วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

นิวยอร์กตื่น! 'สัตว์ประหลาด' เกยตื้นใต้สะพานบรูกลิน









สัตว์ประหลาด เกยตื้นตายใต้สะพานบรูกลิน ชาวนิวยอร์กแตกตื่น เชื่อเป็น "มอนทอก มอนสเตอร์" ที่เคยโผล่ให้เห็นเมื่อ 4 ปีก่อน...







สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 27 ก.ค. ว่า ชาวนิวยอร์กพากันแตกตื่น หลังพบ "สัตว์ประหลาด" รูปร่างหน้าตาน่าเกลียดพิลึก ไร้ขน มี 5 นิ้วเหมือนมนุษย์ เกยตื้นตายใต้สะพานบรูกลิน ต่างขนานนามกันว่า "สัตว์ประหลาดแมนฮัตตัน" รวมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสัตว์ชนิดใดกันแน่ ทั้งหนูยักษ์ที่อาศัยอยู่ตามท่อน้ำ หมู หมาขึ้นอืด หรืออะไรที่ดูเลวร้ายกว่านั้น























ภาพดังกล่าวถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ โดย เดนิส กินลีย์ ช่างภาพมือสมัครเล่น ขณะที่เขากำลังเดินเรียบแม่น้ำฝั่งตะวันออก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22 ก.ค.) ประชาชนบางส่วน เชื่อว่าอาจเป็นจำพวกเดียวกับ "มอนทอก มอนสเตอร์" ที่เคยพบมาก่อนแล้ว ในย่านธุรกิจมอนทอก รัฐนิวยอร์ก เมื่อปี 2008 และมีลักษณะคล้ายกับตัวกัปปะ รวมถึงคล้ายกับสัตว์ประหลาดที่พบครั้งล่าสุดนี้เช่นกัน


 




 








ด้านทางการนิวยอร์กไม่ได้ให้ความสนใจกับการค้นพบสุดสยองครั้งนี้ โดยชี้ว่าเป็นเพียงหมูธรรมดาเท่านั้น ซึ่งแย้งต่อสายตาชาวเมืองเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากหมู หรือ สุกร มีกีบเท้าแตกต่างจากสัตว์ประหลาดที่พบอย่างสิ้นเชิง ขณะที่ ดร.พอล เคอร์ทิส ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า แนะว่าอาจเป็นเพียงลูกสุนัขที่ตาย และลอยอืดมาตามน้ำ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้สิ่งมีชีวิตดังกล่าว ยังคงเป็นปริศนาให้ชาวเมืองคาดเดากันไปต่างๆ นานาเช่นเดิม.





เปรียบเทียบกับขาหมู


       แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เพราะเหตุใดทางการรัฐนิวยอร์กจึงรีบออกมาด่วนสรุปว่าสิ่งที่พบเป็นเพียงหมูย่าง ทั้งที่ยังไม่มีการตรวจสอบโดยละเอียด ทำให้บรรดานักทฤษฎีสมคบคิดบางกลุ่มถึงกับลงความเห็นว่าทางการอาจต้องการปกปิดความลับเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดดังกล่าวซึ่งอาจมาจากนอกโลก หรือไม่ก็อาจเป็นซากของสัตว์ที่หลงเหลือจากการทดลองอาวุธชนิดใหม่ของกองทัพสหรัฐฯ





มอนทอก มอนสเตอร์














ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/oversea/279144

http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000092433



____________________

เครดิต :

________________________________



อ้างอิง :

________________________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น