และเมื่อมีความพยายามไกล่เกลี่ยกันมาถึง 5 ครั้งแล้ว ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (11 พ.ย.) หนุ่มบี๋ได้เดินทางมายังศาลแขวงพระนครเหนือ รัชดาฯ เพื่อไกล่เกลี่ยกับน้ำหวานเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งระหว่างรอฟังผลการไกล่เกลี่ยจากคำตัดสินของศาล พิธีกรหนุ่มได้รับคำแนะนำให้ออกมาสงบสติอารมณ์ข้างนอก เนื่องจากไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีไม่ลงตัว
จากนั้นศาลได้แนะให้ทั้งโจทก์และจำเลยทำตามนโยบายของศาล โดยให้ทั้งคู่ถอนฟ้องยอมความกัน ซึ่งพิธีกรหนุ่มเป็นบุคคลสาธารณะจึงควรเป็นต้นแบบของสังคม บี๋จึงยินยอมถอนฟ้องน้ำหวานแต่โดยดี และได้เงินจากคู่กรณีมาจำนวนหนึ่ง โดยเจ้าตัวเผยว่าพอใจกับผลการตัดสินแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจำนวนเงินที่ได้คืนจากน้ำหวาน ไม่ขอระบุว่าได้คืนมาเท่าไหร่ เพราะเป็นข้อตกลงกันในชั้นศาล แย้มแต่เพียงแค่ 1 ใน 4 ของจำนวน 5 ล้านบาทเท่านั้น
พร้อมกันนี้บี๋ยังได้ตัดพ้อว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อยกับเรื่องนี้มาก คงเป็นเวรกรรมของตน เชื่อคนชั่วทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ทั้งยังฝากเตือนประชาชนให้ระวังอย่าหลงเชื่อผู้ที่มาชักชวนให้เล่นโควต้าหวย เพราะเป็นการหลอกลวงจากเหล่ามิจฉาชีพ และจะมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลเหมือนตน ส่วนที่เคยตั้งใจไว้ว่าหากชนะคดีและได้เงินครบตามจำนวน 5 ล้าน จะขอลาบวชทันที แต่ในเมื่อไม่ได้ผลตามที่ตั้งไว้จึงเล็งไปสะเดาะเคราะห์แทน
ในส่วนของคดีแม้จะจบกับจำเลยที่ 1 ไปแล้ว บี๋ยืนยันว่ายังไม่ยอมหยุด โดยจะเดินหน้าตามล่าหาจำเลยที่ 2 คือ นางช้องมาศ เทพาศักดิ์ ต่อ ซึ่งขณะที่พูดถึงพิธีกรหนุ่มได้หยิบรูปของคู่กรณีมาโชว์ให้ทุกคนได้เห็นหน้ากันชัดๆ พร้อมประกาศตั้งค่าหัว หากใครพบเห็นจำเลยที่ 2 จะมอบให้ทันที 2 แสนบาท ทั้งยังบอกเหยื่อที่เคยโดนนางช้องมาศโกงรวมกับตนเป็นจำนวนเงิน 200 ล้านบาท และเคยไปแจ้งความไว้ที่ดีเอสไอ ให้มารวมตัวกันตามจับนางช้องมาศ วอนหากใครพบเห็นให้ช่วยรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
น้ำหวาน พัสวี พยัคฆบุตร
โฉมหน้านางช้องมาศ เทพาศักดิ์ ที่บี๋ประกาศตั้งค่าหัวตามล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น