วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

"แอนนี่” ส่งทนายยื่นฟ้อง “เฮียฮ้อ” ข้อหาหมิ่นฯ ส่วน “พจน์” เจออาทิตย์หน้าแต่ไม่ฟ้อง "เมธี" อ้างคดีเยอะอยู่แล้ว

“แอนนี่” ส่งประธานสภาทนายความ และ มูลนิธิเพื่อนหญิง ยื่นฟ้องกรณี “เฮียฮ้อ” หมิ่นประมาท ส่วน “พจน์ อานนท์” โดนอาทิตย์หน้า แต่กลับไม่ฟ้อง “เมธี” อ้างมีคดีเยอะอยู่แล้วคงไม่รอด ลั่นต่อไปนี้ใครว่าแอนนี่ฟ้องดะ ส่วนเรื่องฟิล์มจะฟ้องให้ตรวจดีเอ็นเอหรือเรื่องที่แอนนี่ใส่ชื่อฟิล์มเป็นพ่อเด็ก มูลนิธิเพื่อนหญิงไม่ตอบอ้างยังไม่ได้คุยกัน

เรื่องราวยังไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ สำหรับเรื่องราวของนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” และ ดาราสาว “แอนนี่ บรู้ค” ที่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ณชชญา หรือฐิฎิพร ธนัตถ์ฐิตาภา หรือเสฎฐภูมิ” ที่ในวันนี้ (21 /ต.ค/ 53) เวลา 9.00 น. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี คลอง 6 ได้มี “นายสฤษดิ์ เจียมกมล” ทนายความและประธานสภาทนายความจังหวัดธัญบุรี ได้เดินทางมาพร้อมกับ “นางสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง” หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง เพื่อมายืนฟ้อง “เฮียฮ้อ สรุชัย เชษฐโชติศักดิ์” ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังจากออกมาแฉว่า แอนนี่มีความสัมพันธ์ กับผู้ชาย 4 คน ต่อหน้าสื่อมวลชนและทำให้ ดาราสาวได้รับความเสียหาย และดาราสาวจะเดินทางมาเพื่อทำการไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งในช่วงบ่ายของ วันที่ 20 ธันวาคมนี้ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ส่วนคดีฟ้องเฮียฮ้อฐานหมิ่นนัดอีกครั้ง 15 พ.ย. นี้ โดยทนายความได้เปิดเผยว่า....

“วันนี้มาฟ้องในกรณีเฮียฮ้อพูดถึงเรื่องที่แอนนี่ไปคบผู้ชาย 4 คน คือมันทำให้สังคมเห็นว่าแอนนี่ไปมั่วกับผู้ชายเรื่องนี้มันเป็นความเสียหาย เรื่องรายละเอียดต้องพิจารณาอีกที แต่ว่าเบื้องต้นแอนนี่ต้องการฟ้องเพื่อที่จะปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ไม่อยากให้ใครมาย่ำยี วันนี้ผมเห็นว่ายังไม่จำเป็นที่คุณแอนนี่ต้องมาเอง รอวันไต่สวนมูลฟ้อง 20 ธันวาคมนี้เดี๋ยวเขาจะมาเอง สำหรับคดีนี้ก็คิดว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยความมุ่งหวังของคุณแอนนี่ ที่ต้องการฟ้องร้องเพราะอยากให้สังคมรับรู้ว่าเขาเสียหาย คนที่พูดให้เขาเสียหายต้องรับผิดชอบในคำพูด”

“เรื่องคดีทางแพ่งก็ยังปรึกษาหารือกับแอนนี่กันอยู่ ประเด็นนั้นแอนนี่ยังไม่ได้พูดถึงเท่าไหร่ เพราะเรื่องค่าเสียหายทางแพ่งเราก็ต้องมาดูอีกทีกันว่าจะกำหนดยังไง อันนั้นเป็นเรื่องอนาคต ซึ่งเบื้องต้นแอนนี่ฟ้องเพราะว่า ต้องการปกป้องศักดิ์ศรีไม่คิดสู้รบปรบมือกับเฮียฮ้อ เพราะเฮียฮ้อเขามีสถานภาพทางสังคมเหนือกว่าอยู่แล้ว ความชัดเจนของหลักฐานมันชัดเจนจากสื่อมวลชนอยู่แล้ว คนเรามันต้องเคารพสิทธิ์ในการทำหน้าที่"

“ส่วนตอนนี้ก็เตรียมยื่นฟ้องพจน์ อานนท์ ก็คงฟ้องทำนองเดียวกันข้อหาเดียวกันคือหมิ่นโดยการโฆษณาว่าพจน์เขาพูดถึงแอนนี่ในทางเสียหาย พูดในทำนองที่ว่าแอนนี่ไม่มีคุณค่าพอ เขาพูดหลายครั้ง เลยต้องแกะข้อมูลเยอะหน่อย แต่เฮียฮ้อพูดครั้งเดียว น่าจะยื่นฟ้องภายในอาทิตย์หน้า ทางคุณพจน์ก็ไม่มีติดต่อเข้ามาที่จะพยายามเบรกฟ้องคดี เรื่องเบรกฟ้องทนายคงเบรกไม่ได้ คุณแอนนี่ต้องตัดสินใจ เราทำคดีเราก็ทำตามจรรยาบรรณ จะมาติดต่อเราไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไกล่เกลี่ยยังไงคุณแอนนี่ต้องตัดสินใจ”

“ส่วนเรื่องที่คุณแอนนี่ตัดสินใจไม่ฟ้องคุณเมธี เพราะคุณแอนนี่เขาพูดแบบนี้ครับว่า เขาไม่ถือเอาความเพราะเขาคงไม่รอดอยู่แล้ว เพราะคดีเขาเยอะว่าคุณเมธีคงไม่รอด ก็คงไม่ฟ้องถึงยังไงเขาต้องถูกดำเนินคดีเรื่องอื่นๆ อยู่แล้ว”

“ เรื่องดีเอ็นเอฟิล์มจะยื่นฟ้องหรือไม่ วันนี้ผมว่าไม่เกี่ยวกันเลย มันเป็นเรื่องของคน 2 คน ที่เขาจะไปใช้เวลาดำเนินการพิสูจน์กัน บุคคลที่ 3 ที่มาพูดทำให้แอนนี่เสียหาย วันนี้ตรงนี้เราจะเน้นประเด็นนี้ครับ ส่วนตรวจดีเอ็นเอหรือไม่อย่างไรมันเป็นสิทธิของแอนนี่ที่จะตัดสินใจ เขามีเหตุผลอย่างไรผมว่าเขาให้ข้อมูลไปแล้ว ซึ่งสำหรับผลเขาให้เหตุผลที่ดีพอสมควร เขาว่าตรวจไปแล้วแล้วยังไง เดิมทีจะไม่รับแต่วันนี้จะมาตรวจ เพื่ออะไร ลูกผู้หญิงเมื่อไปมีอะไรกับใครแล้วเกิดมีท้องขึ้นมา ผู้ชายบอกว่าจะขอตรวจดีเอ็นเอ มันก็ต้องเสียความรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดา"

“ถ้าต่อไปนี้ใครมีการพูดพาดพิงถึงคุณแอนนี่อีกเราก็ต้องดูพิจาณาเป็นรายๆไป เรื่องแสดงความคิดเห็นอะไรบางครั้งมันต้องหยุดการกระทำเพราะมันเป็นการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคน สังคมไทยควรเคารพสิทธิซึ่งกันและกันได้แล้ว อย่าใช้สถานภาพที่เหนือกว่ามารังแกมันก็ไม่ถูก"

ด้าน “นางสุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง” หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง เผยสภาพจิตใจของ “แอนนี่” ดีขึ้น พร้อมแนะดาราสาวให้ต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเอง ปัดไม่ตอบกรณีพจน์ มีหลักฐานเด็ดที่ทุกคนเห็นแล้วต้องอึ้งทึ่ง แจงขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวทางองค์กรขอไม่ก้าวก่าย

“เรื่องสภาพจิตใจแอนนี่ตอนนี้เริ่มดีขึ้น คุณแอนนี่ไม่ต้องเก็บตัวแล้ว ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ไม่ได้ไปที่หน้าคอนโดเขาแล้ว(ยิ้ม) เมื่อวานเราไปคอนโดเขารู้สึกว่าทางสะดวก ซึ่งทุกทีไปกล้องเต็มไปหมด ต้องขอบคุณมาก เขาก็รอดูว่าตอนนี้สังคมและคนรอบข้างมองดูเขายังไง คนรอบข้างที่อยู่ใกล้เขาจะเข้าใจมากเขาแค่ไหน”

“ทางมูลนิธิบอกเขาตลอดว่าการที่จะกู้ศักดิ์ศรีของเขากลับมาได้คือการใช้สิทธิ์ทางกฎหมาย เราย้ำอยู่กับเขาตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่ขั้นตอนตามกฏหมายจะไปใช้วิธีอื่นก็ลำบาก มีคนพูดหมิ่นประมาทแอนนี่ชัดเจน โดยมูลนิธิเพื่อนหญิงก็จะคอยทำหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิสตรีในการละเมิด แล้วก็เรื่องของสิทธิเด็กสิทธิในความเป็นมนุษย์ เราย้ำกับเขาอยู่ตลอดเวลา ว่าการที่จะให้เรากลับมาเข้มแข็งได้เหมือนเดิมคือการใช้สิทธิปกป้องตัวเอง โดยทางมูลนิธิเพื่อนหญิงและสภาทนายความศาลจังหวัดธัญบุรี ยินดีดำเนินการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย คุณแอนนี่ไม่ต้องเสียเงินสักสลึงเพราะเป็นหน้าที่ขององค์กรอยู่แล้ว”

“กรณีนี้มันจะสร้างบรรทัดฐานและความเป็นส่วนตัวของสิทธิมนุษยชน คนที่พูดเขาขาดความเคารพสิทธิ์ตรงนี้ ที่สำคัญสมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์ก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถือว่าสื่อมวลชนจะได้มีการเรียนรู้ไปด้วยกันว่า การนำเสนอข่าวความสร้างสรรค์ ชี้แนะทางออกไม่ใช่การยั่วยุ"

“ในความคิดของมูลนิธิเพื่อนหญิงเห็นว่าฟิล์มเป็นสุภาพบุรุษหรือไม่ที่ให้ความช่วยเหลือแอนนี่ อืม...ต้องไปถามเขาเอง พอดีเป็นผู้หญิงและก็ไม่เคยคุยกับเขาเลย เราตอบแทนเขาไม่ได้ผิดมารยาท ส่วนถ้าฝ่ายชายเขาจะยื่นฟ้องร้องให้ตรวจดีเอ็นเอ ก็คงต้องรอให้ถึงเวลาก่อน แล้วกรณีเรื่องที่แอนนี่เขาใส่ชื่อฟิล์มเป็นพ่อของเด็ก เนื่องจากเรื่องนี้เราไม่ได้คุยกันเราต้องย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของคดีหมิ่นประมาทอย่างเดียว ส่วนคดีอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยมารยาททั้ง 2 องค์กรเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล"

“ส่วนเรื่องที่คุณพจน์ บอกว่ามีหลักฐานสำคัญที่ทุกคนเห็นแล้วอาจจะอึ้งทึ้ง ดิฉันว่ามันเป็นคนละเรื่อง เป็นการพูดคนละเรื่องถึงเวลา ค่อยมาคุยกัน แต่วันนี้ดิฉันจะขอพูดในเรื่องของการฟ้องหมิ่นขอความร่วมมือทุกคนโปรดระวังในการนำเสนอข่าวที่เกี่ยวกับเด็ก สำหรับการดูแลลูกเขาเองก็ดูแลดีอยู่แล้วไม่น่าเป็นห่วงอะไร”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น