ตามข้อมูลที่ได้จาดวีดีโอสั้นๆนี้นะครับ ในวีดีโอดังกล่าวได้กล่าวว่า หลายปีก่อนได้มีการจับภาพ UFO ได้ด้วยกล้องที่ใช้ฟิล์มอิฟาเรส โดยช่างกล้องมือดี ชื่อว่า Trevor James Constableในปี 1950’s และเขาได้ข้อสรุปว่า UFO บางชนิดไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ด้วยความสามารถของกล้องดังกล่าวที่สามารถจับสัญญาณคลื่นของจานบินดังกล่าวได้ โดยเห็นเป็นลักษณะคล้ายๆรอยด่างบนภาพ James จึงตั้งสมมุติฐานว่า Some UFOs live with Creature กล่าว คือ พวกเค้าอาศัยอยู่กับมนุษย์ และเค้าเรียกมัน ว่า Critters (แปลว่า บุคคล สัตว์ หรือ สิ่งที่สร้างขึ้น)
ในปี 1994’s Jose Escamilla ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Rods คือ มีวัตถุประหลาดลักษณะแท่งยาวๆคล้ายแท่งโลหะสีเงิน ลอยเป็นกลุ่มด้วยความเร็วสูงบนท้องฟ้าในเมืองต่างๆ แต่ยากที่จะมองเห็น เค้าจึงได้คิดค้นระบบการถ่ายภาพใหม่ จึงสามารถจับภาพวัตถุดังกล่าวได้ อย่างชัดเจน
ในปี 1995’s ขณะที่นักบินอวกาศสองคน ของNASA ปฏิบัติหน้าที่ในอวกาศนอกโลก และมีการถ่ายทอดภาพวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวลงมายังโลก ปรากฏว่าภาพที่ถ่ายทอดลงมายังโลกถ่ายติดวัตถุลึกลับ Unidentified Flying Object หรือ UFO ที่กำลังบินออกมาจากชันบรรยากาศของโลก ด้วยเหตุการณ์นี้เอง จึงเป็นสามารถให้เกิดการถกเถียงในหมู่ชนว่า “How much NASA know about UFO?” กล่าวคือ NASAรู้เรื่องมนุษย์ต่างดาวมากน้อยขนาดไหน ดังในวีดีโอบรรยาย บรรยากาศของการทำงานของมนุษย์อวกาศว่า “Looks like you’ve got an object right in front of you Mark can you look out there?” (ดูเหมือนว่าคุณได้วัตถุ (หรือ จานบิน) ด้านขวาข้างหน้าคุณ Mark!! คุณสามารถมองเห็นตรงนั้นไหม และ มนุษย์อวกาศ ตอบไปว่า “I don’t see what you are talking about.”( ผมไม่เห็นว่าอะไรที่คุณกำลังพูดถึง) แล้วการสนทนาก็สิ้นสุดที่ Never mind ของ Martyn Stubbs , Secret NASA Transmissions.
ใน NASA Infra-Red UFO footage ได้เปิดเผยภาพจานบินต่างๆที่สามารถบันทึกในช่วงหลายปีก่อน ซึ่งภาพเหล่านั้นก็ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนแต่อย่างใด ทุกวันนี้การปรากฏตัวของ UFOs ดังกล่าวสามารถถูกจับภาพได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในการประดิษฐ์กล้องบันทึกภาพอย่างง่าย โดยมีช่างกล้องฝีมือดีคนหนึ่งได้คิดค้นวิธีในการบันทึกภาพ UFOs โดย ตั้งกล้องสองตัวไว้ในที่เดียวกัน เค้าบอกว่าใช้วิธีนี้สิ Two cam-recorders of the same Make and Model are set up side by side. Camera one on the left is set for regular daytime recording และ Camera Two on the right is set on Night-shoot which has been converted to shoot in broad daynight. เมื่อเค้าใช้กล้องทั้งสองส่ายไปในท้องฟ้าเวลากลางวันแจ้งๆนี่ล่ะครับ เพื่อหาUFOs
ผลปรากฏออกมาว่า ในกล้องที่ตั้งค่าเป็นเวลากลางวันไม่สามารถจับภาพใดได้เลย แต่ในกล้องตัวที่ตั้งเป็นการถ่ายภาพกลางคืน กลับที่ภาพUFOลอยอยู่ในกล้องอย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้เค้าจึงสรุปว่า จานบินที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบันไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ถ้าอยากเห็นต้องอาศัยเทคนิคทางการถ่ายภาพที่ถูกวิธีเท่านั้นเองล่ะ อันนี้น่าจะเอาไปลองที่วัดบ้างนะครับ เผื่อแถวๆวัดเราอาจจะมี เพื่อนต่างโลกมาทำบุญบ้าง
Astronaut Edgar Michell- The Disclosure Project Apollo 14 หนึ่งในนักบินอวกาศที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์กล่าวโดยใจความว่า เป็นเวลานานที่Nasaไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้แก่สาธารณชน ส่วน Colonel Phillip J.Corso, The Disclosure Project Head of Foreign Technology –The Pentagon กล่าวโดยใจความ ว่า ให้เปิดเผยเรื่องUFOแก่ชนรุ่นหลังเถอะ เค้าเหล่านั้นไม่ได้โง่ อย่าไปโกหกพวกเค้าด้วยการกุเรื่องปกปิด
สรุปง่ายๆ ว่า ขนาดนักบินNASAเองก็รู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่เค้าไม่สามารถพูดได้ก็เท่านั้นเอง
แต่อยากจะบอกเค้าเหมือนกันว่า พุทธศาสนารู้มาสองพันแล้ว ตั้งแต่สมัยคุณๆทั้งหลายเชื่อว่า โลกแบนอยู่เลย
ในปี 1994’s Jose Escamilla ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Rods คือ มีวัตถุประหลาดลักษณะแท่งยาวๆคล้ายแท่งโลหะสีเงิน ลอยเป็นกลุ่มด้วยความเร็วสูงบนท้องฟ้าในเมืองต่างๆ แต่ยากที่จะมองเห็น เค้าจึงได้คิดค้นระบบการถ่ายภาพใหม่ จึงสามารถจับภาพวัตถุดังกล่าวได้ อย่างชัดเจน
ในปี 1995’s ขณะที่นักบินอวกาศสองคน ของNASA ปฏิบัติหน้าที่ในอวกาศนอกโลก และมีการถ่ายทอดภาพวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวลงมายังโลก ปรากฏว่าภาพที่ถ่ายทอดลงมายังโลกถ่ายติดวัตถุลึกลับ Unidentified Flying Object หรือ UFO ที่กำลังบินออกมาจากชันบรรยากาศของโลก ด้วยเหตุการณ์นี้เอง จึงเป็นสามารถให้เกิดการถกเถียงในหมู่ชนว่า “How much NASA know about UFO?” กล่าวคือ NASAรู้เรื่องมนุษย์ต่างดาวมากน้อยขนาดไหน ดังในวีดีโอบรรยาย บรรยากาศของการทำงานของมนุษย์อวกาศว่า “Looks like you’ve got an object right in front of you Mark can you look out there?” (ดูเหมือนว่าคุณได้วัตถุ (หรือ จานบิน) ด้านขวาข้างหน้าคุณ Mark!! คุณสามารถมองเห็นตรงนั้นไหม และ มนุษย์อวกาศ ตอบไปว่า “I don’t see what you are talking about.”( ผมไม่เห็นว่าอะไรที่คุณกำลังพูดถึง) แล้วการสนทนาก็สิ้นสุดที่ Never mind ของ Martyn Stubbs , Secret NASA Transmissions.
ใน NASA Infra-Red UFO footage ได้เปิดเผยภาพจานบินต่างๆที่สามารถบันทึกในช่วงหลายปีก่อน ซึ่งภาพเหล่านั้นก็ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนแต่อย่างใด ทุกวันนี้การปรากฏตัวของ UFOs ดังกล่าวสามารถถูกจับภาพได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในการประดิษฐ์กล้องบันทึกภาพอย่างง่าย โดยมีช่างกล้องฝีมือดีคนหนึ่งได้คิดค้นวิธีในการบันทึกภาพ UFOs โดย ตั้งกล้องสองตัวไว้ในที่เดียวกัน เค้าบอกว่าใช้วิธีนี้สิ Two cam-recorders of the same Make and Model are set up side by side. Camera one on the left is set for regular daytime recording และ Camera Two on the right is set on Night-shoot which has been converted to shoot in broad daynight. เมื่อเค้าใช้กล้องทั้งสองส่ายไปในท้องฟ้าเวลากลางวันแจ้งๆนี่ล่ะครับ เพื่อหาUFOs
ผลปรากฏออกมาว่า ในกล้องที่ตั้งค่าเป็นเวลากลางวันไม่สามารถจับภาพใดได้เลย แต่ในกล้องตัวที่ตั้งเป็นการถ่ายภาพกลางคืน กลับที่ภาพUFOลอยอยู่ในกล้องอย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้เค้าจึงสรุปว่า จานบินที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบันไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ถ้าอยากเห็นต้องอาศัยเทคนิคทางการถ่ายภาพที่ถูกวิธีเท่านั้นเองล่ะ อันนี้น่าจะเอาไปลองที่วัดบ้างนะครับ เผื่อแถวๆวัดเราอาจจะมี เพื่อนต่างโลกมาทำบุญบ้าง
Astronaut Edgar Michell- The Disclosure Project Apollo 14 หนึ่งในนักบินอวกาศที่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์กล่าวโดยใจความว่า เป็นเวลานานที่Nasaไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้แก่สาธารณชน ส่วน Colonel Phillip J.Corso, The Disclosure Project Head of Foreign Technology –The Pentagon กล่าวโดยใจความ ว่า ให้เปิดเผยเรื่องUFOแก่ชนรุ่นหลังเถอะ เค้าเหล่านั้นไม่ได้โง่ อย่าไปโกหกพวกเค้าด้วยการกุเรื่องปกปิด
สรุปง่ายๆ ว่า ขนาดนักบินNASAเองก็รู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่เค้าไม่สามารถพูดได้ก็เท่านั้นเอง
แต่อยากจะบอกเค้าเหมือนกันว่า พุทธศาสนารู้มาสองพันแล้ว ตั้งแต่สมัยคุณๆทั้งหลายเชื่อว่า โลกแบนอยู่เลย
____________________
เครดิต : O_HO_O_HO
____________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น