วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“ผอ.ช่อง9” ฟาดเปรี้ยง ปลด “พิ้งกี้” จาก “อิเหนา” แต่ไม่ปิดกั้นหากมีงานที่เหมาะสมจะป้อนให้

“ผอ.ช่อง9” ฟาดเปรี้ยง ปลด “พิ้งกี้” จาก “อิเหนา” ดึง “เจี๊ยบ ลลนา” เสียบแทน ยัน ไม่เกี่ยวกระแสสังคมกดดัน อ้าง ทำตามนโยบายช่องที่อยากผลักดันนางงามในช่อง แต่ลั่น ไม่ปิดกั้นสาวพิ้งกี้ หากมีงานที่เหมาะสมยินดีป้อนให้ทำ บอก อนาคตคงต้องมีการตรวจสอบเบื้องหลังคนที่จะดึงมาร่วมงานให้มากขึ้น ก่อนเผย ปีนี้โมเดิร์นไนน์ปรับโฉมใหม่ ชูจุดขายทุกรายการดูได้ทั้งครอบครัว

ถูกพูดถึงมากเลยทีเดียว เกี่ยวกับกรณีที่โมเดิร์นไนน์ทีวีจะดึงนางเอกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” มาเล่นละครฟอร์มยักษ์เรื่อง “สุดหัวใจ เจ้าชายเทวดา” ละครที่ใช้เค้าโครงมาจากวรรณกรรมเรื่อง “อิเหนา” พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งผลิตโดยค่าย “กันตนา” ว่า กล้าสวนกระแสสังคม ดึงนางเอกที่มีข่าวอื้อฉาวมาร่วมงาน ทั้งที่ค่ายละครต่างๆ ยังพากันลังเล ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้(15 ก.พ.) “นายธนวัฒน์ วันสม” กรรมการอำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ก็ได้ออกมาแถลงข่าวถึงบทสรุปเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยตัดสินใจถอดสาวพี้งกี้ออกจากการเป็นนางเอกเรื่องอิเหนา แล้วดึง “เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์” นางสาวไทยประจำปีประจำปี 2549 มาเสียบแทนแบบส้มหล่น

ท่ามกลางกระแสข่าว ว่า เหตุผลที่ทางสถานีสั่งปลดพิ้งกี้กลางอากาศ ก็เนื่องมาจากทนกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไหว และอีกประการหนึ่งก็คือขัดแย้งกับนโนบายของทางสถานี ที่เชิดชูสถาบันครอบครัว อย่างไรก็ตามกับเรื่องนี้ นายธนวัฒน์ ได้ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับข่าวฉาวที่เกิดขึ้น เพราะมองเป็นเรื่องส่วนตัว พร้อมลั่น กระแสสังคมไม่มีส่วนกดดันการตัดสินใจขนาดนั้น เพียงแต่อยากทำตามนโนบายใหม่ของทางสถานี ที่ต้องการสนับสนุนบุคคลากรที่ผ่านเวทีการประกวดต่างๆ ของโมเดิร์นไนน์

“จริงๆ ประเด็นนี้เราได้มีการเปิดช่วงเวลาในการนำเสนอทีวีซีรีย์ในช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการโทรทัศน์ที่จะมีทีวีซีรีย์ให้ดูยาวเลยตลอด 5 วัน โดยเสนอ 5 ตอนต่อสัปดาห์ จะเห็นว่าเรื่องนี้จุดขายคือเป็นเรื่องที่เป็นบทประพันธ์พระราชนิพนธ์ที่คลาสสิคอยู่แล้ว แต่เรานำมาปรับรูปแบบในการนำเสนอในแบบร่วมสมัย จะเห็นได้เลยว่า มีเทคนิคหลายอย่าง รวมถึงการเสนอในรูปแบบของ 3 มิติ จริงๆ แล้วจุดขายคือทางด้าน เนื้อเรื่อง การนำเสนอในมุมมองที่ใหม่ แล้วก็เรื่องเทคนิคการถ่ายทำ”
“แล้วทางอสมท.เอง เรามีนโยบายอยากจะสนับสนุนศิลปิน ดาราที่อยู่ในเครือ หรือว่ามีความเกี่ยวพันกับเรา และต้องตอบว่าเวทีนางสาวไทยเป็นเวทีที่เราให้การสนับสนุน เรามีการจัดประกวดกันทุกปี มีนางสาวไทยหลายๆ คนเลยที่มีความสามารถทางด้านการแสดง ตรงนี้เราเปิดโอกาสให้เข้ามาแคสติ้ง เพื่อเฟ้นหานักแสดงที่เหมาะสม สุดท้ายแล้วก็คิดว่าคุณเจี๊ยบเป็นคนที่เหมาะสม อีกอย่างเขาเองก็เคยผ่านงานแสดงมาก่อน”

“ในการเลือกคุณเจี๊ยบ ก็เป็นการเลือกโดยลงความเห็นร่วมกับทางค่ายกันตนา อย่างตอนแรกที่มีข่าวลือออกมาว่าเป็นโจอี้(อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์) เล่น ต้องเรียนว่า ตรงนี้ทางกันตนาเป็นคนคัดเลือกนักแสดงครับ ถามว่าจะเป็นโจอี้ เจี๊ยบหรือว่าอดีตสาวงามคนอื่นๆ ก็ไปคัดเลือกกันหมดครับ เราเปิดโอกาสให้หมดครับ”

“แต่ที่ไม่เลือกพิ้งกี้ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องของความไม่เหมาะสมกับบทเลยครับ มันคนละประเด็น จริงๆ เราคุยกับทางกันตนาก็วางไว้ว่า เรายังมีโปรเจ็กต์อื่นๆ ที่จะทำงานร่วมกัน หรือแม้แต่ทางน้องพิ้งกี้เอง เราก็ไม่ได้ปิดกั้น หากมีโปรเจ็กต์อื่นที่มันเหมาะสมในการทำงานร่วมกัน เราไม่ได้ปิดกั้นครับ แล้วเรามีการคุยกับทางผู้จัดในเชิงนี้ด้วย”

“เรื่องความกดดันของทางสถานีกับข่าว ผมเรียนอย่างนี้ดีกว่าครับ เรามีไนน์เอ็นเตอร์เทนที่ทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารบันเทิงในวงการ มันมีหลายมิติอยู่แล้ว มีทั้งในส่วนของผลงานที่ผลิตออกไปที่เราพยายามโปรโมทหลายช่องทาง แต่อะไรที่มันเป็นประเด็นลบตรงนี้เราเองก็ไม่อยากจะไปเน้นในจุดนั้น”

ยัน ไม่เกี่ยวเคยเป็นที่ปรึกษาค่ายกันตนา จึงยินดีสนับสนุนสาว “พิ้งกี้” ร่วมงาน ย้ำ กระแสสังคมไม่เกี่ยวทำสถานีกดดันจนสั่งปลด เผย คงต้องมีการตรวจสอบประวัติบุคลากรที่จะมาร่วมงานเพิ่มมากขึ้น

“กับผู้จัดทุกราย ผมเองก็รู้จักกันมาก่อนหน้าที่จะมารับตำแหน่งอยู่แล้ว จะสนิทมากหรือน้อยก็ต่างกันไป แต่เมื่อเวลามารับตำแหน่ง ณ ตอนนี้เราก็อยากจะให้สิ่งที่นำเสนอผ่านสื่อของสถานีเรานั้นดีที่สุด ก็เรียนว่าทุกๆ รายการหรือแม้กระทั้งรายการเกมโชว์เราก็มีการคุยกันกับผู้จัดเสมอ หรือแม้กระทั่งรายการข่าว ซีรีย์ตรงไหนที่เราคิดว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเราก็เข้าไปดูแล กระแสสังคมไม่มีส่วนกดดันเราขนาดนั้น อย่างที่บอกว่ามันคนละประเด็นกัน เรามีการพูดคุยกับทางผู้จัดถึงละครเรื่องอิเหนาอยู่ตลอด และยังมีโปรเจ็กต์อื่นสำหรับน้องพิ้งกี้ ที่เราจะร่วมงานกันได้”

“ถามว่า ต่อไปการคัดบุคลากรมาร่วมงาน ต้องคิดหนักและตรวจสอบประวัติมากขึ้นหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาอีก มันก็คงต้องในระดับนึง จริงๆ ต้องเรียนว่าเราให้อิสระกับผู้ผลิตค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบทประพันธ์ เทคนิคการถ่ายทำ หรือแม้แต่ตัวดาราเอง ส่วนใหญ่เราจะไม่ค่อยได้เข้าไปกำหนดว่าต้องเป็นคนนั้นคนนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ทางสถานีเรามีนโยบายใหม่ที่จะให้ความสำคัญมากขึ้น กับศิลปินที่เกิดจากเวทีประกวดต่างๆ จากสถานีเราเพื่อที่จะได้สานต่ออย่างเป็นรูปธรรม”

พร้อมกันนี้ นายธนวัฒน์ ยังได้เผยถึงการปรับผังใหม่ของโมเดิร์นไนน์ หวังปีนี้จะสามารถเรียกความนิยมจากผู้ชมเพิ่มมากขึ้น ก่อนชูจุดขายทุกรายการดูได้ทั้งครอบครัว

“ปีนี้เราช้ำว่า Together ไปร่วมกัน เราถือว่าผู้ชมทางบ้านมีส่วนสำคัญ ผังใหม่เราจะประสบความสำเร็จหรือไม่วัดกันที่ว่าจำนวนผู้ชม เราจะขึ้นรึเปล่า ได้รับการตอบรับที่ดีไหมจากผู้ชมทางบ้าน เรามีการปรับปรุงในหลายๆส่วน ทั้งปรุงแต่งสาระในด้านของการนำเสนอข่าว รายการสาระบันเทิงที่เป็นจุดเด่น หรือแม้แต่รายการบันเทิงเองเราเน้นว่าเรามีจุดขายตรงที่รายการของเราทุกรายการสามารถดูได้ทั้งครอบครัว ทุกมิติเราก็ปรับเพื่อให้ผู้ชมทางบ้าน”

“ด้านข่าวเราจะเข้มข้นขนาดไหน สำนักข่าวไทยเป็นหน่วยงานผลิตข่าวสำคัญอันนึงของอสมท.อยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าการนำเสนอเรามีการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิค กราฟฟิกในการนำเสนอ แต่ก็หนีไม่พ้นเรื่องของผู้ประกาศข่าวก็เป็นจุดสำคัญ ถือว่าเป็นจุดขายอย่างนึงของการนำเสนอข่าว ปีนี้เราก็มีผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 6 ราย เราก็มีเพิ่มเวลาข่าวด้วย”

“เราให้ความสำคัญและเน้นไปที่รายการข่าว และสาระเพิ่มมากขึ้นเรามีการผลิตเอง และมีส่วนรายการที่ร่วมผลิตมากขึ้น จะเห็นมิติของการทำหลายๆ อย่างร่วมกันมากขึ้น นักแสดงหรือคนที่จบจากเรียลริตี้ของอสมท.อาจจะไปปรากฏอยู่ในซิทคอมหรือรายการเกมโชว์ รายการสาระบันเทิงอื่นๆ ของช่องก็จะเห็นภาพของการทำงานร่วมกันมากขึ้น”

“ทั้งนี้ผังใหม่ของทางสถานีจัดภายใต้คอนเซ็ปต์ เก้าใหม่ไปด้วยกัน New Nine Together โดยเพิ่มสัดส่วนของความบันเทิงให้หลากหลายไปกับสาระ ทั้งนี้รายการ ล้วงลับตับแตก ได้เปลี่ยนชื่อรายการใหม่เป็น ล้วงลับUpload เพิ่มความสนุกและให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับทางสถานี รวมไปถึงเพิ่มซีรีย์น้ำดีถึง 5 เรื่องด้วยกัน รายการต่างๆ ก็มีการปรับสาระให้เข้มข้นขึ้น”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น