ชีวิตช่วงนี้ดูเหมือนอะไรจะดีไปซะทั้งหมดในส่วนของสาว “ญาญ่า ญิ๋ง” ทั้งได้ร่วมงานกับดาราฮอลลีวูดใน "Only God Forgives" ส่วนละครเรื่อง "ต้มยำลำซิ่ง" เสียงตอบรับก็เป็นไปในทางที่ดี นอกจากนี้เจ้าตัวยังได้รับคำชมว่าดูสวยขึ้นจนผิดหูผิดตา กระทั่งมีคนอดเม้าท์ไม่ได้ว่าไปทำศัลยกรรมอะไรมาหรือเปล่า?“ก็ต้องขอบคุณนะคะ อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ญิ๋งทำงานหนักค่ะ ก็เลยผอมลง ตอนนี้น้ำหนักลงไป 3 กก.แล้ว และช่วงนี้เราเริ่มออกกำลังกายมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น แหมก็แก่แล้ว (หัวเราะ) ก็จะมีบริเวณที่เหนียงยานที่เกิดขึ้น เราเริ่มรู้สึกว่าใกล้ 30 ปี ก็ควรต้องดูแลตัวเองมากขึ้น อะไรอย่างนี้มากกว่าค่ะ”
“ส่วนที่มีข่าวว่าญิ๋งไปทำศัลยกรรมมา คือไม่ใช่แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ถ้าศัลยกรรมยอมรับว่าญิ๋งทำแค่ทำจมูกเท่านั้น แล้วก็มีบ้างที่นวดหน้าขัดตัวเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่ถ้าจะให้ถึงขั้นเหลากราม ผ่าตัดเลย ญิ๋งไม่ได้ทำแน่นอนค่ะ สาเหตุที่ไม่ทำ เพราะว่าเป็นคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ต้องการให้หน้าดูเรียวหน้าเล็กลง"
"เรารู้ว่าเป็นคนหน้าเหลี่ยม แต่หน้าทรงแบบนี้เป็นทรงที่ฝั่งตะวันตกเขาอยากได้หน้าสาวไทยจริงๆ เพราะฉะนั้นงานที่เป็นหนังต่างประเทศ เขายังสนใจคาแรคเตอร์ผู้หญิงที่เป็นแบบนี้ เราก็ยังไม่สามารถทำหน้าเรียวกว่านี้ได้ ญิ๋งว่าเราขายหน้าแบบนี้ไปก่อนละกันค่ะ”
เผยเตรียมฟิตหุ่นให้เฟิร์มเพื่อแชะหวิว...“ปีนี้มีแน่นอนค่ะ ก็มีติดต่อมา 2 เล่ม ส่วนเล่มไหนก็ยังบอกไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เริ่มถ่าย อยากให้รอติดตามดูค่ะ แต่จะเริ่มถ่ายภายในเดือนมี.ค.นี้ ก็เซ็กซี่ทั่วไป ไม่ได้เซ็กซี่หวือหวาอะไรมาก"
"จริงๆ เป็นการถ่ายเซ็กซี่ครั้งแรก เพราะเราก็ไม่ได้มีโอกาสถ่ายเซ็กซี่อยู่แล้ว และที่ตัดสินใจถ่ายจริงๆ มันอยู่ที่ตัวงานด้วย มากกว่า เพราะเรารู้สึกว่าที่เขาติดต่อมา เขาน่าจะเล็งเห็นว่าเราพอจะเซ็กซี่ได้บ้าง เราก็อยากมีภาพเก็บไว้สวยๆ เพื่อวันหนึ่งในอนาคตเราชราภาพกว่านี้ก็ยังมีอะไรเก็บไว้ให้ลูกหลานได้ภูมิใจบ้างค่ะ (หัวเราะ)”
“ค่าตัวก็ไม่ได้เยอะมากค่ะ เป็นตัวเลขปกติทั่วไปตามที่ทุกคนถ่ายกัน แล้วญิ๋งก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเยอะแยะอยู่แล้ว เราถือว่ามันเป็นงาน ส่วนว่าจะโป๊หรือเปล่า ก็แล้วแต่คอนเซ็ปต์ของแต่ละเล่ม"
ส่วนกรณีภาพหลุดสวีตหวานกับหนุ่มไฮโซหนุ่มเบ ทายาทธุรกิจเซรามิคชื่อดัง ซึ่งฝ่ายชายเคยผ่านการแต่งงานกับภรรยาสาวชาวญี่ปุ่น แถมมีลูกด้วยกันแล้วถึง 3 คนมาแล้วนั้น เรื่องนี้นักแสดงสาวบอกไม่ขอพูดถึงเพราะเรื่องจบไปนานแล้ว
“ตอนนี้ญิ๋งขอโฟกัสที่เรื่องงานดีกว่า สำหรับเรื่องความรักต่อไปญิ๋งอาจจะโสดไม่นานก็ได้ ไม่มีใครรู้ อาจจะมีใครสักคนก็ได้แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามา เราไม่ได้รู้สึกถึงความนิ่งความเหงาที่เราต้องมีใครหรือคนรู้ใจ คือญิ๋งแฮปปี้มากกับการที่ได้ทำงานในวงการ"
"ดีใจมากที่ได้กลับมาเล่นละครอีกครั้งหนึ่ง แม้กระทั่งไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบ การเล่นหนัง ซึ่งญิ๋งคิดว่ามันน้อย เพราะว่าชีวิตเราเองมันขึ้นและลงเยอะมาก ดังนั้นเมื่อถึงเวลาตอนนี้ ณ เวลานี้ก็อยากจะดูแลสิ่งที่เรามีอยู่ในมือให้ดี ทั้งเรื่องงาน หรือเรื่องอะไรก็ตามให้ดีที่สุดก่อน ญิ๋งเชื่อว่าถ้าเมื่องานดีชีวิตดี ทุกอย่างก็จะตามมาเอง ดังนั้นหญิงก็ไม่คิดอะไรตอนนี้”
เจ้าตัวออกปากสุดปลื้มกระแสตอบรับละคร "ต้มยำลำซิ่ง" ดีมากๆ พร้อมเตรียมตัวรับบทร้ายใน “เดอะซิกส์เซ้นส์”...“ละครต้มยำลำซึ่งกระแสดีค่ะ ซึ่งบอกได้เลยเป็นเรื่องที่เราได้กลับมา และทำให้คนเราได้รู้จักญิ๋งอีกครั้ง ในฐานะของนักแสดง จริงๆ เวลาคนคิดถึงภาพญาญ่าญิ๋งทุกคนก็จะคิดถึงภาพนักร้องเป็นส่วนใหญ่"
"เคยได้อ่านเว็บบ้าง ก็มีคนแบบไม่เชื่อว่าเราจะเล่นได้ เรารู้สึกดีใจว่าสิ่งที่เราตั้งใจ สิ่งที่เราพยายาม ความคาดหวังต่างๆ ที่ทำ ก็ต้องขอบคุณทุกเสียงที่มีทั้งชมทั้งติ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่เราหายไปนาน แล้วก็ไม่ได้มีผลงานอะไร ก็เลยไม่มีผลงานเปรียบเทียบกับเรื่องก่อนๆ ก็เลยมีชมเสียส่วนใหญ่”
“จากนี้ก็มีเรื่องเดอะซิกส์เซ้นส์ เป็นการเปิดตัวน้องๆ นางเอกใหม่ ซึ่งน้องๆ น่ารักมาก ตอนนี้ก็กำลังถ่ายทำอยู่เป็นของช่อง 3 เหมือนกัน เรื่องนี้จะร้ายแบบดุ จะไม่ได้ร้ายแบบนางอิจฉาแล้ว อันนี้ก็จะเป็นละครแนวฆาตกรรมสืบสวน เรียกว่าถูกหาตกรรม ก็จะร้ายเป็นผีเป็นวิญญาณความร้ายแบบมีมูฟเม้นท์"
"คือถ้าฟ้าใส(ตัวละครในต้มยำลำซิ่ง) เขาร้ายแบบกรี๊ด ส่วนใบหม่อน (ตัวละครในเดอะซิกส์เซ้นส์) อันนี้เขาจะร้ายแบบตะคอก เป็นวิญญาณที่อาฆาตพยาบาท เรื่องนี้เล่นเป็นผี แต่เป็นผีหน้าไม่เละ (หัวเราะ) และต้องโหนสลิง ดำน้ำด้วย มันก็จะเป็นอีกบทบาทนึงที่เปลี่ยนลุค”
“ญิ๋งเลือกจากบทที่เราคิดว่าท้าทายการแสดง ไม่ได้เลือกว่าบทใหญ่บทเล็ก อย่างบทผีเป็นบทที่รู้สึกว่าถ้าเราทำได้ดีมันก็เหมือนกับว่าเราทำความเข้าใจกับแอคติ้งในอีกระดับหนึ่ง นางอิจฉาหรือตัวร้ายอย่างฟ้าใสมันก็ยังเป็นระดับที่เป็นมนุษย์ จะโกรธจะเกลียดอะไร อย่างตัวใบหม่อนตัวผีในเรื่องเดอะซิกเซ้นส์เขาตายไปแล้ว ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จุดนี้เป็นขั้นอาฆาตพยาบาทจะเอาชีวิตคน มันก็จะเป็นระดับความยากของการตีความตัวละคร แบบหนึ่ง ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไป”
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น