอน”

“ในส่วนตัวของน้องเขาเอง ผมเชื่อว่า เขาเองก็ผ่านอะไรร้ายๆ มาเยอะ กว่าที่เขาจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำงานเลี้ยงดูครอบครัวได้ตามปกติ มันก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากแสนเข็ญหลายๆ คนก็คงเห็น คงไม่มีความคิดที่จะกลับมาทำอะไรที่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ขอยืนยันให้ทุกคนได้ทราบ ให้ธัญญ่าได้สบายใจว่า ทุกเรื่องที่ได้ยินมามันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเพียงแค่การทักทายกันปกติ”

“ในเรื่องของคลิปที่หลุดออกไป ผมก็ไม่รู้ว่าหลุดไปได้ยังไง ธัญญ่าส่งให้เพื่อนสนิท ส่งให้ครอบครัวที่ต่างประเทศ แล้วก็ผมส่งให้เพื่อนสนิท ส่งให้ครอบครัวผมเช่นเดียวกัน พนักงานผมฟังทุกๆ คน หลุดยังไงผมไม่ทราบ ผมต้องบอกไว้ว่าในฐานะที่ธัญญ่าเป็นภรรยา คงจะต้องโมโหผมเป็นธรรมดา ธัญญ่าเองก็ได้โทร.ไปหาน้องเขา ซึ่งมีอยู่วันนึงเมื่อนานมากแล้ว คุณแม่ของน้องเขาได้บอกธัญญ่า ว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้โทร.มาปรึกษาได้ ธัญญ่าก็เลยโทร.ไป มันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของคลิปอันนี้”

“ส่วนทางคุณแม่ของน้องเขาเอง ผมก็เข้าใจว่า ตัวคุณแม่น้องเขาคงรู้ว่าน้องไม่ได้ติดต่อไม่ได้อะไรกับผม แต่พอได้มาเจอเรื่องนี้อีกครั้งนึง ก็คงจะตกใจ โมโห แล้วก็คงต้องปกป้องลูกสาวในฐานะที่เขาเป็นแม่ มันเป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากเอาเรื่องเหล่านี้มาเป็นปัญหาให้ครอบครัวผมเองจะต้องมีปัญหาอีก รวมถึงครอบครัวของน้องเขาด้วย ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น”

“ที่ผ่านมา ทั้งหมดทั้งมวล ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรื่องราวต่างๆ นานา มันเกิดขึ้นมา ให้ธัญญ่าต้องทะเลาะกับแม่น้องเขา หรือว่าตัวน้องเขาและอีกหลายๆ คน ทำให้ธัญญ่าต้องเสียชื่อเสียง รวมถึงชื่อเสียงของน้องเขาด้วย ผมเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดข่าวคราวที่น่าเบื่อหน่ายยืดยาวมากๆ จนผมเห็นข่าวผมเอง ผมยังไม่ดู ไม่อ่านอะไรทั้งสิ้น ผมอยากให้เรื่องราวเหล่านี้ยุติ ด้วยคำพูดของผมในฐานะที่ผมเป็นลูกผู้ชาย”

“ถ้าคุณมารอฟังผมกันเยอะขนาดนี้ คุณต้องเชื่อผมและให้เกียรติผม ว่า ในสิ่งที่ผมพูด ผมพูดเรื่องจริง ผมยืนยันว่า ผมกับน้องเขาไม่มีอะไร ไม่เคยเจอกันไม่เคยพบกัน และจากนี้ไปผมก็ยืนยันว่า ผมจะต้องทำให้ครอบครัวที่ผมรักมากๆ ภรรยาและลูกที่ผมรักกลับมาอยู่ด้วยกันดีเหมือนเดิมให้ได้เร็วที่สุด ส่วนน้องเขาก็ปล่อยให้น้องเขาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวตามที่เขาต้องเป็น ผมอยากจบสิ้นยุติข่าวเรื่องนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง”

“อีกอย่างผมต้องขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ นักข่าวทุกคน สื่อทุกสื่อ พิธีกรรายการข่าวทีวีต่างๆ ที่ได้รอจะให้โอกาสผมได้มาพูดในวันนี้ โดยที่ไม่มีการลงข่าวหรือว่าอะไรมาตัดสินผมไปลงข่าวก่อน อันนี้ผมต้องขอบคุณจากใจผมเลย จากนี้ไปผมก็จะต้องเดินหน้าทำให้ครอบครัวผมกลับมาดีเหมือนเดิม”

ธัญญ่า : “เรื่องทั้งหมดเป๊กพูดไปหมดแล้ว อยากฝากถึงน้องคนนั้นว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมา 2 ปีกว่า จะ 3 ปี พวกเราทุกข์ทรมานกันหมดทุกฝ่าย ขณะนี้เรากำลังให้โอกาส พี่เป๊กขอโอกาส จากที่เราตัดสินใจว่าจะหย่าแน่นอนในเมื่อพี่เป๊กเป็นคนขอกลับมาอีกครั้ง และลูกเราก็โตขึ้นทุกวัน เราเลยคิดว่าก็ควรจะให้โอกาสเขา เพื่อครอบครัวเราและลูกของเรา”

“อยากฝากขอร้องน้องนิดนึงนะคะ เรื่องการส่งข้อความคิดถึงสามีเรา มันก็ยากที่จะเข้าใจ แต่ในเมื่อพี่เป๊กยืนยันว่าไม่มีอะไร เราก็โอเคจะเข้าใจอย่างนั้น สำหรับกรณีที่เกิดการคุยกันในลักษณะที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่กับคุณแม่ของน้องเขา อยากบอกว่า เราแค่จะโทร.ไปบอกว่าน้องเขามีการติดต่อมานะ คุณแม่เคยบอกไว้ว่าถ้ามีการติดต่อให้บอกคุณแม่ คุณแม่จะจัดการทุกอย่างเอง เลยอยากจะโทร.ไปบอกเขา ไม่งั้นมันจะค้างคาใจ”

“เราจะดำเนินชีวิตครอบครัวต่อไปยังไง ในเมื่อเราไม่มั่นใจในเรื่องนี้เกือบ 3 ปี มันทุกข์ทรมานทั้งครอบครัวเราครอบครัวคุณ เรื่องการส่งข้อความหรือการโทร.มาจะในอนาคตอีก 2-3 ปี หรืออีกปีหรือ 6 เดือน ก็ขอให้เรามั่นใจในความสัมพันธ์นั้นว่าไม่มีอะไรเชิงชู้สาวอีกแล้ว ธัญญ่าจะโอเคค่ะ”

เป๊ก : “อันนี้บอกให้ธัญญ่าฟัง ยืนยันได้เลยอย่างลูกผู้ชายว่า เรื่องเหล่านั้นคงไม่มี เหมือนที่อธิบายทั้งหมด”

ธัญญ่าแทรกว่า : “คงไม่มีหรือไม่มี”

เป๊ก : “ไม่มีๆ”

เผยส่งข้อความเดือนละครั้ง ต่อไปถ้าเจอกันก็ยืนยันว่าจะทักทายปกติ

เป๊ก : “บางทีผมก็ส่งเดือนละครั้ง เมื่อเวลาผมเห็นสื่อหรือเห็นอะไรที่ทำให้มันนึกถึงคนที่เคยรู้จัก ผมก็เอสเอ็มเอสไปเป็นปกติ หรือในอนาคตถ้าผมเจอน้องเขา ผมก็คงต้องทัก ส่งแมสเสจไปตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องแบบนั้น มันเป็นเรื่องปกติมาก”

เมื่อถามว่า จะเปลี่ยนเบอร์หรือยังจะส่งแมสเสจไปหาอีกมั้ย? งานนี้ทำเอาเป๊กฉุนขึ้นมาทันควัน

“ไม่เปลี่ยน คุณไม่ต้องถามหรอก ผมพูดไปหมดแล้ว ไม่ต้องมาคะยั้นคะยอถามผมว่าส่งไม่ส่ง ผมพูดทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้ว ทุกคนก็รู้ดี ลองคิดถึงตัวคุณเองสิ ถ้าคุณรู้จักใครซักคนคุณจะทำยังไง ความเป็นเพื่อนคุณไม่มีเหรอ ความเป็นพี่เป็นน้องทำไม่ได้เหรอ ผมยืนยันและตั้งใจทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีเพื่อครอบครัว ณ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือลียา เราช่วยกันดูแลทั้งคู่ตลอดเวลา ลียาเขาก็ติดคุณแม่มากกว่า”

ธัญญ่า : “แต่ถ้าไม่มีธัญญ่าลูกก็จะติดพี่เป๊กมากเหมือนกัน”

แสดงว่าเป๊กขอโฟกัสที่ลูกก่อน ?

เป๊ก : “แน่นอน ในอนาคตผมไม่อยากให้ลูกมีปัญหา มีปมด้อย ฉะนั้น ขึ้นอยู่ที่ตัวผมด้วย ต้องทำทุกอย่างให้ครอบครัวผมสมบูรณ์ เรื่องชีวิตคู่เราสองคนจริงๆ มันก็ใช้อยู่แล้วสามีภรรยาเนี่ย ก็แค่แยกบ้านกันนอน”

ธัญญ่า : “ที่ผ่านมา จากตัดสินใจจะหย่าแน่นอน จบแน่นอน แต่พอมีโอกาสได้กลับมาเป็นครอบครัว อาจไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังไปต่างประเทศ ทำกิจกรรมร่วมกัน มีปัญหาเรื่องลียาก็ปรึกษากันตลอด ทุกอย่างเหมือนดีขึ้น เราสบายใจที่พี่เป๊กพยายามให้เห็นจริงๆ แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ก็ทำให้เราเฟล เหมือนเรายังไม่ไว้ใจ”

เป๊ก : “ก็ที่พูดทั้งหมดเพราะอยากให้เข้าใจว่าไม่มีอะไร”

ธัญญ่า : “ธัญญ่าเชื่อว่าถ้าเป็นภรรยา เป็นครอบครัว เป็นแม่ของลูก ถ้ามีใครเข้ามาทำให้ชีวิตเรามีปัญหา เคยมีปัญหามาก่อนแล้วเวลาก็ผ่านไปไม่นาน แล้วยังมาเจอข้อความ Miss you na มันยากที่จะเข้าใจ แต่เราก็พยายามจะเข้าใจหลังจากการที่เราได้รับการยืนยันนะคะ แต่ในวินาทีที่ได้เห็นข้อความก็คิดว่าจบแล้ว ไม่เอาแล้ว แต่พอวันเวลาผ่านไป เราก็ใจเย็นลง ได้คุยกัน ก็โอเค จะเข้าใจแบบนั้น”

เป๊ก : “ผมยืนยันความด้วยความเป็นลูกผู้ชายของผม แต่พูดไปเดี๋ยวก็โดนด่าอีก ก็มันไม่มีอะไรอย่างที่คนอื่นคิดหรอกครับ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

“ธัญญ่า” รับอัดคลิป “แม่พิ้งกี้” อินจัดเข้าฉากตบเมียน้อยเทกเดียวผ่าน

“ธัญญ่า” รับอัดเสียงสนทนาระหว่างตนกับ “แม่” ของสาว “พิ้งกี้” ไว้ เพราะเดือดที่เห็นข้อความ “คิดถึง” ส่งมาในโทรศัพท์ของ “เป๊ก” ซึ่งเป็นเบอร์โทรของพิ้งกี้ ลั่นตั้งใจอัดเสียงไว้ให้สามีและเพื่อนๆ ฟัง แต่ส่งให้เพื่อนหลายคน อาจทำให้เสียงดังกล่าวหลุดออกไปวงกว้าง ด้าน “แม่” ของพิ้งกี้ รับผิดเองที่พูดคำหยาบคายกับธัญญ่า บอกธัญญ่าคงเห็นว่าลูกสาวของตนกำลังกลับเข้ามาในวงการบันเทิงมีงานเลยทนไม่ไหว



หลังจากมีคลิปเสียงที่แทนตัวเองว่า “ธัญญ่า” โต้เถียงกัน กับ “แม่ของพิ้งกี้” เพราะฝ่ายแรกหึงหวงที่พิ้งกี้ส่งข้อความคิดถึงไปหาสามี ส่วนแม่ของพิ้งกี้ก็เถียงแทนลูกถึงขั้นขึ้น ขึ้น มึง กู เ_ ี้ย ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเสียงดังกล่าวเป็นเสียงของ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ รามณรงค์” กับ “สรินยา ไชยเดช” แม่ของ “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” โดยธัญญ่าได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เช้าดูวู๊ดดี้” ยอมรับว่าเป็นคนอัดคลิปเสียงเอง

“ที่คลิปหลุดออกมา เพราะธัญญ่าส่งให้เพื่อนสนิทฟังด้วยความที่โมโหมาก ก็ส่งให้เพื่อนฟังเยอะมากซึ่งธัญญ่าก็ไม่รู้เรื่องว่าคลิปหลุดออกมาแล้ว ก็งงเล็กน้อย เพราะไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยคลิป และในคลิปธัญญ่าเองก็พูดกวนมาก ไม่ได้อยากจะให้หลุดออกไป ถ้าตั้งใจปล่อยจริงๆ คงจะพูดอะไรที่ดีกว่านี้ แล้วตอนที่อัดเสียงธัญญ่าก็ไม่ได้อยู่กับพี่เป็ก อยู่คนละบ้าน แต่พออัดเสร็จก็เอาไปให้เขาฟังด้วยว่าคุณแม่คู่กรณีพูดอะไรยังไงบ้าง”

“ตอนแรกเลยไม่คิดจะอัดคลิปเสียงนี้เลย แต่พอเห็นเอสเอ็มเอส คำว่า MISS YOU ขึ้นที่โทรศัพท์ของพี่เป็กเท่านั้นแหละธัญญ่าก็โทร.หาคุณแม่ของคู่กรณีทันที เพราะคุณแม่เขาเคยโทร.หาธัญญ่าแล้วบอกว่า ถ้าเมื่อไหร่ลูกเค้าติดต่อหาพี่เป๊กอีกให้โทร.หาแม่”

“ธัญญ่าก็เลยโทร.ไปหาแค่นั้นเอง เพื่อจะบอกว่ามีการติดต่อกลับมานะ แต่คุณแม่เล่นพูดซะขนาดนั้น ธัญญ่าเลยอัดไว้ให้พี่เป๊กฟัง และด้วยความโมโหก็ส่งให้เพื่อนสนิทฟังด้วย ส่วนทางพี่เป๊กก็นิ่งๆ ไม่ได้โมโหอะไร ยังปกติเหมือนเดิม ธัญญ่าเองก็ยังทำงานต่อไปถ่ายละครเรื่องแรงเงาที่ค่อนข้างคล้ายชีวิตจริงมากๆ แล้ววันที่เกิดเรื่องก็ไปถ่ายละครเรื่องนี้ด้วยมีฉากตบเมียน้อย ก็ยิ่งอินจัด ตบเทคเดียวผ่านเลย จะแถลงข่าวหรือเปล่า คงต้องดูพี่เป๊กก่อนแล้วแต่เขา ถ้าจะแถลงก็แถลงคู่เลยจะได้จบทีเดียว”

ด้าน “แม่” ของ “พิ้งกี้” ยอมรับผิดใช้คำหยาบคายกับอีกฝ่าย แจงเพราะต้องการปกป้องลูกสาว

“ธัญญ่ามีอยู่มุกเดียว แม่หลุด แม่ผิดเองที่ขึ้นมึงขึ้นกู แต่เข้าใจอารมณ์คนเป็นแม่ไหมใครมาด่าลูกเราเราก็ต้องปกป้อง สงสัยจะเห็นพิ้งกี้กำลังกลับเข้ามาในวงการมีงานเลยทนไม่ไหว”

ด้านหนุ่ม “เป๊ก” เองยืนยันตนไม่ได้เจอกับสาวพิ้งกี้นานแล้ว และตนพร้อมเจอพูดคุยถึงเรื่อดังกล่าวในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่งานแถลงข่าวคอนเสิร์ตของหนุ่ม “เจ เจตริน วรรธนสิน”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ฟังเสียงจะจะ! สาวแทนตัว “ธัญญ่า” ด่าไฟแลบกับ “แม่พิ้งกี้” เพราะลูกสาวไม่เลิกยุ่งกับผัวชาวบ้าน

เนื่องจากเนื้อหาข่าวนี้อาจมีผลทางรูปคดีที่อาจจะมีการฟ้องร้องต่อกันจึงไม่สามารถเอาเผยแพร่ ณ ที่นี้ได้ ให้ทุกท่านเข้าฟังและอ่านรายละเอียดเต็มๆได้ที่ http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000097289


ขออภัยในความไม่สะดวก
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” โร่ทำบุญชุดใหญ่รอดตายเครื่องบินเจอพายุตกหลุมอากาศ

“พิ้งกี้” โร่ทำบุญชุดใหญ่ หลังรอดตายเครื่องบินเจอพายุตกหลุมอากาศ ลั่นในระหว่างนาทีวิกฤต ตนรวบรวมสติเพื่อดูแลคนรอบข้าง ทั้งที่ใจก็กลัวมาก


กำลังกลับมามีงานรุ่งได้ไม่ทันไร ไม่กี่วันมานี้สาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ก็เกือบวิดดับ หลังจากไปร่วมงานอีเวนต์ที่ จ.ขอนแก่น แล้วเจอสภาพพายุเข้า เครื่องบินตกหลุมอากาศ ต้องบินวนค้างอยู่บนท้องฟ้านานร่วมหลายชั่วโมง กว่าจะลงจอดพื้นดินได้อย่างปลอดภัย งานนี้สาวพิ้งกี้เล่านาทีวิกฤตนั้นให้ฟังว่า ตนต้องรวบรวมสติเพื่อช่วยดูแลคนอื่นๆ ในเครื่องด้วย

“ไปงานที่จังหวัดขอนแก่นค่ะ งานผ้าไทย ก็คือ ขากลับหลับอยู่ และมีนักแสดงนักร้องอยู่ด้วยเกือบ 30 ชีวิตได้ ตื่นมาเหมือนเครื่องฟุบไป เหมือนในหนังค่ะ แล้วพอหันไปด้านข้างมันขาวไปหมดเลย แล้วทุกคนก็ลืมตามามองหน้ากัน และกี้ก็ดูแลคนใกล้ชิด”

“กี้เองก็คิดว่าจะรอดมั้ย แต่ก็ต้องทำใจแข็งค่ะ ทั้งที่ตื่นเต้นมาก เครื่องบินก็วนอยู่หลายรอบมาก หาที่ลงเหมือนในหนังเลย เหมือนตกหลุมอากาศ เดี๋ยวเร่งเครื่องเดี๋ยวเครื่องดับ เราไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร แต่อารมณ์ตอนนั้นเรารู้สึกว่าจะเป็นยังไงนะ”

“กลับมาบ้านเหมือนคุณแม่มีเซนส์โทร.มาถามก่อนว่า เครื่องบินดีเลย์ใช่มั้ย ตอนกลับพอดี แม่บอกว่าไม่รู้ว่าเป็นอะไร เดินวนอยู่ที่บ้านน่ากลัวจริงๆ กลับมาก็ทำบุญยกใหญ่เลย นักแสดงคนอื่นๆ ที่ไปด้วยกันเขาก็ไปทำบุญเหมือนกัน”

ย้ำอีกครั้งข่าวมือที่ 3 แทรกกลางความรักของ “ฟลุค จิระ ด่านบวรเกียรติ” และสาว “แอปเปิล สีสะเหงียน สีหาราช” นั้น เป็นเรื่องที่พระเอกนางเอกที่เล่นละครด้วยกันต้องเจอ บอกตนเหนื่อยที่จะตอบแล้ว

“คิดว่า เป็นข่าวที่พระเอกกับนางเอกมีข่าวกัน ก็เข้าใจแหละว่าทำข่าวไป แต่ก็แล้วแต่คนคิด เราก็ไม่อยากพูดเราตอบได้ก็ตอบไปค่ะ คนที่ไม่เข้าใจเราก็ไม่ไปถามเขาหรอก เราก็ทำงาน มีอะไรที่น่าทำน่ามองมา เป็นเรื่องที่น่าทำมากกว่าไร้สาระนิดนึง บางครั้งก็เหนื่อย คนรอบข้างเขาก็เหนื่อยแทนเราเหมือนกัน แต่ก็ต้องเข้าใจ บางครั้งเป็นข่าวเราก็ตอบไปเพราะพี่ๆ ก็ต้องนำเสนอข่าว”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” ปัดเป็นมือที่ 3 “ฟลุค-เปิ้ล” โวยพาดหัวข่าวแรงให้นึกถึงใจคนเป็นข่าวบ้าง

“พิ้งกี้” ปัดเป็นมือที่3 “ฟลุค-เปิ้ล” บอกเข้าใจเปิ้ลยังไม่มีประสบการณ์ในการให้สัมภาษณ์นักข่าว บวกกับยังไม่รู้จักตน ก็เลยทำให้เข้าใจผิด แต่พอได้เคลียร์กันก็เป็นเพื่อนกันแล้ว โวยพาดหัวข่าวแรงให้นึกถึงจิตใจคนเป็นข่าวบ้าง

หลังจากที่นางเอกสาวตาคม “พิ้งกิ้ สาวิกา ไชยเดช” โดนมรสุมข่าวมือที่สามอย่างหนัก พอหลังจากกระแสข่าวเงียบลง เจ้าตัวก็มีงานหน้าจอให้เห็นกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่วายที่จะมีข่าวเป็นมือที่ 3 เข้ามาอีก ซึ่งเป็นคู่ของนักร้องหนุ่ม “ฟลุค จิระ ด่านบวรเกียรติ” หรือ “ฟลุค ซีควินท์” กับสาว “แอปเปิ้ล สีสะเหงียน สีหารา” ถึงขนาดทั้งคู่ทะเลาะกัน พอมีโอกาสได้เจอสาว “พิ้งกี้” ก็แจงว่า…

“ถ้าทะเลาะกันเลยคงไม่ใช่ค่ะ เพราะว่าพิ้งกี้ ไม่ได้สนิทกันค่ะ ต้องเข้าใจ บางทีไปถามน้องเขา น้องเขายังไม่มีประสบการณ์ในการตอบเท่าไหร่ ตอนแรกอาจจะยังไม่รู้จักกี้นะคะ ก็อาจจะคิดได้ไปต่างๆ นานา แต่ว่าพอมารู้จักกี้แล้วเราก็เป็นเพื่อนกัน เพราะว่าพี่ฟลุคเนี่ย เราก็เป็นเพื่อนกัน เล่นละครมากันตั้งสองเรื่อง ทั้งเรื่องทองประกายแสดและราชินีลูกทุ่ง เพราะฉะนั้นในความเป็นเพื่อนร่วมงาน มันก็มีอยู่สูง แต่ว่ากี้ก็ทำงานมานาน กี้ก็สามารถแยกแยะได้ ว่าอันไหนเรื่องงาน อันไหนเรื่องอะไร และเราก็ให้ความเป็นเพื่อนได้หมดในกองถ่าย”

“ข่าวแบบนี้ก็คงจะเป็นข่าวที่ผ่านมาผ่านไป ข่าวนี้เป็นข่าวงงนะคะ ถ้าเกิดจะบอกว่าทำขึ้นเพื่อเป็นข่าวพีอาร์ก็แล้วแต่คนจะคิดค่ะ แต่อาจจะเป็นได้ว่า ตอนนี้กี้โสด เลยอาจจะโดนจับคู่พี่ฟลุค กับเปิ้ลก็ยังเป็นเพื่อนเราต่อไปค่ะ ยังอยู่กลุ่มเดียวกัน ข่าวก็คือข่าวเพราะยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้กี้ซีเรียส แต่บางทีพาดหัวข่าวแรงเกินไป ก็อยากให้นึกถึงจิตใจของคนอื่นบ้าง เพราะเราก็เป็นนักแสดงเหมือนกัน”

บอกไม่ต้องเคลียร์เพราะมีการพูดคุยกันแล้ว

“คงไม่ต้องเคลียร์กับพี่ฟลุคค่ะ เพราะว่าเราคุยกันแล้ว แล้วจริงๆ แล้วในวันเกิดเรา ก็กินข้าวด้วยกันอยู่แล้ว ทุกคน เพราะว่าใครเป็นเพื่อนกี้ก็ไปกันหมด ไม่มีอะไรเครียดค่ะ เพราะว่าอยู่กองก็ไม่รู้ว่าเขามีทะเลาะหรือหึงหวงกันหรือเปล่า เพราะว่าเวลามากองแต่ละคนก็จะถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน เพราะว่าเราถ่ายรูปเล่นกันเป็นประจำอยู่แล้ว”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” มือขึ้น! งานล้นมือจนน้ำหนักลดฮวบ

“พิ้งกี้” ดวงขึ้น มีทั้งงานหนังและละครล้นมือ บอกทำงานทุกวันจนน้ำหนังลดฮวบ แต่มีความสุขที่ได้ทำงาน และดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสอีกครั้ง ส่วนเรื่องรักไม่ยุ่งขอมุ่งแต่งาน

หลังจากผ่านมรสุมเรื่องร้ายๆ สาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ก็กลับมามือขึ้นมีงานแสดงล้นมือ ทั้งละครที่ตอนนี้ถ่ายสลับกันอยู่ 2 เรื่อง “มารยาริษยา” และ “ราชินีลูกทุ่ง” อีกทั้งยังมีหนังเรื่อง “จันดารา” งานนี้สาวพิ้งกี้ก็เลยแฮปปี้มากๆ ที่สามารถกลับมายืนในวงการได้อีกครั้ง

“ตอนนี้ก็ทำงานเยอะทุกวันค่ะ ถ่ายละครสลับกันไปมา ตี 4 ตี 5 ติดต่อกันมาหลายอาทิตย์ ทำให้น้ำหนักลดลงไปเยอะเลย ตอนนี้ก็มีละครเรื่องมารยาริษยา ที่กำลังออนแอร์อยู่ แล้วก็เรื่องราชินีลูกทุ่ง กับทางอาร์เอส สำหรับกระแสละครเรื่องมารยาริษยา ก็ดีมากค่ะ กับบทดีนี่ หลายคนก็อิน เกลียดบ้าง อะไรบ้างต่างๆ นานา แต่ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ เพราะว่าบทดีนี่เราเล่นเอง เรายังรู้สึกเลยว่าอยากตบมาก ร้ายลึกมาก ก็ถือว่าการได้เล่นบทดีนี่เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่น่าจดจำค่ะ”

“สำหรับละครเรื่องอื่นๆ กับทางเอ็กแซ็กท์ ตอนนี้ก็ต้องแล้วแต่ทางผู้ใหญ่เมตตาค่ะ ยังไงก็คงจะมีการพูดคุยกันอีกที สำหรับการเซ็นสัญญากับช่องไหนยังไง พิ้งกี้ มองว่า มันเป็นเรื่องของอนาคต คือ เราเป็นนักแสดง หากมีผู้ใหญ่หยิบยื่นโอกาสมาให้ เราก็ยินดีค่ะ แต่ตอนนี้เป็นอิสระก็แฮปปี้ดี และยินดีร่วมงานกับทุกค่ายค่ะ ดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส”

เมื่อสอบถามเรื่องหัวใจ เจ้าตัวย้ำชัดตอนนี้รักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน ย้ำชัดสัมพันธ์กับหนุ่ม “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” แค่เพื่อนเท่านั้น

“สำหรับเรื่องความรักตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ เพราะทำงานอย่างเดียว แล้วก็อยากทำตรงนี้ให้เต็มที่ก่อนค่ะ อย่างอื่นไม่ได้สนใจเลย เรามีโอกาสได้กลับมาตรงนี้แล้ว ก็อยากจะทำงานให้ดีที่สุด เห็นคนชื่นชอบงานเรา แค่นี้มันก็เป็นความสุขแล้วค่ะ เรื่องนั้นคงขอพักไปก่อน”

“ตอนนี้อยากมุ่งมั่นกับการทำงานมากกว่า ส่วนกับไมค์ ก็เหมือนเดิมเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันค่ะ ไม่ได้มีอะไร จะมีพัฒนาบ้างมั้ย ก็อย่างที่บอกหลายครั้งแล้วว่าเราก็เพื่อนกันเนอะ เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เป็นอย่างนี้ทุกอย่างมันลงตัวค่ะ เราแฮปปี้แล้วที่มันเป็นแบบนี้”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” ยิ้มแก้มปริขึ้นแท่นนางเอกเบอร์1 ช่อง8 บอกปีนี้เป็นปีทองของตน

“พิ้งกี้” ดีใจ เล่นร้ายในละคร “มารยาริษยา” ตีบทแตกจน “บอย ถกลเกียรติ” ออกปากชม แถมกระแสตอบรับดีเป็นการฉลองที่ได้กลับมาเล่นฟรีทีวีเรื่องแรก เจ้าตัวยิ้มสองเด้งได้ขึ้นแท่นเป็นนางเอกเบอร์1 ของช่อง8 หลัง “เฮียฮ้อ” ปลื้มฝีมือจนเตรียมป้อนงานให้ต่อเนื่อง

ได้รับโอกาสกลับมาเล่นละครของช่องฟรีทีวีอีกครั้ง กับการพลิกบทบาทมารับบทนางร้าย ในละครเรื่อง “มารยาริษยา” ค่ายเอ็กแซ็กท์ ก็ได้รับกระแสตอบรับดี ทำเอานางเอกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” เป็นปลื้มกับผลงานตัวเอง

“สำหรับละครเรื่องมารยาริษยาก็พอได้เช็คเรทติ้งบ้างจากคนดู ก็ถือว่าร้ายเลยแหละ ก็ได้รับคำชมเพราะคนดูเกลียดก็ถือว่าเป็นคำชม เราดึงอารมณ์ร่วมของคนดูด้วยในจุดของนักแสดงเราก็แฮปปี้แล้ว ตอนนี้ก็ยังต้องถ่ายละครอยู่ เราได้เจอคนหลายๆ วงการก็เรียกดีนี่ๆ (หัวเราะ) เรื่องนี้ก็ร้ายสุดๆ แล้วละค่ะ”

“คือเราเจอพี่ในวงการแค่ตอนแรกทุกคนก็เกลียดแล้ว แรกๆ ยังไม่ได้เล่นอะไรมากเลย ถือว่าเป็นการกลับมาฟรีทีวีเรื่องแรกก็ต้องใช้เวลาค่ะ อย่างเรื่องนี้ก็ใช้เวลานานกว่า 6 เดือน ก็ขอบคุณที่ทุกอย่างออกมาลงตัว พี่บอย ถกลเกียรติ ก็ฝากคำชมมาและให้กำลังใจเราและทีมงานทุกคน แค่คำพูดเล็กๆ เราก็ดีใจแล้ว”

นอกจากละครทางฟรีทีวีแล้ว “พิ้งกี้” ยังมีละครทางช่อง8 เรื่องราชินีลูกทุ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่2 ของเจ้าตัวกับช่อง8 งานนี้พิ้งกี้ก็เลยถูกให้เป็นนางเอกเบอร์หนึ่งไปแล้ว

“สำหรับใครที่คิดถึงกี้ในด้านการร้องการเต้น กี้ก็ฝากละครเรื่องราชินีลูกทุ่งไว้ด้วยค่ะ ทางช่อง8 ซึ่งมีนักร้องลุกทุ่งหลายท่านร่วมแสดงด้วย อย่างพี่ ฮาย อาภาพร พี่ยิ่งยง ถามว่าจะมีเรื่องที่ 3 ต่อไปไหม ก็มีแพลนๆ ไว้บ้างอยู่ที่ผู้ใหญ่ เราก็รอแสดงอย่างเดียว (รู้สึกอย่างไรที่เป็นนางเอกเบอร์1ของช่อง?) คือเราถือว่าเป็นทางเลือกให้กับผู้ชมมากกว่า เราก็ถือว่าเราเป็นนักแสดงที่ทำอย่างเต็มที่ อยากทำให้ช่อง 8 มีคนดูเยอะๆ”

“ส่วนก่อนหน้านี้ที่เคยบอกว่ามีช่องฟรีทีวีมากสีชวนร่วมงาน ก็เอาเป็นว่าให้หลังจากนี้ดีกว่า ให้เป็นเรื่องๆ ไป ก็มีติดต่อมาบ้างๆ หลายๆ บริษัทซึ่งเราก็พิจารณาอีกที ซึ่งกี้ก็ขอเป็นนักแสดงอิสระต่อไปแบบนี้ดีกว่าแฮปปี้ สบายใจค่ะ เราอยู่แบบนี้จะได้เล่นได้หลายๆ ที่ อยู่กับคนที่เรารักและเราอยากอยู่กับเขาค่ะ”

เผยเพิ่งอายุครบ 26 ปีเต็มเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวบอกคิดว่าเป็นปีที่ดี และจะขอตั้งใจทำงานต่อไป

“ปีนี้ก็อายุ 26 แล้ว เป็นปีที่ดีสำหรับเรา มีพี่ๆ ที่น่ารักหลายๆ ท่านเป็นกำลังใจให้เราหลายๆ อย่าง ดีใจที่เจอผู้ร่วมงานบ่อย ส่วนวันเกิดปีนี้ก็คุณพ่อซื้อของให้และคุณแม่ก็ให้เงินมา ไม่รู้จะใช้ยังไงเพราะไม่เคยใช้เงิน (หัวเราะ) ทำตัวไม่ถูกก็เก็บเงินไว้ก่อน ซึ่งก็เดี๋ยวคงฉลองเล็กๆ น้อย ส่วนเรื่องทำบุญก็คงหลังจากวันนี้ไป ปีนี้ตั้งใจว่าจะทำงานให้มากที่สุด ให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต มีคนอวยพรให้เราเจอแต่สิ่งดีๆ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” ปัด แม่เปล่าจุ้นชุดโป๊ในละคร “มารยาริษยา”

“พิ้งกี้” ปัดแม่ทำกองละครป่วน หลังไปวุ่นวายเรื่องชุดที่ลูกสาวต้องใส่ในกองละคร “มารยาริษยา” งานนี้ทำเอาสไตลิสต์ เอือมระอา โต้คนปล่อยข่าวคงฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดเองมากกว่า ยันแม่ไม่เคยเข้ามาก้าวก่ายเรื่องการทำงานแน่นอน

เกิดข่าวหลุดออกมาจากกองละคร “มารยาริษยา” ละครรีเมกของค่ายเอ็กแซ็กท์ ที่มี “บุ๋ม รัญญา” ทำหน้าที่ผู้กำกับ แล้วดึงดาราสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” มาสวมบทร้ายแรงๆ ที่น่าจะสะใจกับความแซบมันหยดไม่แพ้เรื่องไหน แต่ดูเหมือนนอกจอจะมันกว่า เมื่อคุณแม่ของสาวพิ้งกี้ มายุ่งวุ่นวายคุมเข้มกับชุดของลูกสาวที่จะต้องใส่เข้าฉากในละครที่ดูโป๊เกินไป

ด้าน สาวพิ้งกี้ เลยต้องออกมาโต้ข่าวแทนคุณแม่ ว่า เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แค่มีคนฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ก็เท่านั้น

“ไม่มีเลย คุณแม่หนูนี่ พอมาถึงกองแล้ว ไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เราอยู่วงการมา 20 ปีแล้ว ไม่มีข่าวแบบนี้ ไม่มีทางที่คุณแม่จะมาก้าวก่าย เราโตแล้ว เรารู้และยอมรับหน้าที่ของแต่ละคนว่าจะต้องทำอะไร บางทีข่าวที่เขาเขียนมา อาจจะฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด แล้วก็เอาไปเขียนโดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง”

“ต้องถามคนในกอง ว่า แม่กี้เป็นคนยังไง ทุกคนจะตอบได้ ต้องไปถามสไตลิสต์ ว่า แม่เขาเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า คนในกองถ่ายทุกคนก็รักคุณแม่ แล้วคุณแม่ก็ทำอาหารมาให้ทุกคนกิน คุณแม่เขาไม่ก้าวก่าย แม้กระทั่งดูมอนิเตอร์เขาก็ไม่ค่อยจะดูเท่าไร เพราะฉะนั้นวับๆ แวมๆ หรือว่าให้คุณแม่มาก้าวก่ายอะไรไม่มีแน่”

เป็นคุณแม่ที่ตามดูแลลูกสาวมาเป็นเวลานาน ก็เพิ่งจะโดนข่าวเอง ถึงกับงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“พอคุณแม่ทราบข่าว แกก็บอกว่า เอาคนแก่มาเกี่ยวทำไม ฉันอยู่ของฉัน (หัวเราะ) คุณแม่ก็เข้าใจว่า มีข่าวก็ต้องแก้กันไปคนแก่ก็ยังเอามาเล่น คุณแม่ไปกองบ้าง ก็จะไปอยู่มุมๆ บางทีคุณแม่ไม่สบาย ก็ไปปูเสื่อนอนที่ไหนสักที่ เรียกให้มาดูรูปยังไม่ค่อยมา บางทีก็มาแต่ก็ไม่ได้มาสบ่อยเท่าไรค่ะ ไม่มีก้าวก่ายค่ะ”

“เข้ามาร่วมงานกับค่ายเป็นครั้งแรก เป็นที่ใหม่ของกี้ด้วย กี้ก็ต้องพยายาม กี้เป็นคนทำงาน ไม่อะไรมากอยู่แล้ว อย่าตอนเล่น ทองประกายแสด เล่นเป็นบ้านนอกเขาให้เราใส่เราก็ใส่ เราได้เล่นเราก็ยอมรับ ไม่มีแอบว่าค่ะ ต้องถามทีมงานว่าคุณแม่เป็นคนยังไง ถ้าคนที่เขียน เขาจะรู้ว่าเราเป็นคนยังไง เขาคงจะเข้าใจ”

กับปัญหาเรื่องชุดที่ใส่โป๊เกินงาม จนไม่สามารถใส่ได้นั้น

“กับคำที่ว่าชุดโป๊คือโป๊ คือ อะไรหนูก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคนเขียนข่าวเขาคิดอะไร แต่ในบทก็ไม่ได้มีอะไรที่ต้องแต่งยั่วมากมาย กี้ในบทต้องเป็นคนมาจากเมืองนอกก็จะแต่งตัวแบบนางแบบค่ะ ที่ถ่ายมาก็อาจจะมีกระโปรงสั้น แต่เราอาจจะขาใหญ่ช่วงนั้นก็อาจจะบอกว่าใส่ยาวหน่อยได้ไหม ขาใหญ่ ไม่ได้ติเลย แต่เป็นการช่วยกันมากกว่า ถามว่า เกร็งไหมถ้าจะเจอสไตลิสต์อีก ไม่นะคะ คือ เรารู้สึกว่าคนบางทีถ้าเราสามารถบอกเขาได้ว่าเรามีข้อบกพร่องก็จะช่วยกันบอกว่าอันนี้ไม่ดีนะ ช่วยเปลี่ยนได้ไหม แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีข่าวแบบนี้ได้ยังไง”
มีข่าวแรงๆ เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่สาวพิ้งกี้ยังกำลังใจดีที่จะสู้ต่อไป

“กี้ก็ไม่ได้รู้สึกจิตตกอะไรค่ะ เพราะไม่ค่อยได้อ่าน เราก็ตั้งใจทำงานเราไป เป็นข่าวมันไม่ใช่ก็ต้องบอกกันไปแบบนี้ค่ะ มีผู้ใหญ่ถามพี่บุ๋มกันทุกคนว่าเป็นยังไง ทุกคนก็จะบอกว่าเอาแม่มาเกี่ยวอะไร มันควรจะเป็นคนอื่นสิ ไม่ใช่แม่กี้ คือ แม่กี้ไม่เคยยุ่งกับใครเลยค่ะ ไม่เข้ากองเลยคุณแม่กี้ เอาจริงๆ ถ้าเป็นแม่เขาก็ต้องดูว่ามันเหมาะหรือเปล่าตามความจริง แต่แม่กี้ไม่เข้าไปยุ่งเลย เห็นก็ไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย แต่เราก็ไม่รู้ว่าใครเอาไปเมาท์เองหรืออะไรแบบนี้ค่ะ ต้องไปถามตัวโปรดิวเซอร์เองว่าคุณแม่เป็นคนยังไง คุณแม่ก็จะบอกแค่ว่าเอาเขาไปยุ่งทำไม เขาแก่แล้ว กี้ก็ไม่อยากไปเครียดแทน เพราะวันๆ บทบาทเราเครียดอยู่แล้ว เอาข่าวไร้สาระมาเครียดมันก็ทำให้เราปวดหัว”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

“พิ้งกี้” ผอมหัวโต เตรียมรับบทนางแบบแย่งแฟนชาวบ้าน ในมารยาริษยา

“พิ้งกี้ สาวิกา” ทุ่มเทลดความอ้วนสุดชีวิต เพื่อมารับบทนางแบบในละคร “มารยาริษยา” จะได้สมบทบาท ปฏิเสธข่าวกิ๊ก “ไมค์ พิรัชต์” ยันไมค์เป็นเพื่อนที่ดีไม่ใช่แฟน และอยากจะทำงานเพลงร่วมกันเท่านั้น

หลังจากที่เอ็กแซ็กท์ให้โอกาส “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” หวนกลับคืนวงการอีกครั้งด้วยการทาบทามมารับบท “ดีนี่” นางแบบจอมฉกแฟน ในละครมารยาริษยาที่ “ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม” เคยเล่นไว้เมื่อ 10 ปีก่อนจนโด่งดัง พิ้งกี้ก็ตั้งใจและทุ่มเทกับเรื่องนี้มาก ล่าสุดลงทุนลดน้ำหนักลงมาอีกทั้งๆ ที่ปกติก็ผอมเพรียวอยู่แล้ว งานนี้เจ้าตัวบอกว่าเพื่อให้เหมาะสมกับบทบาท

“กี้ผอมลงเพราะต้องเดินแบบในเรื่องมารยาริษยา ตอนนี้ก็งดแป้งอย่างข้าว แต่ก็ทานปกติไม่ได้ลดอะไรมากเวลาเล่นก็ต้องสมบทบาทนิดนึง หลายคนก็ทักว่าผอมไปแต่ไม่ได้ผอมจนน่ากลัว ละครตอนนี้ก็กำลังถ่ายกันอยู่คิดว่าน่าจะได้เห็นกันเร็วๆ นี้แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ เราก็ตั้งใจทำงาน ซีนที่ถ่ายแล้วก็ถ่ายไปเยอะเหมือนกัน”

ส่วนเรื่องหัวใจที่ว่ากันว่า “พิ้งกี้” กำลังอินเลิฟกับ “ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” นั้นเจ้าตัวบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกัน และฝ่ายชายก็ไม่ได้มีทีท่ามาจีบแต่อย่างใด

“คือพื้งกี้กับไมค์เป็นเพื่อนกันมานานแล้วค่ะ ส่วนภาพในอินสตาแกรม ก็เป็นภาพในคอนเสิร์ตครั้งที่แล้ว เราอยากทำเพลงด้วยกัน คุยกันมานานแล้ว ไมค์เองก็เปิดเผยพร้อมกับข้อความโพสต์ประมาณว่าอยากร่วมงานกัน ซึ่งมันก็มีโอกาสนะ ว่าเราอยากจะร้องเพลงแบบฟีเจอริ่ง เพราะเราชอบร้องเพลงเหมือนกัน อาจจะได้เห็น”

“ไมค์เป็นคนให้เกียรติทุกคน ไมค์เขารักทุกคน อย่างไมค์นี่คือตายแทนเพื่อนได้เลย เขาเป็นคนรักเพื่อน กับเราเขาเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ เขาให้กำลังใจการทำงาน ไมค์ก็เป็นเพื่อนที่น่ารัก เขาก็คงไม่จีบเราหรอก เพราะถ้าจีบเขาคงจีบไปนานแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่มีใคร ขอพักไปก่อน ไม่อยากเร่งรีบ ถามว่าเข็ดไหมก็ไม่เข็ดหรอกค่ะอายุเราเพิ่ง 25 เอง ยังเป็นวัยที่ไม่อยากมีแฟน ขอทำงานก่อนดีกว่า มันมีอะไรมากมายที่เราต้องเรียนรู้ เอาเวลาไปอ่านบทดูหนังจะได้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องแฟน”

เป็นที่สังเกตว่าตอนนี้ “พิ้งกี้” ผอมลงไปมาก เจ้าตัวบอกว่าตั้งใจลดน้ำหนักเพราะจะมาเล่นบทนางแบบ
ในละคร “มารยาริษยา” ที่ “ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม” เคยเล่นไว้เมื่อ 10 ปีก่อนจนแจ้งเกิดดังระเบิดมาแล้ว

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

“หมอลักษณ์” ฟันธง “พิ้งกี้” จะกลับมาดัง บอก “ฟิล์ม” ต้องอโหสิกรรมให้ “แอนนี่” แล้วจะกลับมารุ่ง

"อาจารย์ลักษณ์” เผย “พิ้งกี้” เข้ามาขอความช่วยเหลือหลังชีวิตตกต่ำ ตนก็เลยช่วยล้างอาถรรพ์ให้ ทำนายต่อไปนางเอกสาวจะโด่งดังเป็นที่ยอมรับแถมจะมีงานโกอินเตอร์ อีกทั้งยังฝากเตือนหนุ่ม “ฟิล์ม”ให้อโหสิกรรมเรื่องราวทั้งหมดแล้วจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

หายหน้าไปจากทำนายดวงดาราและการเมืองไปนานเลยทีเดียวสำหรับ “อาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ” เห็นแต่ข่าวไปทำบุญสร้างวัดในจังหวัดต่างๆ ล่าสุดก็เปิดแถลงข่าวสร้างอนุสาวรีย์แม่ย่าโม วัดศาลาลอย งานนี้อาจารย์ลักษณ์บอกว่า ที่หยุดทำนายดวงเมืองเพราะมักจะโดนเอาข้อมูลไปแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เลยหันมาทำบุญดีกว่า

“หลังจากที่กระแสการเมืองรุนแรง เราไปทายอะไรที่เกี่ยวกับดวงบ้านดวงเมืองก็ส่งผลต่อความรู้สึกของคนใช้ข้อมูลของเราไปแบ่งฝักแบ่งฝ่ายหาประโยชน์ใส่ตัว ผมก็เลยหยุดทายดวงเมืองมาพักใหญ่แล้วตั้งแต่ปี 52 เพราะสิ่งที่เราเคยห้ามเคยเตือนไม่เกิดผลในเชิงมหภาค ผมก็เลยหันมาเดินสายไหว้พระ สร้างวัดในทุกๆ ภาค เพราะต่อไปคนไทยจะแบ่งภาคกันไม่ได้ร่วมกันเป็นหนึ่ง ก็หวังว่าต่อไปพระที่ผมสร้างไว้ในแต่ละภาค จะช่วยรวมใจคนไทยให้กลับมาเป็นหนึ่งได้บ้างก็เท่านั้นเอง เราก็พยายามจะดึงคนมาทำบุญมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่า บุญจะเปลี่ยนทุกอย่าง จากเคราะห์ก็จะกลายเป็นดีได้ จะเห็นได้ว่า หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมคนหันมาทำบุญมากขึ้น”

“อาจารย์ว่าเราควรหันกลับมาพอเพียง ทุกวันนี้ชีวิตส่วนใหญ่ของอาจารย์ก็อยู่ต่างจังหวัด มีความสุขมากไม่กลัวของแพง เพราะอาจารย์ปลูกพืชปลูกผักไว้กินเอง ไม่ไปซื้อใครก็ไม่กลัวข้าวของจะแพงก็แพงไป บอกเลยคนไทยอย่าไปสนใจเรื่องการเมืองมาก หันมาทำมาหากินเข้าวัดทำบุญดีกว่าถ้าทำแบบนี้ชีวิตคนไทยจะมีความสุขมากเลยนะ มันเป็นอะไรที่ยากจะอธิบายต้องลองกันดู”

นานๆ จะเจอ “อาจารย์ลักษณ์” ทั้งที่ผู้สื่อข่าวเลยถามถึงดวงดาราว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาทิเช่นดวงของ “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ที่เริ่มกลับมามีผลงานอีกครั้ง หลังจากโดนกระแสสังคมต่อต้านกรณีมีข่าวเป็นมือที่สาม “ธัญญาเรศ รามรงค์” กับ “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล”

“บอกเลยว่า พิ้งกี้เขาเป็นคนที่น่าสนใจมาก เขาจะกลับมาดัง พิ้งกี้ นี่หลังจากที่มีเรื่องมีราวกับเขาจริงๆ เขาก็มาหาผมนะ เขามาขอคำปรึกษา เราก็แนะนำเขาไปในทางที่มันไม่ผิดศีลธรรมทำให้เขากลับมายืนในวงการบันเทิงได้อีก คงไม่ใช่เพราะเราแนะนำเขาอย่างเดียว คงเป็นเรื่องความคิดความตั้งใจของเขาเพื่อประชาชน อยากจะทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นมากกว่าด้วย อาจารย์ก็เอามหาสังข์ของพระองค์ชายใหญ่มาล้างอาถรรพ์ให้เขา เป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ใส่น้ำรดพิ้งกี้จากนี้เคราะห์จงหมดสิ้นไป ต่อจากนี้ไปเขาจะมีชื่อเสียงมากและโกอินเตอร์นะ”

“อีกคนที่น่าเป็นห่วง คือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ด้วยความที่เขาทำอะไรอยู่เขาย่อมรู้อยู่แก่ใจ ถ้าเขายังใฝ่มีจิตคิดวนอยู่แต่เรื่องเก่าๆ ก็จะเป็นอย่างนี้แหละ เขาต้องตัดให้หมดอโหสิกรรมให้สิ้น คนเราค้าขี้ดีกว่าค้าความ หยุดฟ้องร้อง อโหสิกรรมเขาให้หมด ถอนฟ้องให้หมด ปล่อยให้เวรกรรมเขาทำหน้าที่ตามเขาไปเอง ไม่ต้องไปเป็นผู้พิพากษาเขา แล้วเขาจะกลับมาได้อีก เอาเวลาไปสื่อสารกับแฟนๆ ดีกว่ามานั่งคิดว่ากูไม่ผิด ยอมรับซะว่ามันอาจจะเป็นเวรกรรมกันมาแต่ชาติปางก่อน ฉะนั้นต้องยอมรับกรรมส่วนหนึ่งไปบ้าง และอโหสิกรรมให้เขาซะจะได้หมดเวรหมดกรรมซึ่งกันและกัน เดี๋ยวลูกโตก็รู้เองว่าหน้าตามันจะเหมือนใคร”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์