วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แม่ย่านางเรือ



เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อของกลุ่มคนบางกลุ่ม ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจว่าควรเชื่อมากน้อยเพียงใด



เกือบ 20 ปีแล้วที่ครอบครัวของดิฉันทำประมงอยู่ที่จังหวัดสงขลา ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว เป็นช่วงที่กิจการของครอบครัวรุ่งเรืองมากจนต้องต่อเรือเพิ่มขึ้นอีกหลายลำ และหนึ่งในนั้นได้สั่งต่อไว้ที่อู่เรือคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่พอดีกับคุณพ่อ-คุณแม่นำน้องชายซึ่งพิการทางหูมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแถวนั้น ก่อนกลับก็ได้แวะดูความคืบหน้าของการต่อเรือลำนี้ เมื่อไปถึงเห็นเรือและไม้ที่ใช้ต่อเรือก็กล่าวว่า ไม่ได้มาดูเลยไม่รู้ว่าเอาไม้ที่เป็นตาไม้มาใช้ต่อเรือด้วย อย่างนี้จะทำให้มีรอยแตกได้ในตอนหลัง ส่วนคุณแม่เมื่อได้ยินคุณพ่อกล่าวก็เอ่ยเสริมขึ้นว่า ไม่รู้เอาไม้บ้าอะไรมาใส่ให้



หลังจากตรวจเรือสักพักก็เดินทางกลับ ทางที่จะกลับไปขึ้นรถก็เป็นทางเดียวกับทางเข้าต้องเดินผ่านสะพานไม้ที่เดินได้ทีละคนเท่านั้น คุณพ่อพร้อมน้องชายก็เดินล่วงหน้าไปก่อน ส่วนคุณแม่เดินตามหลังมา ช่วงจังหวะหนึ่งคุณแม่ก็พลาดเดินไปเหยียบแผ่นไม้แผ่นหนึ่งซึ่งตะปูที่ตอกไว้หลุดออกไปทำให้แผ่นไม้นั้นตีกระดกขึ้นมา จะด้วยเหตุบังเอิญฐหรือเพราะเหตุใดไม่ทราบ ไม้แผ่นนั้นก็ตีโดนตรงปากคุณแม่พอดีอย่างเต็มแรง คุณพ่อตกใจมาก เพราะช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นเป็นเวลาเที่ยงวันอากาศค่อนข้างร้อนทำให้เลือดออกมาก รวมทั้งเหงือกของคุณแม่ก็ยังหลุดห้อยออกมาด้วย ตัวคุณแม่เองหลังจากโดนแผ่นไม้ตีปากแล้วก็ยังยืนงงกับเหตุการณ์นั้นอยู่ และยังไม่รู้สึกเจ็บแผลเพราะยังมีอาการชาตรงบริเวณที่โดนตี เมื่อคุณพ่อได้สติจึงรีบนำคุณแม่ส่งคลีนิกที่อยู่ใกล้ๆ ก่อน ซึ่งแพทย์ที่ประจำอยู่เห็นสภาพคุณแม่ที่มีเหงือกหลุดห้อยและเลือดออกมากก็ยังตกใจ แพทย์จึงรีบห้ามเลือดและดันเหงือกให้กับเข้าที่พร้อมกับใช้ลวดมัดไว้ก่อน



กระทั่งคุณแม่กลับถึงบ้านก็ได้มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลหาดใหญ่และต้องรับประทานแต่อาหารอ่อนจนกระทั่งหายดี แต่ผลจากเหตุการณ์นั้นก็ทำให้ฟันของคุณแม่ไม่สบกันเมื่อหุบปาก ตอนนั้นดิฉันเองยังเด็กมาก แต่ก็ยังจำได้ว่าปากของคุณแม่บวมจนดูน่ากลัวมาก คุณแม่เองคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้นเอง



ต่อมา เรือลำดังกล่าวก็ต่อเสร็จและล่องเรือจากอู่กลับมาเทียบท่า รอการทำพิธีบูชาแม่ย่านางเรือก่อนจะนำเรือออกหาปลาต่อไป พิธีนี้เรียกว่าพิธีทำขวัญเรือ ซึ่งผู้ทำพิธีคือ หมอเขียน หลังจากทำพิธีแล้วหมอเขียนได้บอกกับครอบครัวของดิฉันว่าแม่ย่านางเรือลำนี้เป็นถึงระดับเจ้าแม่ ชอบของบูชาเป็นพวกข้าวเหนียวขาวหรือข้าวเหนียวเหลือง แต่ต้องปูผ้าขาวก่อนจะวางของบูชา รวมทั้งต้องบูชาท่านให้ดีๆ แล้วท่านจะให้คุณ



คุณแม่มาทราบภายหลังว่าไม้ที่นำมาต่อเรือลำนี้เป็นไม้ตะเคียนทอง และเป็นที่น่าแปลกว่า เรือลำนี้ไม่มีปัญหาอย่างเรือลำอื่นไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรือรั่ว เรือจม



เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าคุณแม่จะไม่ทราบเหตุที่คุณแม่ต้องบาดเจ็บนั้นเป็นเพียงเหตุบังเอิญหรือเกิดจากการกล่าวลบหลู่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แล้วได้รับการตักเตือนกลับมา แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่คุณแม่ยังจำได้แม่นยำไม่ลืมเลือนเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น