วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ผีนางตะเคียน

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เล่าขานกันมานานในหมู่บ้านที่ดิฉันอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัดทางภาคกลางนี่เอง

เมื่อช่วงปิดเทอมใหญ่ ในเดือนเมษายน เหล่านักศึกษาพัฒนาชุมชนต่างก็ต้องมีหน้าที่ออกค่ายอาสา ที่จังหวัดนครนายก สถานที่ที่นักศึกษาจะต้องไปช่วยกันปรับปรุงซ่อมแซม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง ในหมู่บ้านของดิฉันที่จังหวัดนครนายกนี่เองค่ะ เป็นวัดที่ห่างไกลความเจริญ น้ำไฟก็ไม่มีใช้เหมือนกับชาวกรุงเทพ ชาวบ้านต้องใช้น้ำจากลำคลอง และส่วนไฟก็จะใช้ตะเกียงหรือเทียนแทนไฟฟ้า เพราะห่างไกลความเจริญมาก แต่ว่าหมู่บ้านนี้ห่างจากหมู่บ้านที่ดิฉันอยู่ประมาณ 40 กว่ากิโล แต่หมู่บ้านนั้นมีญาติบางคนของดิฉันอาศัยอยู่ จึงได้มีโอกาสไปนั่งฟังเรื่องราวชวนขนลุกนี้มาจากคนในหมู่บ้าน

ถึงจะทุกข์ยากลำบากกันแค่ไหน พวกนักศึกษาพัฒนาชุมชนก็ไม่หวั่น มุ่งหน้าที่จะพัฒนาวัดเก่าแก่ให้ดูงดงามให้จนได้ และจะทำให้ดูงดงามมากที่สุด และการเดินทางไปยังที่วัดเก่าแก่แห่งนั้น พวกนักศึกษาชายก็ต้องไปอาศัยอยู่ที่วัด ส่วนนักศึกษาหญิงก็ไปอาศัยอยู่ที่บ้านผู้ใหญ่บ้านกันหมด บริเวณวัดกว้างมาก ไม่มีรั้วล้อม แต่ก็เต็มไปด้วยต้นไม้รก ปกคลุมวัดอยู่โดยรอบ และด้านหลังของวัดก็จะมีแม่น้ำไหลผ่าน มีต้นตะเคียนใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำ


นักศึกษาชายก็ช่วยกัน ขนไม้บ้าง กระเบื้องบ้าง อุปกรณ์ทำงานบ้าง ช่วยกันไปคนละไม้ละมือ และพวกนักศึกษาหญิงก็ช่วยกันเก็บกวาดลานวัดโดยรอบ มีอยู่คืนหนึ่ง มีนักศึกษาชายคนหนึ่งชื่อว่า "หนุ่ย" หนุ่ยได้เกิดอยากสูบบุหรี่ขึ้นมากลางดึก จึงต้องออกไปหาที่ๆ เหมาะสมต่อการสูบบุหรี่ เพราะว่าเขาจะให้ใครมาเห็นและรับรู้ไม่ได้เด็ดขาด แม้แต่เพื่อนก็ให้รับรู้ไม่ได้ เขาจึงค่อยๆก้าวย่องออกจากมุ้งอย่างเงียบที่สุด และออกไปทางหลังวัด เลาะป่าไม้หลังวัดไปยังท่าน้ำ เขาก็ได้ไปพบกับต้นตะเคียนใหญ่ริมน้ำต้นหนึ่ง และ เขาจึงหยุดยืนสูบบุหรี่อยู่ใต้ต้นตะเคียนนนั่น เพราะเขาคิดว่าคงไม่มีใครมาเห็นแน่นอน หนุ่ยกำลังสูบบุหรี่อยู่ดีๆ ก็เห็นหญิงคนหนึ่ง แต่งชุดไทย เดินออกไปนั่งที่ท่าน้ำ ด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง เหมือนกับคนที่กำลังจะคิดสั้น หนุ่ยจึงเข้าไปถาม

"นี่ๆ พี่สาว ทำไมหน้าตาดูเศร้าหมองแบบนั้นล่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า"

หญิงผู้นั้นเลยตอบว่า "พี่มีปัญหาที่บ้านพี่ พี่อยุ่บ้านไม่ได้ พี่กลับบ้านไม่ได้ พี่ไม่มีบ้านอยู่แล้ว"

หญิงผู้นั้นบอกกับหนุ่ยพร้อมกับน้ำตานองไหล หนุ่ยเลยถามกลับไปว่า

"แล้วพี่มีอะไรจะให้ผมช่วยไหมล่ะครับ ถ้าผมช่วยได้ผมจะชวยพี่"

"มีสิ พี่มีแน่นอน พี่อยากให้น้องช่วยพี่อย่างนึงน่ะ"

"แล้วพี่ต้องการให้ผมช่วยอะไรล่ะครับ"

"พี่ต้องการบ้านหลังหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องหรูหรามาก ขอแค่ให้พี่ได้มีที่อยุ่อาศัยก็พอ "

หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นแต่เยือกเย็น จนน่าขนลุกมากจากน้ำเสียงของเธอ

"บ้านหนึ่งหลัง!!!"

หนุ่ยอุทานออกมาด้วยความตกใจสุดขีด เพราะแค่นักศึกษาธรรมดาๆอย่างเขาจะเอาปัญญาที่ไหนไปซื้อบ้าน บ้านหลังนึงก็ปาไปไม่น้อยเลย ไม่ต่ำกว่าแสน และนักศึกษาอย่างเขาจะไปเอาเงินแสนมาจากไหนเพื่อมาซื้อบ้านให้กับเธอ

"ตกใจอะไร หรือ บ้านหลังที่พี่ต้องการเนี่ยมันไม่เป็นปัญหาสำหรับนักศึกษาอย่างน้องหรอก"
"แต่บ้านหลังนึงเนี่ยต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่าแสนเลยนะครับ แล้วผมจะไปเอาเงินมาจากไหน"

หญิงสาวคนนั้นเริ่มมีอาการโกรธ จึงหันหน้ามาต่อว่าหนุ่ย

"หรือเอ็งจะผิดสัญญากับข้าฮะ รู้มั้ยว่าข้าเป็นใคร บ้านที่ข้าต้องการให้เอ้งสร้างก็แค่หลังเท่าศาลเพียงตาเท่านั้นแหละ"

"นี่พี่เล่นตลกอะไรกับผมเนี่ยครับ เล็กแค่นั้นพี่จะเข้าไปอยู่ได้อย่างไรเล่า"
"ตกลงเอ็งจะทำให้ข้าหรือไม่ เอ็งจะผิดสัญญากับข้าหรอ เอ็งไปถามผู้ใหญ่ และคนในหมู่บ้านดูสิว่ารู้จักข้าหรือเปล่า"

หญิงสาวคนนั้นท่าทางโกรธมาก หนุ่ยจึงเริ่มใจคอไม่ดีและถามกลับไปเสียงสั่นๆว่า

"แล้วทำไมพี่ต้องโกรธผมด้วยล่ะครับ"
"ก็เอ็งมันผิดสัญญากับข้าก่อนทำไม ใครก็ช่างที่มันกล้าผิดสัญญากับข้า มันต้องเจอดีทุกรายไป"

ร่างของหญิงสาวสวย บัดนี้ไม่สวยอีกแล้ว เพราะร่างนั้นได้กลายสภาพเป็นศพเน่าเฟะ ส่งกลิ่นอบอวลไปหมด จนหนุ่ยตัวแข็งทื่อแน่นิ่งลงไปกับพื้น และหมดสติไปพักใหญ่ จนรุ่งเช้าเพื่อนๆและอาจารย์และอีกหลายๆคนในหมู่บ้านต่างช่วยกันออกตามหาหนุ่ย จนผู้ใหญ่บ้านได้บอกให้ไปลองหาดูที่ต้นตะเคียนหลังวัดดูปรากฏว่าพบร่างของหนุ่ยนอนแน่นิ่งอยู่ใต้ต้นตะเคียนนั้น ทุกคนจึงช่วยกันนำหนุ่ยกลับไปยังวัด รอจนหนุ่ยฟื้น หนุ่ยจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับทุกคนฟัง ผู้ใหญ่บ้านจึงบอกว่า นั่นคือวิญญาณของผู้หญิงที่ชื่อ สายทอง เธอถูกสามีทอดทิ้งเพราะสามีเธอนำภรรยาใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน จึงทำให้สายทองรับไม่ได้ เธอเลยกระโดดน้ำตายตรงนั้น และวิญญาณเธอก็ไม่ยอมไปไหน วิญญาณของสายทองเลยสิงอยู่ที่ต้นตะเคียนต้นนั้นมาจนทุกวันนี้ หลายคนพบเจอเธออยู่บ่อยๆ และเธอก็ขอร้องให้ทุกคนช่วยหานู่นหานี่ให้เธออยู่บ่อยๆ และถ้าใครทำตามที่เธอขอ ก็มักจะเจอสิ่งปาฏิหารย์อยู่บ่อยๆ แต่ใครที่ผิดสัญญาหรือไม่ยอมทำตาม ก็จะได้เจอดีแบบที่หนุ่ยเจอ
อาจารย์และเพื่อนๆจึงขอร้องให้ผู้ใหญ่พาไปซื้อศาลมาตั้งไว้และเชิญวิญญาณของ สายทองมาอยู่ในศาลที่เขาได้ซื้อมาให้เธอ และหลังจากนั้นเป้นต้นมา คนในหมู่บ้านจึง สักการะและเคารพ เจ้าแม่สายทองมาจนทุกวันนี้ และสามีของ สายทองก็นำภรรยามาขออโหสิกรรม และสายทองก็อโหสิกรรมให้ คนในหมู่บ้านจึงมาบนบานศาลกล่าว กันเยอะแยะตราบจนทุกวันนี้ และหนุ่ยก็เจอปาฎิหารย์บ่อยครั้งเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น