วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สามล้อผีสิง

เมื่อเด็กๆ ดิฉันอยู่กับพ่อแม่ในซอยสินทรัพย์ ใกล้กับซอยระนอง 2 ถนนพระราม 5 ในซอยนี้มีรถตุ๊กตุ๊ก ให้เช่ามากค่ะ ตอนกลางคืนจะมีรถว่างๆจอดเรียงกันตามข้างทางเกือบสิบคัน

ซอยนี้ตอนกลางวันกับตอนหัวค่ำค่อนข้างคึกคัก ผู้คนขวักไขว่ รถราแล่นเข้าออกหนาตา แต่ตกดึกค่อนข้างเปลี่ยวเอาการ

มีร้านอาหารและร้านกาแฟที่พวกคนขับรถแวะมากิน ทั้งคนมาส่งรถและรับรถ มีการตั้งวงเหล้ากันเกือบทุกวัน คุยกันเรื่องหากินดีหรือไม่ดีบ้าง เรื่องผู้โดยสารบ้าง รวมทั้งเรื่องอื่นๆ จิปาถะ

คนในซอยสะดวกอย่างตรงที่ไปไหนใกล้ๆ ก็เรียกรถได้เลย ไม่ต้องเดินไปถึงถนนใหญ่ บางคนก็จ้างให้ไปรับ-ส่งลูกหลานที่เรียนหนังสือเป็นประจำทุกวัน

พวกเขาเชื่อเรื่องโชคลางกันมากค่ะ ถ้าได้ผู้โดยสารเที่ยวแรกดีๆ หมายถึงไม่ต่อราคา บางคนอาจจะแถมพิเศษถ้ารถติด ก็เชื่อว่าจะหากินคล่องตลอดวัน เรียกว่า "ประเดิมดี" คนขับตุ๊กตุ๊กรุ่นเก่าจะสอนรุ่นใหม่ให้บอกผู้โดยสารว่าเป็นเที่ยวแรก ก็จะรู้กันนัยๆ ว่าขอให้ช่วยประเดิมเขาดีๆหน่อยจะได้มีโชคเป็นพิเศษ

ตรงกันข้าม ถ้าเที่ยวแรกโดนต่อรองมากๆ หรือตกลงกันไม่สำเร็จ ก็แทบจะหมดกำลังใจหาเงินไปทั้งวัน

อีกเรื่องหนึ่งคือการคลอดลูกในรถระหว่างไปโรงพยาบาล ทั้งคนขับรถแท็กซี่และสามล้อจะเชื่อตรงกันหมดว่าเป็นโชคลาภ อาจจะถูกล็อตเตอรี่หรือหวยใต้ดินได้ง่ายๆเพราะมีคนโชคดีหลายรายแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็หากินคล่อง หักค่าเช่าค่าน้ำมันแล้วยังมีเงินเหลือเป็นกอบเป็นกำ

แต่ถ้าเกิดมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยอาการหนัก แล้วไปขาดใจตายคารถก่อนถึงโรงพยาบาล จะทำให้เคราะห์ร้ายไปนาน!


วันหนึ่ง คนในซอยชื่อน้าองุ่นเกิดเจ็บท้องใกล้คลอด สามีรีบเรียกรถตุ๊กตุ๊กไปโรงพยาบาลวชิระ น้าองุ่นร้องครวญครางโอดโอยจนแน่นิ่งไปก่อนจะถึงมือแพทย์

แกขาดใจตายในรถตุ๊กตุ๊กคันนั้นเอง!

หลังจากงานศพผ่านไปไม่นาน ชาวบ้านในซอยสินทรัพย์ก็รู้สึกเยือกเย็นวังเวงใจชอบกล หมาจะเห่าหอนตั้งแต่ตอนเย็นๆ แล้ว ยิ่งกลางค่ำกลางคืนพวกมันจะโก่งคอหอนโหยหวนน่าขนลุก.....

หลายๆ คนยืนยันว่าหมาจะเห่าหอนอยู่แถวๆ ข้างถนนที่รถตุ๊กตุ๊กจอดเรียงรายกันนั่นเอง

คนขับรถเจ้ากรรมคันนั้นชื่อลุงผิน แกบอกว่าไม่อยากคิดอะไรมากเพราะถือว่าได้ช่วยเหลือเต็มที่แล้ว แต่ก็น่าแปลกที่ตั้งแต่น้าองุ่นตายในรถ การหากินก็เริ่มฝืดเคืองลงทุกที เวลาขับรถเปล่าๆ หาผู้โดยสาร มักจะรู้สึกว่ามีใครนั่งอยู่หลังเสมอ พอหันไปมองก็ไม่เห็นอะไรชัดเจน นอกจากรูปเงาวูบๆ วาบๆ น่าขนลุก

สังเกตว่าคนที่รอรถก็ไม่โบกเรียก จะว่ารอแท็กซี่ก็เปล่า เพราะเรียกสามล้อคันหลังขึ้นนั่งแทน

บางครั้งเห็นคนยืนรอรถจ้องมองมาแต่ไกลแล้วกลับเมิน จนกระทั่งแกชะลอรถเข้าไปใกล้นั่นแหละ เขาถึงได้โบกมือเรียก พอขึ้นไปนั่งก็บ่นกับแกว่าตาฝาด ...เมื่อกี้เห็นมีผู้หญิงนั่งอยู่บนรถ จนกระทั่งเข้ามาใกล้ๆ ถึงได้เห็นชัดว่ารถว่าง

ลุงอินเล่าว่าขนหัวลุกซู่ แน่ใจว่าวิญญาณน้าองุ่นยังสิงสู่อยู่ในรถที่เธอหมดลมหายใจอย่างแน่นอน!

จะขอเปลี่ยนรถก็ไม่มีใครยอมเปลี่ยน เพราะหวาดกลัวผีแม่ลูกอ่อนกันทั้งนั้น ด้วยความเชื่อว่าผีตายทั้งกลมเฮี้ยนนัก วิญญาณดุร้ายน่ากลัวจนเกินกว่าจะไปวัดดวงหรือล้อเล่นกันง่ายๆ

เสียงเล่าลือเรื่องวิญญาณน้าองุ่นสิงรถตุ๊กตุ๊ก เริ่มจะซาลง สองผัวเมียคู่หนึ่งก็เจอดีเข้าอย่างจัง

ลุงเสิดกับป้าเม่าเป็นขาไพ่ตองที่เล่นกันตั้งแต่เที่ยงวันอาทิตย์ กว่าจะเลิกก็สองยาม-ตีหนึ่ง บ่อนเลิกขาไพ่ก็แยกย้ายกันกลับบ้านที่อยู่ใกล้ๆ แต่สองผัวเมียวัยชราต้องเดินผ่านแถวรถสามล้อเพื่อกลับบ้านที่อยู่ถัดเข้าไปทางก้นซอย

ระยะแรกๆ ก็นึกหวาดเหมือนกัน แต่เมื่อไม่เห็นอะไรน่าหวาดเสียวก็ค่อยคลายใจลงทุกที

คืนเกิดเหตุ สองผัวเมียเดินผ่านแถวสามล้อไปเงียบๆ แม้ว่าจะอยู่คนละฝั่งถนน แต่ป้าเม่าแว่วเสียงครวญครางเบาๆมาจากฝั่งตรงข้าม ก็สะกิดบอกลุงเสิด ...ทั้งสองหันไปดูโดยไม่ได้ตั้งใจ

ท่ามกลางแสงไฟเยือกเย็น หมาหอนโจ๋วมากับสายลมยามดึก สรรพสิ่งดูเงียบงันเหมือนโลกร้าง ...ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในรถตุ๊กตุ๊กคันท้าย พลางหันมามองอย่างเชื่องช้า ...น้าองุ่นนั่นเอง!

เสียงแผดร้องดังลั่นในความเงียบ ชาวบ้านแตกตื่นเข้ามาดู สองตายายวิ่งอ้าวไม่คิดชีวิตไปถึงบ้าน ...ลุงอินรู้ข่าวก็เลิกเช่ารถที่นั่นอีกต่อไป เจ้าของต้องขายทิ้งในราคาถูกๆ ป่านนี้วิญญาณน้าองุ่นยังจะนั่งรถเล่นหรือไปผุดไปเกิดแล้วก็ไม่ทราบค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น