“หลังจากมีข่าวคราวก็หายไป อยู่ตามป่าตามเขา อยู่บนดอย นอนในรถบ้าง ไปเจอคนใจดีให้ที่พักพิงกินข้าวปลาบ้าง ก็ค่อนข้างลำบาก ช่วงที่อยู่เชียงคานก็รู้สึกว่าชีวิตอยู่กับคนบ้า คนเสียสติ ทำให้เราแย่ แล้วมีกระแสข่าวขึ้นมาอีกครั้ง พอดีกับที่ธานได้ดูมิวสิกวิดีโอเพลง เทเลโฟน ของ เลดี้ กาก้า ซึ่งในมิวสิกวิดีโอ เลดี้ กาก้าจะถูกขังอยู่ในคุก ดูแล้วรู้สึกเหมือนชีวิตตัวเองมาก ทำให้คิดและสำนึกได้ว่า เราต้องออกมาต่อสู้และพูดความจริงเสียที”
นอกจากนี้ “นาธาน” ยังยอมรับอีกว่า ที่ผ่านมา เป็นคนโกหกลวงโลก ตั้งแต่เข้าวงการมาชีวิตได้ถูกผู้มีพระคุณ ซึ่งเป็นกุนซืออยู่ 5-6 คน คอยบอกให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ จัดวางไว้หมดแล้วว่า ต้องเป็นลูกครึ่ง พูดได้ 5 ภาษา ซึ่งมันไม่ใช่ความจริง แต่ “นาธาน” เป็นคนที่ต้องการความรัก ต้องการความอบอุ่น กลัวว่าคนจะไม่รัก เลยต้องจำใจโกหกตามที่ผู้มีพระคุณได้วางหมากเอาไว้ เพื่อให้คนรัก และหันมาสนใจ นอกจากนี้ “นาธาน” ยังเข้าใจว่า คนทั่วไปชอบเรื่องโกหก เวลาที่พูดความจริงจะไม่เคยเชื่อ แต่พอโกหกทุกคนเชื่อกัน มันเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเป็นเรื่องเป็นราวจนถึงทุกวันนี้
แต่ ณ วันนี้ “นาธาน” ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว ไม่มีภาพลักษณ์ที่ต้องรักษาเพื่อผู้มีพระคุณหรือเพื่อใคร จึงอยากจะขอเป็นตัวของตัวเอง จะพูดความจริงทุกอย่าง และทำทุกอย่างในแบบฉบับตัวตนของ “นาธาน” จริงๆ ที่จะทั้งกินเหล้าและสูบบุหรี่ พร้อมยอมรับว่าพูด 5 ภาษาตามที่เคยกล่าวอ้างไม่ได้ ไม่เคยเล่นหนังฮอลลีวู้ด ต่อไปนี้ทุกคนจะได้เห็น “นาธาน” ตัวจริง จะดีหรือเลวอย่างไรก็ให้มันเป็นไป
ส่วนกับคำถามเรื่องโกงเงินคนไปทั่ว และที่ผ่านมาไม่เคยคิดโทษตัวเองเลยใช่หรือไม่ “นาธาน” ตอบโดยไม่มีท่าทีสะทกสะท้านโบ้ยว่า
“อย่างที่ธานบอกว่า ที่ผ่านมา เหมือนอยู่กับคนบ้า ธานต้องโกหกเพื่อความสบายใจ ถามว่า เคยคิดโทษตัวเองไหม ก็มีบ้าง แต่คนรอบข้างทำให้เราต้องโกหก แต่ต่อไปจะไม่โกหกอีกแล้ว”
และยังมีอีกมากมายหลายคำถามที่จี้แทงใจดำและตรงประเด็น ทำให้ “นาธาน” แสดงอาการร้อนรนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนจะเป็นเช่นไรติดตามชมกันได้เต็มๆ ในรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” คืนวันอาทิตย์ที่ 12 และ 19 ธันวาคมนี้
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น