เป็นคุณพ่อลูกสองที่ฮอตขึ้นหิ้งจริงๆ สำหรับหนุ่ม “เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” ที่แม้จะแต่งงานกับนักแสดงสาว “หน่อย บุษกร” จนมีลูกด้วยกันถึง 2 หน่อแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นพระเอกที่ฮอตงานวิ่งเข้าไม่มีสร่างซา โดยเจ้าตัวเผยว่าแม้จะมีงานพุ่งชนอย่างแต่เนื่อง แต่ตนก็ยังหาเวลาอยู่กับครอบครัวได้เสมอ“งานเยอะมีเวลาดูแลลูกน้อยลงไหม จริงๆ มีเวลาดูมากขึ้นเพราะว่าละครปิดไปแล้วเรื่องนึง อีกเรื่องก็ใกล้จะเปิด คราวนี้ก็เหลือแต่ละครเวที ตอนนี้คนเล็กก็อายุ 3 เดือนยังเล่นอะไรไม่ได้ ส่วนน้องคุน (คุนนธรรม) 2 ขวบก็ซนมากวิ่งปีนป่าย แต่ก็ต้องปล่อยๆ เขา ถ้าเขาเจ็บตัวเขาก็จะวิ่งกลับมาเอง แต่เขาก็อยากจะเล่นกับน้อง ก็พยายามไปจุ๊กจิ๊กกับน้องตลอด เอาของไปยื่นจะให้น้องกิน แบ่งของเล่นให้น้องอะไรอย่างนี้ แต่ว่าน้องยังเล่นไม่ได้ แล้วคุนพอมีน้องเขาก็มีอารมณ์อิจฉาน้องเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่มาก ประมาณว่าอ้อนเรามากขึ้นกว่าเดิม แต่เขาก็ต้องปรับตัว จริงๆ ตอนนี้น้องคุนถือว่ารู้เรื่องแล้ว เราก็ต้องพูดคุยอธิบายให้เขาฟัง”
“ส่วนที่คุณหน่อยอยากกลับมาทำงานแล้ว ก็มีคุยๆ กันบ้างครับ ตอนนี้น้องจุนยังเด็กอยู่ แล้วคุณหน่อยก็ยังต้องก็ให้นมน้องอยู่ด้วย อย่างน้อยสัก 6 เดือนแหละครับ ถึงจะได้เริ่มขยับขยายเพราะนมแม่สำคัญ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่เขาคงกลับมา ส่วนงานพรีเซ็นเตอร์โฆษณาทั้งครอบครัวยังไม่มีครับ”
ส่วนผลงานละคร “365 วันแห่งรัก” ที่ประกบนางเอกคู่ใจ “แอน ทองประสม” ที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าดูแผ่วกว่าเรื่องอื่นที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวบอกขอให้ติดตามไปก่อนเพราะละครเพิ่งออกอากาศ
"ฟีดแบคละครก็โอเคครับ ก็มีหมดทั้งดีและไม่ดี บางคนก็บอกว่าสนุกดี แต่บางคนก็บอกว่าดูแล้วเครียด หลายคนบอกว่าเรื่องนี้เล่นคู่กับคุณแอนแล้วผมดูแผ่วจากเรื่องก่อนๆ คือมันก็ต้องตามนั้นแหละครับ(หัวเราะ) ก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว สุดท้ายก็ต้องให้คนดูตัดสิน เพราะเราทำงานก็ทำเต็มที่ คนดูจะว่ายังไงเราก็ต้องแล้วแต่คนดูด้วย แต่ผมว่ามันก็เพิ่งฉายมา 3 วันเอง ไม่รู้นะแต่ยังไงก็ต้องเป็นคนดูที่ตัดสิน แต่ก็มีคนพูดเยอะนะ โดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรอยู่แล้ว"
“คุณหน่อยว่าไงบ้างเหรอ เขาก็ไม่อะไรนะครับ เพราะเขาก็ดูละครผมมาเยอะแล้ว ถามว่ามีส่วนไหนที่คล้ายครอบครัวเราไหม คงไม่เหมือนอย่างนั้น ผมว่าเทียบเคียงได้มากกว่า มันก็เป็นอารมณ์ของคนมีชีวิตคู่ที่อยู่ด้วยกัน อาจจะมีความรู้สึกแบบนี้ อาจจะมีทะเลาะกัน แต่มันคงไม่ได้เอามาจากชีวิตจริง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น